Play it, Sam.. Play “As time goes by”
You must remember this
A kiss is just a kiss
A sigh is just a sigh
A fundamental things apply
As time goes by

And when two lovers woo
They still say I love you
On that you can rely
No matter what the future brings
As time goes by...

คงไม่สายเกินไปนะคะสำหรับการแสดงความยินดีกับภาพยนตร์อมตะ เรื่อง Casablanca ที่ได้รับอันดับหนึ่งบทภาพยนต์ยอดเยี่ยมตลอดกาลท่ามกลางภาพยนตร์อมตะทั้งหลาย (จัดโดย the west and east branches of the Writers Guild of America – อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://www.post-gazette.com/pg/ 06100/680897-254. stm ) เหนือกว่า Chinatown และ God Father ซะอีกคะ

สำหรับรำเพยแล้ว ภาพยนตร์เรื่อง Casablanca นี้ ไม่ว่าจะดูเป็นรอบแรกหรือรอบที่ 10 ก็ให้ความรู้สึกประทับใจเหมือนกันทุกครั้งกับบทบาทของริค ชายหนุ่มมาดขรึม และหยิ่งยโส แต่ภายในอ่อนนุ่มและดีงาม แสดงโดยฮัมฟรีย์ โบการ์ท ดาราเจ้าบทบาทในยุคนั้น กับสาวงามอิงกริด เบิร์กแมน ที่สวยสมกับที่บุรุษต้องยอมสละทุกอย่างเพียงเพื่อได้อยู่ข้างเธอ

รวมทั้งบทเพลงประทับใจตลอดกาลของรำเพย อย่าง As time goes by ที่ทำเอาน้ำตาซึมทุกครั้งที่ได้ยิน !!!

(หาข้อมูลของเพลงแสนประทับใจนี้ เพิ่มเติมได้ที่ http://www.vincasa.com/indexastime.html มีพร้อมเพลงตัวอย่างให้ฟังด้วยค่ะ)

เรื่องราวของชายหนุ่มผู้ขมขื่นและหนีมาประชดชีวิตอยู่ในคาซาบลังกา เมืองในปกครองของฝรั่งเศสเมืองสุดท้ายก่อนบินต่อไปลิสบอน เพื่ออพยพเข้าอเมริกาในยุคสงครามโลกครั้งที่สอง ริคได้มาเปิดบาร์และบ่อนการพนันผิดกฎหมายที่นั่น โดยมีสารวัตรเป็นผู้ดูแลเมืองซึ่งรำเพยต้องยอมรับบทบาทของสารวัตรผู้นี้อีกคนหนึ่ง ที่แสดงเป็นตัวเดินเรื่องร่วมกับริคได้อย่างสมบูรณ์ ก่อนที่จะปิดท้ายด้วยจุดเริ่มต้นของมิตรภาพที่งดงาม

เอลซา สาวงามผู้แข็งแกร่งและยอมเสียสละทุกอย่างเพื่อวีรบุรุษที่เธอบูชา กับสามีของเธอ วิคเตอร์ ชาวเชคที่ต่อต้านนาซีผู้รุกราน และพยายามหาทางเพื่อหนีไปปลุกระดมคนกู้ชาติ เอ๊ย คนต่อต้านนาซีที่อเมริกา

ฉากที่รำเพยแสนจะประทับใจ มีมากมายหลายฉาก แต่ฉากที่เด่นที่สุด ได้แก่ ฉากที่ริคกำลังดื่มเพื่อระบายความโศกเศร้าเสียใจที่บาร์

โดยมีฉากหลังเป็นแซมที่เล่นเปียโนเพลง As Time goes by อย่างไพเราะ

แต่จะว่าไปแล้ว รำเพยก็ไม่ค่อยชอบขี้หน้าของอีตาฮัมฟรีย์ โบการ์ทนี่เท่าไรนักหรอกคะ สู้ Jude Law หนุ่มหล่อจาก Alfie ก็ไม่ได้ ซึ่งหาก Casablanca กลับมาทำใหม่ ตัวเก็งที่จะได้รับบทนำก็คงไม่พ้นนายลอว์ของรำเพยนี่แหละคะ

ต่อจากภาพยนตร์มหาอมตะนิรันดร์กาลแล้ว รำเพยก็อยากจะนำทุกท่านไปชมภาพยนตร์เรื่องโปรดของรำเพยอีกเรื่องหนึ่ง ซึ่งเป็นเรื่องของช่างภาพของนิตยสารชื่อดังที่ตระเวนไปถ่ายภาพทั่วโลก ก่อนที่จะมาถ่ายภาพสะพานไม้เก่าแก่ในเมืองเล็กๆ แห่งหนึ่ง และในเมืองนี้เอง ที่เขาได้พบกับแม่บ้านสาวชาวฝรั่งเศสที่ได้ย้ายติดตามสามีมาปักหลักในเมืองชนบทแห่งนั้นอย่างเงียบเหงา เมื่อทั้งคู่ได้พบกัน อัธยาศัยที่ต้องกัน รวมถึงความเห็นอกเห็นใจ ก็ได้กลายมาเป็นความสัมพันธ์ที่เกินเลย และเป็นสิ่งที่ลูกๆ ของครอบครัวยอมรับไม่ได้ เมื่อกลับมารับมรดก และได้พบกับ Diary ที่แม่สุดที่รักได้ทิ้งไว้ให้..

ใช่แล้วคะ The bridges of Madison County นอกจากจะเป็นเรื่องโปรดของรำเพยแล้ว ยังเป็นเรื่องโปรดของใครอีกหลายคนแถวๆ นี้ด้วยคะ ภาพยนตร์ที่นำแสดงโดย Clint Eastwood กับ Merryl Steep และกลายเป็นเรื่องโรแมนติคของชาวอเมริกัน จนทำให้เมืองเล็กๆ ใน Iowa กลายเป็นเมืองท่องเที่ยวที่สามารถปรากฏในแผนที่ได้ในที่สุด

สะพานทั้ง 19 แห่งที่กลายเป็นสัญลักษณ์ของเมืองนี้ (ปัจจุบัน เหลือเพียง 6 แห่ง) เป็นสะพานไม้ที่สร้างขึ้น ตั้งแต่ศตวรรษที่ 19 โดยมีลักษณะพิเศษคือเป็นสะพานที่มีพื้นเป็นแผ่นไม้ขนาดใหญ่ และมีหลังคาคลุมตลอดแนว นัยว่าเพื่อช่วยให้พื้นไม้มีอายุการใช้งานได้นานขึ้น และนอกจากชาวเมืองจะใช้เป็นทางสัญจรแล้ว ยังใช้เป็นที่ติดโน้ตเพื่อบอกข่าวให้กับใครสักคน ดังเช่นที่ฟรานเชสก้า จอห์นสัน (เมอริล สตีฟ) ได้เชิญโรเบิร์ต คินเคด (คลินท์ อีสต์วูด)ให้ไปทานมื้อค่ำที่บ้าน

สะพานที่เด่นที่สุด ได้แก่ สะพาน Roseman ( Roseman Covered Bridge) ซึ่งเป็นสะพานที่ “ คินเคด ” ถามทางจากแม่บ้านผู้เงียบเหงา ตัวสะพานมีผนังภายนอกทาด้วยสีแดง โดดเด่นจากสีเขียวของธรรมชาติรอบข้าง นอกจากนี้ สะพาน Holliwell (Holliwell Covered Bridge) เป็นสะพานที่ยาวที่สุดในบรรดาสะพานทั้งหมด คือยาวถึง 122 ฟุต รวมทั้งสะพานที่มีหลังคาเหมือนบ้านหน้าตาน่ารัก

อย่างเช่นสะพาน Cutler-Donahoe Bridge หรือ Imes Covered Bridge คะ (สำหรับข้อมูลทั้งหมด หาได้ที่ http://www.madisoncounty.com/ )

สำหรับฉากที่ประทับใจที่สุดของรำเพยในภาพยนตร์เรื่องนี้ คงไม่พ้น การลาจากกลางสายฝน ที่ทำให้ฟรานเชสก้าต้องเลือกระหว่างสามีผู้แสนดี กับชายผู้เป็นที่รัก ซึ่งให้อารมณ์ดีมาก คลอไปกับเสียงเพลงประกอบภาพยนตร์ที่เข้ากันได้อย่างเหมาะเจาะ เล่นเอาเรียกน้ำตาของรำเพยได้ทุกครั้งเชียว..

นอกจากนี้ เพื่อเพิ่มความอยากให้กับผู้ที่ยังไม่เคยชมเรื่องนี้ รำเพยยังคงต้องขอกระซิบดังๆ ว่าใครที่หลงใหลในเสียงเพลงที่สวยงาม คงต้องหา OST ของเรื่องนี้มาฟัง เพราะไพเราะลงตัวเหลือเกินค่ะ..

รำเพยรำพัน