editor talk
home
about bareo
art of design
decor guide
the gallery
living young
talk to editor
links
 
 
 
 

 

IFFS’ 2011 @ Singapore

สวัสดีครับ…
          วันนี้ ผมได้รับมอบหมายเขียนบทความรายงานเกี่ยวกับการไปดูงาน IFFS’ 2011 ที่ประเทศสิงคโปร์ ซึ่งจุดประสงค์หลักของการไปดูงานในครั้งนี้ เป็นการไปสำรวจ Design Trend และมองหาตลาดใหม่ๆ ที่น่าสนใจสำหรับการขยายกิจการของบริษัทในอนาคตด้วยครับ

          งาน IFFS’ 2011 เป็นงานแสดงเฟอร์นิเจอร์ของประเทศสิงคโปร์ ที่จัดกันมาเป็นประจำทุกปี และจะจัดก่อนงาน TIFF ซึ่งเป็นงานแสดงเฟอร์นิเจอร์ส่งออกของบ้านเราเช่นเดียวกัน ทำให้เวลาที่ Buyer จากฝั่งยุโรปหรืออเมริกา เดินทางมาดูงาน IFFS แล้วก็มักจะมาต่อที่ TIFF ของบ้านเราไปเลย

 

 



          สำหรับปีนี้ งาน IFFS จัดขึ้นในวันที่ 9 – 12 กุมภาพันธ์ 2011 ซึ่งทางผมก็ได้รับมอบหมายให้บินไปดูงานตั้งแต่วันที่ 9 และ 10 ซึ่งเป็นวัน Trade สำหรับ Buyer ส่วนวันที่ 11 และ 12 จะเป็นวันที่เปิดจำหน่ายสินค้าให้กับคนทั่วไปครับ


          งาน IFFS นี้จัดขึ้นที่ Singapore Expo ซึ่งเป็นศูนย์การประชุมและการจัดงานแสดงสินค้าหลักของประเทศสิงคโปร์ โดย Singapre Expo นี้จะตั้งอยู่ติดกับสนามบิน Changi ซึ่งเราสามารถขึ้นรถไฟ MRT จากสนามบินตรงเข้าไปที่งาน ซึ่งเป็น Station แรกได้ในเวลาไม่ถึง 10 นาที นับว่าสะดวกมากๆ เลยทีเดียว


           Singapore Expo นี้ แรกสุดจะมี Hall สำหรับจัดแสดงสินค้าต่อกัน 6 Halls และได้มีการเพิ่มเติมอีก 2 Halls ในภายหลัง ซึ่งในงานนี้ ได้มีการจัดแสดงพร้อมกันทั้งหมด 8 Halls ซึ่งนับว่าเป็นงานใหญ่มากงานหนึ่งเลยทีเดียว


 

          อย่างไรก็ดี ในงาน IFFS นี้ ยังแบ่งเป็นงานย่อยๆ ตามประเภทของกลุ่มลูกค้าอีก ได้แก่ Deco Asia ที่เน้นสินค้าประเภทของประดับตกแต่ง และ Hospitality Asia ที่รองรับลูกค้ากลุ่มโรงแรมและ Resort เป็นหลัก

 

          จากการที่ไปดูงานในครั้งนี้ ผมได้สังเกตุเห็นว่า Exhibitors เกือบทั้งหมดจะมาจากประเทศอื่นๆ โดยเฉพาะฝั่งเอเชีย เช่น จีน ไทย ญี่ปุ่น ฮ่องกง ไต้หวัน ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย เวียดนาม เป็นหลัก โดยจะมีจากสิงคโปร์เองบ้าง แต่ไม่มากนัก และก็มีจากฝั่งยุโรปและอเมริกาอีกประปราย โดยประเทศที่มีฐานค่าแรงแพง ก็มักจะมีฐานการผลิตในประเทศจีนเกือบทั้งนั้น

 

           Trend ส่วนใหญ่สำหรับปีนี้ จะเป็นงานในแนว Vintage และ Country ที่ค่อนข้างโดดเด่น เน้นหนักทางด้านเฟอร์นิเจอร์ไม้ และงาน Armchair ที่ค่อนข้างดูหนักแน่น ทนทาน แต่มีการ Finish ผิวแบบง่ายๆ อาจมีการเขียนสี หรือ ย้อมเสี้ยนที่ดูสวยแบบยุโรป สำหรับรายละเอียดของชิ้นงานที่นำมาแสดง ผมขอแยกเป็นประเทศไปดังนี้ นะครับ


จีน เป็นประเทศที่มี Exhibitor มาร่วมงานมากที่สุด โดยแบ่ง Hall 7 & 8 ออกไปเลย 2 Hall โดยเฉพาะ และสไตล์ส่วนใหญ่จะเป็นในแนว Vintage และ Country เป็นหลัก ที่น่าสนใจ คือ จีนเริ่มจะมีการสร้าง Brand ของตัวเองที่ชัดเจนมากๆ โดยมี Exhibitor ที่จำหน่ายงานเฟอร์นิเจอร์เหล็ก และเฟอร์นิเจอร์สำเร็จรูปบ้าง ซึ่งสินค้าเหล่านี้มักจะเน้นที่ราคาถูกเป็นหลัก ไม่เหมือนกับพวกที่สร้าง Brand ของตนเอง

ไทยเป็นประเทศที่มี Exhibitor ไปร่วมแสดงงานด้วยเช่นกัน โดยงานส่วนใหญ่จะเน้นหนักในเรื่องของวัสดุพื้นถิ่น ประเภทไม้ หวาย และงานออกแบบที่เอกลักษณ์เฉพาะตัว อย่างไรก็ดี การที่มีรูปแบบเฉพาะ มีข้อดีที่มีจุดเด่นที่แตกต่าง แต่ก็มีข้อเสียที่งานจะไม่ค่อยแตกต่างกันเองมากนัก และกลุ่มลูกค้าก็จะถูกจำกัดด้วยเช่นกัน

 


          เวียดนาม มีพัฒนาการของงานที่น่าสนใจ และมีชิ้นงานที่ตอบสนองต่อความต้องการของตลาดมาก ในแง่ของต้นทุนค่าแรงที่ต่ำ สามารถรับงานได้หลากหลายสไตล์แต่ในส่วนรายละเอียดก็ยังสู้จีนไม่ได้ แต่แนวโน้มในอนาคต น่าจะแย่งตลาดจากจีนได้พอสมควร


ญี่ปุ่น เพิ่งจะมาเปิดตัวโดยรวมกลุ่มกันมาออกในงาน Hospitality Asia โดยมีสินค้าที่น่าสนใจหลายประเภท ตั้งแต่สารเคลือบกระจกเพื่อลดความร้อน, ประตูที่มีความสูงมากเป็นพิเศษ และไม่บิดตัว พรมเสื่อ Tatami รวมทั้งกระจกที่สร้างสรรค์มาในรูปแบบงานฝีมือจริงๆ แต่อย่างไรก็ดี ตัวสินค้ายังมีราคาแพงมาก อันเนื่องมาจากค่าเงิน ทำให้ไม่จูงใจ Buyer มากเท่าที่ควร และส่วนใหญ่ Exhibitor ก็ยังเป็นหน้าใหม่อีกด้วย


ฝรั่งเศส เป็นประเทศทางฝั่งยุโรปที่มี Exhibitor ที่นำเสนอสินค้าได้อย่างสร้างสรรค์ และมีความเป็นยุโรปให้เห็นชัดเจนมาก เน้นสินค้าประเภท Vintage ที่มี Combination ของสีอย่างสวยงาม และดึงดูดใจ อย่างไรก็ดี ฐานการผลิตส่วนใหญ่จะอยู่ในประเทศจีนเป็นหลัก


          นอกจากนี้ ยังมีการแสดงผลงานออกแบบของนิสิตนักศึกษาจากหลายสถาบันในเอเชีย ที่นำมาร่วมแสดงในงานครั้งนี้ด้วย เช่น Liseta Bookcase ที่ออกแบบเป็นตู้หนังสือในรูปทรงของ Console กระจกใส จัดวางได้อย่างน่าสนใจ หรือ Dear Deer Cabinet ที่ออกแบบตู้เป็นรูปกวางน่ารัก รวมทั้ง Ostrich Table เลียนแบบท่าทางของนกกระจอกเทศในขณะตกใจ และมุดหัวลงในทราย กลายเป็น Console สามขา เก๋ไก๋ทีเดียว และอีกอันหนึ่งที่คงอดพูดถึงไม่ได้ คือ You’ve got mail ที่ออกแบบเป็นที่เสียบจดหมายทรงซองจดหมายหลายๆ ซองมาเรียงกันได้อย่างน่าสนใจมากๆ เลยครับ


          เป็นที่น่าเสียดาย ที่ทางผู้จัดงานได้ประกาศห้ามถ่ายรูปภายในงาน ทำให้เราไม่ได้เก็บภาพของ Booth ต่างๆ ที่น่าสนใจมาฝากได้ครับ

 
     
 



-- isyss  --

 

 

 


บริษัท บาริโอ จำกัด

50 ซอยบรมราชชนนี 4 ถนนบรมราชชนนี เขตบางพลัด กรุงเทพฯ 10700   Tel. 66 2881 8536-7   Fax. 66 2881 8538