editor talk
 
   
   
   
   
   
   
   
   
  links  
     
 

 

Royal Green Park – Green Harmony

ความเดิมจากตอนที่แล้ว ที่รำเพยได้พาทุกท่านไปชมบ้านตัวอย่างในโครงการ Royal Green Park แบบ Green Harmony ที่มีสีสันและลวดลายโดนใจหลายต่อหลายท่านไปแล้ว สำหรับเดือนนี้ รำเพยจะมาลงลึกในรายละเอียดของงาน ออกแบบให้ชมกันทุกซอกทุกมุมกันเลยทีเดียวค่ะ

สำหรับตัวบ้านหลังนี้ ทาง Boss ของเรา คุณวรวุฒิ ธรรมกุลางกูรได้มากำหนดโจทย์ให้กับตัวบ้าน เนื่องจากตัวบ้าน เป็นบ้านหลังเล็ก และเป็นแบบที่ขายดีของโครงการ จึงต้องเอาใจใส่กันเป็นพิเศษ ซึ่งทางพี่อู๊ดก็ได้สรุปกับน้องตาลที่เป็น Interior Designer ประจำโครงการนี้ ว่าจะให้เป็นบ้านของครอบครัวใหม่ ที่มีขนาดเล็ก โดยมีหัวหน้าครอบครัวเป็นนักบิน สายการบินพาณิชย์ ที่ไม่ค่อยจะได้อยู่บ้านมากนัก จึงได้มอบบทบาทการกำกับงานออกแบบให้เป็นของภรรยา ซึ่งจบ Graphic Design จากประเทศอังกฤษ ซึ่งนอกจากสองสามีภรรยาแล้ว ก็จะมีลูกเล็กๆ อีกหนึ่งคน อายุประมาณ 4-5 ขวบด้วยค่ะ

ภรรยาที่เป็น Graphic Designer รุ่นใหม่ ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง จึงได้นำเอาลวดลาย Graphic ที่โดดเด่น สีสันที่โดนใจ พร้อมทั้งรายละเอียด จากย่านเก่าแก่ในลอนดอนมาเป็นส่วนประกอบของงาน จนกลายเป็นสไตล์ London Chic ที่เก๋ไก๋

เริ่มจากทางเข้าบ้าน ซึ่งจะมีสองทาง ทางหนึ่งคือประตูใหญ่เข้าทางห้องรับแขก และอีกทางนึงคือประตูจากโรงรถ ซึ่งเป็นทางเข้าที่ใช้ประจำวัน โดยน้องตาล ได้กำหนดให้มีชั้นวางของทำจากอลูมิเนียมสีดำ ที่เป็นเส้นสายแบบเรขาคณิตพร้อม ด้วยผนังกระจกด้านหลัง เพื่อสร้างความรู้สึกประทับใจให้กับผู้มาเยือนตั้งแต่ก้าวแรก และนอกจากนี้ ชั้นดังกล่าว ยังใช้เป็นที่ วางพวงกุญแจ หรือข้าวของเบ็ดเตล็ด ยามเมื่อกลับมาถึงบ้านด้วยค่ะ



จากนั้น ก็จะมีเส้นพื้นไม้ปาร์เก้สีโอ๊คดำเงา ที่นำสายตาไปยังชุดโต๊ะทำงานที่อยู่ริมหน้าต่าง และเป็นจุดเชื่อมต่อ ระหว่างส่วนรับแขกและส่วนรับประทานอาหาร ซึ่งพื้นไม้ปาร์เก้นี้ เป็นวัสดุที่พี่อู๊ดคัดมาเป็นพิเศษเพราะใช้ Spec เดียวกับต่าง ประเทศ ไม่เหมือนกับพื้นไม้ปาร์เก้หรือพื้นไม้ลามิเนตทั่วๆ ไปที่มีขายอยู่ในท้องตลาด



ชุดโต๊ะทำงานสีขาวนี้ เป็นงานในสไตล์ Neo Baroque ที่นำเอางาน Classic มาลดรูปและพ่นเป็นสีขาวสีเดียว เพื่อขับให้เห็นเฉพาะเส้นสายที่ดูอ่อนหวาน เข้าชุดกับตัวเก้าอี้ และตัดกับผนังลาย Graphic ขาวดำ ที่นำมาใช้เป็น Theme ของบ้านหลังนี้ค่ะ



สำหรับชุดรับแขก ก็มีลักษณะเฉพาะตัวเช่นกัน เพราะทางน้องตาลได้เลือกใช้ Sofa รูปตัวแอลขนาดเล็กและ Armchair มาจัดต่อกัน โดยมี Side Table กั้นตรงกลาง เป็นการจัด Planning ที่แปลกและไม่เหมือนใครจริงๆ นัยว่าเพื่อเพิ่มการใช้สอยและคำนึงถึงความเป็นจริง ที่ต้องการให้ทุกคนนั่งได้สบายจากการที่มีพนักพิงและท้าวแขน ซึ่งหากจัด เป็น Sofa รูปตัวแอลอย่างเดียว คนที่นั่งตรงกลาง ก็มักจะนั่งไม่สบายเพราะไม่มีที่วางแขน ซึ่งสำหรับไอเดียนี้ จะลองนำไปใช้ดู ก็ได้นะคะ



ในฝั่งของ Entertainment Center ทางน้องตาลได้ดึงเอาลักษณะการเรียงอิฐก้อนใหญ่ในสไตล์อังกฤษมาใช้กับผนัง ตกแต่ง และคาดด้วยแผงสำหรับติดตั้งจอ LED TV ที่พ่นสี Hi-Gloss พร้อมด้วยตู้เตี้ยสำหรับวางเครื่องเสียง ซึ่งย้อมไม้เป็นสี Antique Grey แถมด้วยตู้สูงด้านข้าง ที่ทำเป็นตู้หนังสือพร้อมด้วย Armchair สีเขียวสด ตัดกับผ้าม่านสีเหลือง สร้างสีสันได้โดนใจจริงๆ



ในส่วนรับประทานอาหาร น้องตาลได้วางให้เป็นชุดทานอาหารขนาด 4 ที่นั่งแบบหลวมๆ เนื่องจากใช้โต๊ะขนาดเดียว กับโต๊ะ 6 ที่นั่ง และที่ปลายข้างหนึ่งยังจัดเป็นที่นั่งพิเศษริมหน้าต่างแบบ Bench ทำให้ดูลำลอง และสามารถใช้งานได้อเนก ประสงค์


และในส่วนที่เชื่อมต่อกับชุดทานอาหาร ก็คือ Pantry ที่ออกแบบเป็นพิเศษเป็นเคาน์เตอร์พร้อมตู้เข้ามุม และแถม พิเศษด้วยตู้โชว์ที่เลียนแบบตู้วางขนมปังใน Tea Room ซึ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของเกาะอังกฤษ โดยน้องตาลได้ออกแบบ ให้หน้าบานตู้ด้านบนทาสีดำ เลียนแบบป้ายเมนู Black board ในร้านอีกด้วย ทำให้มุมนี้เป็นมุมที่เท่มากๆ เลยค่ะ


ส่วนครัวก็เป็นอีกจุดหนึ่ง ที่น้องตาลพิถีพิถันมากเป็นพิเศษ เพราะออกแบบให้ใช้งานได้จริง โดยมีพี่อู๊ด พ่อครัวมือ สมัครเล่นมาคอยกำกับ ทำให้เป็นครัวที่น่าใช้มากๆ และยังโดดเด่นด้วยป้ายเมน ที่นำมาใช้ต่อเนื่องจากข้างนอก บวกกับผนัง ติดลวดลายน่ารักๆ ตัดกับสี Antique Grey ขรึมๆ ของชุดครัว เพื่อให้ง่ายต่อการดูแลรักษา



Pantry ก็เป็นอีกส่วนหนึ่งที่ถูกจัด Function ให้อยู่ต่อเนื่องกับชุดทานอาหาร เพื่อการใช้งานที่สะดวกสบาย ซึ่งน้องวัฒน์ ได้เลือกใช้เคาน์เตอร์กึ่ง Island ที่มีขนาดกว้างเป็นพิเศษเพื่อให้ใช้ประโยชน์ได้ทั้งสองด้านอย่างอเนกประสงค์ โดยด้านนอกจะจัดวางเก้าอี้ Stool จำนวน 3 ที่นั่งสำหรับทานอาหารว่าง หรืออาหารเช้าแบบง่ายๆ ได้อีกด้วย


ห้องนอนใหญ่ ก็เป็นอีกห้องหนึ่งที่น้องวัฒน์ได้แสดงฝีมืออย่างเต็มที่ ทั้งการเลือก Style ของเฟอร์นิเจอร์ และ Material ซึ่งก็ไม่ได้ทำให้ทุกคนผิดหวัง กับบรรยากาศที่อลังการและดูกว้างขวางสมกับเป็น Grand Master Bedroom จริงๆ

 

 


เมื่อเดินขึ้นไปบนชั้นสอง เราจะได้พบกับส่วนพักผ่อน ที่ออกแบบเลียนแบบชุดที่นั่งหน้าเตาผิง โดยน้องตาลใช้เตาผิง และผนังกระเบื้องโมเสคเพื่อตกแต่งเป็น Entertainment Center สำหรับห้องนี้ แล้วใช้ Daybed คู่ กับ Armchair เดี่ยวจัดชุดสำหรับครอบครัวสามที่นั่งได้อย่างลงตัว

 



ในส่วนของห้องนอนใหญ่ ได้มีการออกแบบให้ใช้ลาย Graphic ที่ทำจากไม้ฉลุลายพ่นสีเข้ากับเตียงนอนแบบสองเสา ในสไตล์อังกฤษโบราณ และได้ใช้ผนังกระจกแทนผนังก่ออิฐ เพื่อเพิ่มมิติของห้องนอนให้ดูกว้างขึ้น และทำให้ส่วนนอนและส่วน ห้องน้ำเชื่อมต่อกันอย่างชาญฉลาด

 


สำหรับห้องนอนเล็กทั้งสองห้อง น้องตาลก็ไม่ได้ทำให้ผิดหวัง เพราะมีการออกแบบให้ดูกระทัดรัดและน่ารัก แต่เต็มเปี่ยมไปด้วยประโยชน์ใช้สอยที่เหมาะกับการใช้งานอย่างลงตัว จริงๆ แล้ว งานโครงการนี้ เรายังได้แสดงฝีมือในส่วนของห้องน้ำไว้อีกหลายห้องด้วยค่ะ เช่นห้องน้ำชั้นล่าง ที่รำเพยอยากพูดถึงมากที่สุด เพราะออกแบบให้เป็นมีบรรยากาศแบบสนามฟุตบอลในอังกฤษ มีการปูพื้นด้วยหญ้าเทียม และใช้สีผนังเป็นสีขาวล้วน คาดด้วย กากบาทแดงแบบเสื้อของทีมชาติอังกฤษ ทำให้ดูสนุกสนานมากทีเดียวค่ะ น่าเสียดายที่ไม่ได้นำภาพห้องน้ำห้องนี้กลับมาด้วย



ก่อนจะจากกัน รำเพยอยากเชิญชวนให้ทุกท่านที่ชอบ Design ที่ไม่ซ้ำใครแบบนี้ ลองไปแวะเยี่ยมชมของจริง ในบรรยากาศจริง ที่ทางบริษัทเราเป็นผู้ดูแลทั้งในงานออกแบบไปจนถึงงานผลิตและติดตั้งจนเสร็จทั้งหมด (รวมถึงจัด Props ประดับภายในด้วยค่ะ) ที่โครงการ Royal Green Park, บางแค ในเครือของบริษัท เอ็น ซี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) ซึ่ง รำเพยขอรับประกันความสวยงามและความประทับใจได้เลยค่ะ


สำหรับเดือนนี้ นอกจากจะมีบ้านหลังนี้แล้ว รำเพยยังได้เขียน Green Paradise ซึ่งเป็นฝีมือของพี่เล็ก และน้องวัฒน์ ที่มีฝีมือสุดยอดจริงๆ และรับรองได้ว่าดูหรูหราและสวยงามไม่แพ้ใครแน่ๆ อย่าลืมแวะไปดูนะคะ แล้วรำเพยก็คงจะต้องขอตัวก่อนค่ะ สวัสดีค่ะ

 

 

--- รำเพย รำพัน ---

 


บริษัท บาริโอ จำกัด

50 ซอยบรมราชชนนี 4 ถนนบรมราชชนนี เขตบางพลัด กรุงเทพฯ 10700   Tel. 66 2881 8536-7   Fax. 66 2881 8538