ก่อนจะมีร้านขายขนมเกิดขึ้นต้องย้อนกลับไปในยุคที่มนุษย์เราเริ่มได้รู้จักกับขนมหวาน มนุษย์เรานั้นได้คิดค้นการเกิดขึ้นของขนมหวานมานานนับพันปี ตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์น้ำผึ้งคือขนมหวานของผู้คนในสมัยนั้น ถึงแม้มนุษย์เราจะยังไม่รู้จักกับน้ำตาลแต่เราก็บริโภคผลไม้ที่มีฟรุกโตสสูง รวมไปถึงสารให้ความหวานจากธรรมชาติ ต่อมาประมาณ 2,000 ปีก่อนคริสตกาลเรียกได้ว่าเป็นต้นกำเนิดของขนมเลยก็ว่าได้ ในยุคของชาวอียิปต์โบราณเริ่มมีการทำขนมโดยการผสมผลไม้และถั่วกับน้ำผึ้ง มีการราดน้ำผึ้งเป็นคาราเมล และในช่วงเวลาเดียวกัน ชาวกรีกใช้น้ำผึ้งทำผลไม้และดอกไม้หวาน และสิ่งเหล่านี้ก็ได้กลายมาเป็นขนมหวานในยุคนั้น
ขนมเริ่มรวมอยู่ในอาหารเกือบทุกมื้อและมีบริโภคทุกวันเหมือนในปัจจุบันเมื่อไม่นานมานี้ โดยประมาณ 150 – 200 ปีที่แล้ว ในสมัยก่อนยังไม่สามารถมีขนมที่หลากหลายและจำนวนมากมายเหมือนในยุคนี้ได้เป็นเพราะ ในอดีตน้ำตาลอ้อยเป็นของฟุ่มเฟือย มักนิยมเฉพาะในชนชั้นสูงและคนรวยเท่านั้น ในศตวรรษที่ 19 น้ำตาลเริ่มมีจำหน่ายสำหรับชนชั้นแรงงาน ขนมจึงเริ่มมีการแพร่หลายมากขึ้น
ในเวลาต่อมาน้ำตาลเริ่มเป็นได้มากกว่าเครื่องปรุง ชาวอังกฤษมักกินน้ำตาลกับชาพร้อมกับขนมปัง, แยม, น้ำเชื่อมและพุดดิ้ง โดยของหวานได้กลายเป็นอาหารหลักในตอนท้ายของมื้ออาหาร จากนั้นไม่นานของหวานได้ค่อยๆ เริ่มถือกำเนิดขึ้น พัฒนามาสู่ขนมทานเล่น อย่าง ลูกอม ช็อคโกแล็ต เจลลี่ และอื่นๆ อีกมากมาย และเริ่มมีร้านขายขนมแผงลอยในลอนดอนเกิดขึ้นมากมาย รวมถึงร้านขายขนมต่างๆ ที่มีที่ตั้งที่ชัดเจน
นอกจากนี้ยังมีข้อมูลเกี่ยวกับชาวอังกฤษชื่อว่า Walter Gee ที่คาดว่าอาจจะเป็นคนแรกๆ ที่มีไอเดียเปิด ร้านขนมหวาน พร้อมตกแต่งร้านจนเป็นเอกลักษณ์ ครอบครัว Gee เป็นครอบครัวแรกในแคนเทอร์เบอรีที่นำเข้าเครื่องจักรที่จำเป็นสำหรับการทำบิสกิตและขนม พ่อของ Walter Gee เป็นคนทำขนมปังจึงทำให้ครอบครัวนี้มีความเกี่ยวข้องกับวัตถุดิบในการทำขนมต่างๆ ต่อมาเขาได้มีไอเดียเปิดร้านขนมหวานที่มุมตะวันออกเฉียงเหนือของจัตุรัสวิกตอเรีย และพบว่าเขามีความต้องการที่จะตกแต่งร้านขนมของเขา มีการเสริมเติมหน้าต่าง และเปิดร้านขนมแห่งแรกใน Canterbury ประเทศอังกฤษอย่างเป็นทางการ กลายเป็นต้นกำเนิดร้านขนมแห่งแรกและแพร่หลายมาจนถึงปัจจุบัน