ในช่วงเวลาที่สายฝนกระหน่ำประเทศไทยเหมือนกำลังชำระล้างบ้านเมืองจากคราบของอะไรสักอย่างอยู่ขณะนี้  การนอนปลดปล่อยจิตวิญญาณอยู่กับบ้าน มันช่างเป็นการให้อาหารตัวขี้เกียจให้เจริญเติบโตได้ดีนักเชียว ก่อนที่สันหลังผมจะยาวมากไปกว่านี้ ผมตัดสินใจออกจากบ้านไปหาหนังดูชำระอารมณ์ตัวเอง  พูดก็พูดเถอะในท่ามกลางตัวเลือกที่มีไม่มากนัก ทำให้ผมลังเลใจไม่น้อยเกือบจะเปลี่ยนใจถอยหลังกลับบ้านอยู่รอมร่อ ก็คิดดูสิครับกว่าผมจะแหวกม่านหนังสารพัดผีที่ผู้กำกับหนังบ้านเราไม่รู้ไปติดอกติดใจอะไรกันหนักหนา ถึงได้แข่งกันสร้างหนังผีออกมาเป็นกองทัพขนาดนี้ แล้วตัดสินใจไปกับเรื่องใดเรื่องหนึ่ง พลันผมก็บังเอิญไปสบตาใสแป๋วของน้องพีค ภัทรศยาเข้า เอาก็เอาวะไหนๆ น้องเขาก็ส่งยิ้มหวานฉ่ำมาให้แต่ไกลจากโปสเตอร์สายลับจับบ้านเล็ก ถึงสองเท้าผมจะก้าวเข้าไปหาพนักงานขายตั๋วแต่ผมไม่อาจละสายตาจากน้องพีคได้เลย นี่ถ้าไม่ได้น้องพีคช่วยไว้ ผมยังไม่รู้เลยว่าวันนี้ชะตาชีวิตผมจะลงเอยแบบไหน อาจต้องตัดใจไปกับหนังผีเรื่องใดเรื่องหนึ่งก็ได้ 


          เพราะเดินตามรอยยิ้มแสนหวานของน้องพีค นางเอกหนังเรื่องนี้มาแท้ๆ ทำให้วันนี้ผมได้ชมภาพยนตร์ฝีมือผู้กำกับคนนี้อีกครั้ง  สายลับจับบ้านเล็ก เป็นผลงานอันดับที่  4 (แฟนฉัน, เพื่อนสนิท ,หนูหิ่น) ของนายเอส คมกฤษ  ตรีวิมล หนึ่งในหกผู้กำกับภาพยนตร์เรื่องแฟนฉัน  ใครอายุสามสิบอัพยกมือขึ้น ยอมรับความจริงกับผมมาซะดีๆนะครับว่าคุณก็ปลื้มกับหนังแฟนฉัน  ถ้าพูดภาษาเทนนิสต้องบอกว่า พี่เอส เริ่มเทิร์นโปรจากแฟนฉัน พอมาถึงเพื่อนสนิททำให้พี่เอสกลายเป็นมือวางที่น่าจับตามอง แม้จะหลุดฟอร์มไปบ้างตอนหนูหิ่น  กลับมาคราวนี้กับสายลับจับบ้านเล็ก ต้องดูว่าจะสามารถไต่อันดับครองบัลลังก์มือหนึ่งได้ไหม  เพราะยังยึดแนวโรแมนติด ขี้เล่น เหมือนเดิม ซึ่งทำให้ผมโล่งอกไปนิดที่พี่เอสไม่เปลี่ยนใจไปลองของกำกับหนังผี!!! 

 


 
   
 

 


          สายลับจับบ้านเล็ก จับพล็อตที่ พระเอกเป็นนักสืบสะกดรอยเมียน้อยตามการว่าจ้างของเมียหลวง แต่ดันไปหลงรักเมียน้อยที่ตัวเองตามสืบซะเอง พล็อตมีแค่นี้ แต่พี่เอส จับมาเล่าเป็นหนังให้เราดูไปหัวเราะเบาๆ ไปได้ร่วมสองชั่วโมง  ผมอ่านบทสัมภาษณ์พี่เอสบอกว่า “อยากทำเรื่องราวของความรักที่ไม่ว่าใครก็รักกันได้โดยไม่ต้องมองที่เปลือกนอกว่าคนนั้นเป็นใครหรือเป็นยังไง” Theme โรแมนติคใช้ได้ครับ มาดูเนื้อเรื่องดีกว่า จ๊อกหรือมานะ (แสดงโดย ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์ พระเอกคนเก่าจากเพื่อนสนิท) เป็นทั้งนักสืบและนักประดิษฐ์ที่มีพรสวรรค์ เพียงแต่สิ่งที่ประดิษฐ์จะหนักไปทางใช้ไม่ค่อยได้ (เรื่อง) สักเท่าไหร่  


          เมื่อเป็นหนังตลก ทำให้พี่เอส ใส่แก๊กเต็มที่กับสิ่งประดิษฐ์ของไอ้จ๊อก ซึ่งก็ได้ฮาบ้าง แป้กบ้าง  วันดีคืนร้ายไอ้จ๊อกเกิดไอเดียบรรเจิดอยากเปิดร้านหมูกระทะพลังแสงอาทิตย์ ก็ไปกู้เงินขาใหญ่มาลงทุน กิจการคงจะไปได้ดีหรอกถ้ามันไม่ไปเปิดในช่วงหน้าฝน มีหนี้ก็ต้องโดนทวงเป็นของธรรมดา


          หัวหน้าทีมทวงหนี้ก็ได้คนกันเองกับพี่เอสมาช่วยเล่นช่วยเขย่ามุข อดิสรณ์ ตรีสิริเกษม (ปิ๊ง) ผู้กำกับหมากเตะรีเทิร์นส ซึ่งนอกจากใช้เส้นมาเล่นด้วยแล้วยังช่วยพี่เอสเขียนบทด้วย  งานนี้เรียกว่าพี่เอส สั่งให้เพื่อนออกมาฮาอย่างเดียว เมื่อโดนมาเฟียตามทวงหนี้ไอ้จ๊อกก็ต้องรับงานสืบพฤติกรรมเมียน้อย เพราะรายได้มันจูงใจ  เรื่องมันคงไม่เกิด ถ้าวันหนึ่งเมียน้อยหรือบ้านเล็กตามที่หนังเรียกให้น่ารักนั้น ที่ไอ้จ๊อกตามสืบไม่ใช่ น้ำปั่น ( แสดงโดยน้องพีค ภัทรศยา เครือสุวรรณศิริ ) น้ำปั่นเป็นบ้านเล็กของสารวัตรวศิน ( พี่ปั๋ง-ประกาศิต แกเล่นบทหัวงูออกมาได้ใจผมจริงๆ ) แล้วยังแอบเป็นกิ๊กกับเสี่ยอดิสรณ์ ( รับบทโดยสุเมธ องอาจ เอากับเขาสิมาทั้งสุเมธและเดอะปั๋งเลย ) ที่นี้ตามสืบไปสืบมาไอ้จ๊อกแอบไปหลงเสน่ห์น้องน้ำปั่นเข้าซะเอง

 


 
 

 
 


 

          แหมลืมเล่าไปครับ ไอ้จ๊อกเขามีผู้ช่วยนักสืบด้วยนะครับ  คนแรก ฤทัย เจ้าของบาร์คาราโอเกะข้างบ้าน ( แสดงโดยโอปอล์ ปาณิสรา เรื่องนี้เราจะได้เห็นลีลาล้างรถแสนเซ็กซี่ของโอปอล์ด้วย )   อีกคนคือเด็กร้านซ่อมมอเตอร์ไซด์ที่หลงใหลการเป็นนักสืบ ชื่อแจ๊ค (ก็ได้ไอ้แจ๊ค แฟนฉันนั่นแหละครับมาเล่น)  พี่เอสผู้กำกับกลัวว่าจะไม่มีอะไรให้คนดูฮา ก็เลยให้เจ๊ฤทัยเป็นสาวกปาล์มมี่ ทั้งเรื่องเราจะได้เห็นโอปอล์กรุยกรายในชุดโบฮีเมียนสไตล์เพื่อย้ำคาแรกเตอร์กับผู้ชม และไอ้แจ๊คที่ในบทต้องเป็นขาโจ๋ฮิบฮอปเต็มขั้น เลยต้องโผล่หน้าออกมาพร้อมผมเดรสร็อคทุกฉาก พยายามกันดีนะครับ


เรื่องทำท่าจะเลยเถิดเมื่อเมียหลวงของเสี่ยอดิสรณ์(และเป็นเจ้าหนี้ของพระเอกด้วย)ไปจ้างนักสืบไฮเทค(แสดงโดยนิมิต ลักษมีพงศ์ ถ้าผมจำไม่ผิด หมอนี่เป็นดีเจนะครับ)หาหลักฐานว่าเสี่ยมีเมียน้อยเพื่อฟ้องหย่าเอาเงินค่าเลี้ยงดู ไอ้จ๊อกก็เลยต้องเข้าช่วยน้องน้ำปั่นไม่ให้โดนนักสืบแบล็กเมล์ เมื่อต้องร่วมตกกระไดพลอยโจนผ่านการผจญภัยด้วยกันนิดๆหน่อยๆพอขำๆ ไปๆมาๆทั้งคู่ก็แอบมีใจให้กัน ที่จริงแล้วพล็อตแบบนี้หนังน่าจะออกโทนดราม่าน้ำตาท่วม แทนที่จะเป็นหนังตลก โรแมนติคแบบที่เป็นอยู่

 

          ผมขอปรบมือให้กับความกล้าฉีกของพี่เอส ที่ตั้งใจให้นางเอกไม่ใช่สาวอ่อนใสบริสุทธิ์ แต่เป็นเด็กสาวกร้านโลกที่ผ่านชีวิตมาโชกโชนใช้ร่างกายแปลงสินทรัพย์เป็นทุน เมื่อเป็นหนังตลกแกทำให้ประเด็นนี้มันเบาลงจนคนดูอาจมองข้ามไปโดยไม่ทันนึก แต่นี่เป็นเรื่องจริงในสังคมที่เราต้องเปิดใจยอมรับ เราช่วยกันสร้างสังคมกันอีกท่าไหนก็ไม่รู้นะครับ ลูกหลานของเราจึงเห็นคุณค่าของวัตถุมากกว่าศักดิ์ศรี
          


 
 

 
 

 


          
ฉากที่จ๊อกแอบตามน้ำปั่นไปที่หน้าคอนโดแล้วเห็นเงาเธอกำลังอยู่กับผู้ชายอีกคน   พี่เอสวางคอมโพสของภาพอย่างมีเชิง ในขณะที่ซันนี่ถ่ายทอดอารมณ์เสียความรู้สึกและผิดหวังของจ๊อกออกมาได้โดนใจ  อีกฉากที่ผมชอบโทนภาพและมุมกล้องมากเลยคือฉากที่พระเอกนางเอกแข่งกันพับกระดาษ พี่เอสใช้ฉากนี้ถ่ายทอดความเป็นคนอบอุ่นของจ๊อก ขณะที่น้ำปั่นโดยเนื้อแท้ ถ้าตัดความเป็นเมียน้อยออกไปเธออาจเป็นเด็กสาวใสๆ ธรรมดาที่ไม่ต้องการอะไรมากไปกว่าเพื่อน พี่ชายที่ปรารถนาดีที่คอยชี้นำให้เธอเดินให้ถูกทาง ไม่เผลอไผลฟุ้งเฟ้อไปกับวัตถุฉาบฉวย แล้วยอมทำทุกอย่างเพื่อให้ได้มันมาอย่างที่เธอบอกจ๊อก ฉากนี้ฉากเดียวบอกได้ทั้งความผูกพันระหว่างทั้งสองที่เริ่มก่อขึ้น และกลิ่นไอความสุขที่อบอวลอยู่รอบกายทั้งคู่ เห็นไหมครับว่าความสุขเกิดขึ้นได้ง่ายมากและไม่จำเป็นต้องจ่ายด้วยราคาแสนแพง ในเรื่องท้ายที่สุดน้ำปั่นเริ่มรู้จักคุณค่าของตนเองและเรียนรู้ที่จะอยู่กับสิ่งที่รักอย่างไรให้มีความสุขและมีศักดิ์ศรี   

 

 
   
 

 


          พี่เอสผู้กำกับเป็นคนมองโลกในแง่ดีนะครับ ผมสังเกตจากหนังที่พี่เขาทำ ถึงพล็อตที่แกจับมาทำจะเป็นเรื่องเจ็บปวดของสังคมแต่แกเลือกถ่ายทอดออกมาเป็นหนังโรแมนติคคอมมาดี้ เลือกที่หยิบประเด็นมาเล่นแต่สัมผัสอย่างอ่อนโยนไม่ไปแตะต้องอะไรมาก ปล่อยเป็นหน้าที่ให้คนดูกลับบ้านไปคิดต่อ ผมคนหนึ่งนะครับที่เดินออกจากโรงแล้วอดคิดไม่ได้ว่า ถ้าผมเป็นไอ้จ๊อกจะเปิดใจยอมรับน้ำปั่นได้ไหม จะมีความรักแบบนั้นจริงๆ ไหม พูดอย่างลูกผู้ชายตอบยากจริงๆ ครับ

 

          แต่ที่หนังติดค้างความรู้สึกของผมก็คือ คำหยาบในภาพยนตร์ครับ  ผมยอมรับครับว่าในชีวิตประจำวันผมก็พูดคำหยาบ  แต่นี่คือภาพยนตร์ ซึ่งเป็นสื่อสาธารณะ ถึงแม้จะเป็นหนังตลก แต่ความตลกไม่จำเป็นต้องแสดงออกด้วยคำหยาบนี่ครับ  ยิ่งผู้กำกับเอาคำหยาบใส่ปากแจ๊คให้ด่าทอเจ๊ฤทัยตลอดเรื่องผมไม่เห็นว่ามันจะตลกตรงไหน กลับสร้างความรู้สึกตะขิดตะขวงใจให้ผู้ชมอีกต่างหาก โดยอายุเจ๊ฤทัยแก่กว่าแจ๊คหลายปีเป็นรุ่นแม่รุ่นน้าด้วยซ้ำ ถึงแม้พี่เอส ผู้กำกับจะตั้งใจให้หนังออกแนวโปกฮาลามกนิดๆ หน่อยๆ แบบการ์ตูนญี่ปุ่นก็ตาม

          สำหรับผมรู้สึกว่าคำหยาบมันเยอะไปครับ ทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่เหมาะกับเด็กเลย โดยเนื้อเรื่องก็ไม่เหมาะอยู่แล้วยิ่งมีคำหยาบยิ่งไม่ควรพาเด็กเข้าชมครับ นี่คือปัญหาของการไม่แบ่งเกรดภาพยนตร์ คุณพ่อคุณแม่อย่าคิดว่าเป็นหนังตลกแล้วจะพาลูกไปชม ควรใช้วิจารณญาณในการเลือกเนื้อหาด้วยนะครับ ผมรู้สึกว่าในช่วงหลังๆภาพยนตร์ไทยเราไปรับอิทธิพลคำหยาบกันมามากเหลือเกิน ยิ่งหนังประเภทกระเทยหรือตลกด้วยแล้วดูไปไม่รู้ว่าตัวละครด่ากันเองหรือกำลังด่าคนดูกันแน่  เอาเป็นว่าสำหรับผมเรื่องนี้ให้พี่เอส สองดาวครับ  นี่เป็นหนังตลาดที่กำลังทำเงินอย่างที่นายทุนยิ้มไม่หุบ  แต่ถ้าจะขึ้นบัลลังก์มือหนึ่ง ผมว่าพี่เอสต้องพยายามอีกนิ้ดครับ หนังสนุกนะครับแต่มันยังซึ้งไม่พอกับหัวเราะได้ไม่เต็มเสียง เอาใจช่วยครับ..

 

 
  -- บูรพา --  
           

 

 

 
Home | About Bareo | News & Events | Art of Design | Decor Guide | The Gallery | Living Young | Talk to Editor | Links
 
บริษัท บาริโอ จำกัด
50 ซอยบรมราชชนนี 4 ถนนบรมราชชนนี เขตบางพลัด กรุงเทพฯ 10700 Tel. 66 2881 8536-7 Fax. 66 2881 8538
house servic, decoration design home architect architecture interior design designer homeplan residential furniture family decorat building build planning bareo cost news information structure arch drawing apartment idea bangkok develop foreman เฟอร์นิเจอร์ การซ่อมแซมบ้าน วัสดุแต่งบ้าน ห้องนอน ห้องรับแขก ห้องอาหาร ออกแบบ ตกแต่งภายใน ออกแบบตกแต่งภายใน เฟอร์นิเจอร์ บ้านสวย มัณฑนากร สถาปัตย์ ตกแต่ง บาริโอ บารีโอ บริการ ปรึกษา รับสั่งผลิตเฟอร์นิเจอร์ตามแบบ รับเหมาตกแต่ภายใน วรวุฒิ ธรรมกุลางกูร มยุรี ธรรมกุลางกูร