เริ่มต้นที่ไม้ ไม้ หรือ Woods หมายถึงผลิตผลที่ได้จากต้นไม้โดยเป็นส่วนที่อยู่ระหว่างแก่นหรือกระพี้ (Pith) กับเปลือกนอกของลำต้น (Bark)

        ตั้งแต่โบราณกาล ไม้จัดว่าเป็นทรัพยากรที่มีค่าที่สุดของป่า โดยตั้งแต่เริ่มแรก ที่ไม้ถูกใช้เพื่อทำเป็นเชื้อเพลิง, อาวุธ, เครื่องมือเครื่องใช้ จนถึงที่พักอาศัย รวมถึง กระดาษ เส้นใยผ้า พลาสติก และเป็นแหล่งที่ให้สารเคมีและยารักษาโรคที่เป็นประโยชน์ต่อมนุษย์อีกมากมาย

        ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย ไม้ได้ถูกพัฒนาขึ้นในหลายรูปแบบ ตั้งแต่ ไม้ซุง ไม้ผิว(Veneer)และได้พัฒนาเป็นไม้อัดหรือไม้ปิดผิวหลายชั้นที่มีความแข็งแรงอย่างมาก จนบางครั้งสามารถนำไปใช้งานในเกียร์
รถยนต์ หรือ แทนโลหะหล่อขึ้นรูปได้อีกด้วย


        นอกจากนี้ ไม้ยังให้ก๊าซที่สามารถนำมาแทนเชื้อเพลิงรถยนต์ได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ ไม้เป็นวัสดุที่
ปรับปรุงใหม่ได้มีราคาถูก และยังมีความหลากหลายในด้านโครงสร้าง ความสวยงาม ความสามารถในการเป็นฉนวน หรือแม้แต่คุณสมบัติทางเคมี ทำให้นักอุตสาหกรรมยุคกลางจำนวนมาก คาดว่าไม้จะเป็น
วัตถุดิบที่สำคัญที่สุดสำหรับมนุษย์ชาติ โดยให้ความสำคัญ เหนือกว่าน้ำมัน โลหะ และยางอีกด้วย ไม้ยังมีคุณสมบัติบางประการ ที่คนส่วนใหญ่ไม่ทราบกัน เช่น

  living room bareo  
 

 

        1. ในน้ำหนักที่เท่ากัน ไม้เป็นวัสดุที่มีความแข็งแรงเหนือกว่าวัสดุอื่นๆ โดยเฉพาะโลหะทั้งยังสามารถหาได้ง่าย และใช้งานได้ง่ายกว่า

        2. ไม้ เป็นวัสดุที่สามารถปรับแต่ง หรือตกแต่งและเปลี่ยนรูปทรงได้ง่ายโดยใช้เครื่องมือช่าง ทั่วไป

        3. ไม้ เป็นฉนวนที่ยอดเยี่ยม โดยบ้านที่สร้างจากไม้จะให้ความอบอุ่นในฤดูหนาว และให้ ความร่มเย็นในฤดูร้อน

        4. ลวดลายของไม้ที่มีความหลากหลาย และสวยงาม ทำให้ไม้เป็นวัสดุสำคัญ และมีคุณค่าที่สุดในงานเฟอร์นิเจอร์ งานตกแต่งภายในและภายนอก ผนัง และพื้น

        5. ไม้ โดยเฉพาะไม้ซุงที่ยังไม่แปรรูปมักจะมีราคาถูก ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้ไม้ เป็นวัสดุที่แพร่ หลายที่สุดที่ใช้ในงานก่อสร้าง

 

 

 
  livingroom bareo  
 


        6. ไม้ เป็นวัสดุที่หาได้ง่าย และมีความหลากหลายทั้งขนาด และรูปร่าง รวมถึงลวดลาย และยังเป็นวัสดุธรรมชาติที่สามารถปลูกขึ้นใหม่เพื่อทดแทนได้ (ไม่เหมือนน้ำมัน ถ่านหิน หรือ โลหะที่ใช้แล้ว มีวันหมดไป)

        7. ไม้ ที่ผ่านกระบวนการฉีดสารเคมีบางชนิดเข้าไปในเนื้อไม้จะมีความทนทาน ต่อไฟ โดยได้รับการพิสูจน์และรับรองแล้วว่า มีค่าการลามไฟในระดับต่ำ ดังนั้น อาคารบางแห่งที่ก่อสร้างด้วยไม้ประเภทนี้ จะเสียค่าประกันอัคคีภัย ในอัตราที่ต่ำกว่าอาคารที่มีโครงสร้างเป็นเหล็ก

        8. ไม้ มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน ตราบเท่าที่ได้รับการดูแล และรักษาอย่างถูกวิธี

        9. ไม้ มีความทนทานต่อความร้อน ความเย็น ตลอดจนอากาศ ที่เปลี่ยนแปลงมากกว่าวัสดุ หลายประเภท โดยเฉพาะโลหะ



 
   
 

 


        จากคุณสมบัติที่ได้กล่าวมา ทำให้เฟอร์นิเจอร์ที่ทำจากไม้มีอายุ การใช้งานที่ยาวนาน และทนทานกว่าเฟอร์นิเจอร์ที่ทำจากวัสดุอื่นๆ นอกจากนี้ลวดลายของไม้ที่มีความหลากหลายและสวยงาม ทำให้ห้องที่ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้ มีความรู้สึกอบอุ่น และใกล้ชิดความเป็นธรรมชาติ จึงทำให้เฟอร์นิเจอร์ไม้กลายเป็นเฟอร์นิเจอร์ที่นิยมมากที่สุดทั่วโลก โดยมีการศึกษาพบว่า กว่า 90% ของวัสดุที่นำมาใช้ทำเฟอร์นิเจอร์เป็น “ไม้”


        ดังนั้นเราจะเริ่มต้นเรื่องเฟอร์นิเจอร์ที่ทำจากไม้เป็นหลัก เนื่องจากเป็น เฟอร์นิเจอร์ที่เราต้องพบเห็นกันเป็นส่วนใหญ่ และจะกล่าวถึงเฟอร์นิเจอร์ ชนิดอื่นๆ ในโอกาสต่อไป

 

 
   
 

 

ไม้เนื้อแข็งหรือไม้เนื้ออ่อน?

        ในบ้านเรา มักจะแบ่งไม้ออกตามความแข็งของผิวหน้า โดยแบ่งเป็นไม้เนื้อแข็ง และไม้เนื้อ อ่อน โดยไม้เนื้อแข็งมักจะได้แก่ไม้ที่นำไปใช้ในงานก่อสร้างอาคารทั้งหลาย เช่น ไม้ตะเคียน ไม้เต็ง ไม้ตะแบก เป็นต้น ส่วนไม้เนื้ออ่อน ได้แก่ ไม้สน ไม้ยางพารา เป็นต้น โดยจะมีไม้ที่อยู่กึ่งกลางระหว่างไม ทั้งสองประเภทนี้ เช่น ไม้สัก (ทั้งที่แต่เดิมไม้สักเป็นไม้ที่ใช้ในการสร้างบ้านหรือเรือนไทย) ไม้แดง และ ไม้มะค่า เป็นต้น เนื่องจากจัดให้เข้ากลุ่มใดก็ไม่ได้ ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว การแบ่งชนิดของไม้แบบนี้ไม่ตรงตามหลักมาตราฐานสากล และผลที่ได้ยังไม่ค่อยแน่นอน เนื่องจากขาดมาตราฐาน ที่ถูกต้องในการวัดอีกด้วย

        ตามมาตราฐานสากลแล้วเราจะแบ่งชนิดของไม้ ออกเป็นสองชนิดเท่านั้น คือ Hardwoods และ Softwoods โดยที่ Hardwoods ไม่ได้แปลว่าไม้เนื้อแข็ง และ Softwoods ก็ไม่ได้แปลว่าไม้เนื้ออ่อนแต่อย่างใด การแบ่งชนิดของไม้ว่าจะเป็น Hardwoods หรือ Softwoods ขึ้นอยู่กับประเภทของต้นไม้ โดยไม้ที่ได้มาจากต้นไม้ที่ไม่ผลัดใบ เช่น ต้นสน จะถูกเรียกว่า
Softwoods หรือบางครั้งอาจจะเรียกว่า Conifers หรือ Evergreens ก็ได้ ในขณะที่ ไม้ที่ได้มาจากต้นไม้ที่ผลัดใบจะถูกเรียกว่า Hardwoods ซึ่งบางครั้ง Hardwoods บางชนิด (เช่น ไม้ Poplar) อาจจะมีผิวหน้าที่อ่อนกว่า Softwoods บางชนิดก็ได้โดยปกติแล้ว Hardwoods จะมีราคาสูงกว่า Softwoods เนื่องจากมีลวดลายที่สวยงามกว่า (ไม้ Softwoods มักจะมีตาไม้ ซึ่งทำให้ไม้มีตำหนิ และความแข็งแรงลดลง)

        และไม้ที่นิยมใช้ในงาน เฟอร์นิเจอร์ มักจะเป็นไม้ประเภท Hardwoods เป็นส่วนใหญ่ Hardwoods ในประเทศไทย ได้แก่ ไม้สัก ไม้เต็ง ไม้มะค่า ไม้แดง ไม้ตะเคียน ไม้ตะแบกเป็นต้น ส่วน Softwoods ได้แก่ ไม้จำพวกสนทั้งหลาย ไม้ยางพารา เป็นต้น ส่วน Hardwoods ที่นำเข้ายังประเทศไทย เพื่อใช้ทำเฟอร์นิเจอร์ ได้แก่ Beech, Maple, Mahogany, Ash และ Oak เป็นต้น ในขณะที่ Softwoods ที่นำเข้าจากต่างประเทศ ได้แก่ White Pine, Sugar Pine รวมถึงไม้ตระกูล Pine (สน) ทั้งหมด

 

 
  -- x10 --        
           

 

 

 

 
Home | About Bareo | News & Events | Art of Design | Decor Guide | The Gallery | Living Young | Talk to Editor | Links
 
บริษัท บาริโอ จำกัด
50 ซอยบรมราชชนนี 4 ถนนบรมราชชนนี เขตบางพลัด กรุงเทพฯ 10700 Tel. 66 2881 8536-7 Fax. 66 2881 8538
house servic, decoration design home architect architecture interior design designer homeplan residential furniture family decorat building build planning cost news information structure arch drawing apartment idea bangkok develop foreman bareo modern style travel healthy cooking office commercial บาริโอ โมเดริน อาหาร สุขภาพ ท่องเที่ยว ออฟฟิค เฟอร์นิเจอร์ การซ่อมแซมบ้าน วัสดุแต่งบ้าน ห้องนอน ห้องรับแขก ห้องอาหาร ออกแบบ ตกแต่งภายใน ออกแบบตกแต่งภายใน เฟอร์นิเจอร์ บ้านสวย มัณฑนากร สถาปัตย์ ตกแต่ง บารีโอ บริการ ปรึกษา รับสั่งผลิตเฟอร์นิเจอร์ตามแบบ รับเหมาตกแต่ภายใน วรวุฒิ ธรรมกุลางกูร มยุรี ธรรมกุลางกูร