editor talk
     
 

 


          จากผลงานตกแต่งภายในของสำนักงานกฎหมายธีรคุปต์ มีเสียงถามไถ่กันเข้ามามากว่า ..คือที่ไหน ..ประเทศไทยรึเปล่า ..ใครเป็นคนออกแบบ วันนี้เราจึงพาไปรู้จัก เบญจมาส วินิจจะกูล หรือ พี่เบน สาวเก่งบวกเท่ ผู้เป็นเจ้าของผลงานการออกแบบสำนักงานกฎหมายสากลธีรคุปต์ งานออกแบบชิ้นนี้เป็นงานออกแบบทิ้งทวนที่ประเทศไทยก่อนบินลัดฟ้าไปฮ่องกง ปัจจุบันเธอทำงานที่ Leo A Daly Pacific Ltd. บริษัทออกแบบชั้นนำของฮ่องกง

Concept การออกแบบสำนักงานกฏหมายสากลธีรคุปต์

          อยากให้งานออกแบบ “speak up” ความหมายแต่ละเรื่องราวออกมา เรียกว่าพูดจาภาษา graphic 3 มิติ ทำไมต้องพูด พูดเรื่องอะไรบ้าง และใช้วิธีการยังไง มันก็มีที่มาเรื่องราวดังนี้.....

เริ่มจาก

          “ ออกแบบสำนักงานกฏหมาย ” ใจเราจะนึกถึง design แบบยุโรปโบราณ , คิ้วบัวและสีไม้โอ้ค ประมาณว่าเข้าไปแล้วจะยืนนิ่งขรึม, พูดจาได้เบาๆ เต็มไปด้วยความรู้สึกน่าเชื่อถือ คร่ำเคร่ง จริงจัง very formal แต่เอ... วันแรกลูกค้าก็นัดเจอเราที่ร้านกาแฟ in trend เขาดูเป็นกลุ่มคนหนุ่มพลังงานสูง กระตือรือร้น ประโยคเด็ดที่เราจับความมาคือ “ อยากให้ office ดูสบายๆ เหมือนนั่งคุยการงานอยู่ในร้านกาแฟ ” input ที่ 1 ประทับอยู่ในใจ

 

 

 
   
 

 

ต่อมา..

          สำนักงานกฏหมายธีรคุปต์ เป็น office เปิดใหม่จากการรวมกลุ่ม youngturk (เรารู้สึกว่าพวกเขาเป็นอย่างนั้น) กำลังไฟแรง ตื่นเต้นที่จะทำงานด้วยวิธีการของตัวเอง ทุกอย่างจะถูกสร้างขึ้นใหม่ ประเด็นเชื่อมโยงถัดมาที่เราจะตีความมี 2 ส่วน อย่างแรก เราอยากจะบอกกับคนภายนอกว่าธีรคุปต์คือใคร.. บุคลิกอย่างไร.. เรียกมันว่า cooperate identity อย่างที่สองคือ เขาทำงานกันอย่างไร อยู่กันอย่างไรในสำนักงานวันละ 8-10 ชม. ไม่ใช่แค่ basic function แต่น่าจะหมายความไปถึง “ วัฒนธรรมองค์กร ” ที่เขาอยากจะให้เป็น

สิ่งที่ห้ามลืม

          “ ฮวงจุ้ย ” input ถัดมาที่ลูกค้าขอให้เราคำนึงถึง

 

Zoning..

          พี่เบนแยก zoning ออกเป็น 2 ส่วนหลักๆ Public zone คือส่วนของ lobby , ห้องประชุม กับส่วน working area zone คือพื้นที่ทำงานของ staff เชื่อมกันโดยใช้ transition space ของ function ที่เป็น semi-public คือห้องสมุด ห้องน้ำ และ pantry นั่งเล่น ให้ไหลเอื่อยๆซักหน่อยมาตาม corridor ยาวๆ

          แต่ละ zone ตั้งใจว่ามันต้อง “speak up” ประเด็นหลักคือ corporate identity กับ วัฒนธรรมองค์กรตามลำดับ

 

 

 
 

 
 

 

 

 

บรรยากาศ..

          สัมผัสแรกที่คนมองผ่านกระจกใสแจ๋วไร้ frame บานใหญ่หน้าทางเข้า คือห้องประชุมรูปลูกบาศก์สีไม้โอ้คเข้มขนาด 4x6 ม. วางบิดแกนอยู่กลางห้องสีขาวกับผนังกระจกผิวมัน พี่ต้องการสร้าง contrast ให้คนรับ impact แรงๆจากสัมผัสแรก แต่ไม่ใช่ความตื่นเต้นหวือหวาแบบวัยรุ่น พี่เรียกเจ้ากล่องลูกบาศก์สีเข้มนี้ว่า “Thinking Box” Pure form ของมันตั้งสงบนิ่ง ดูขรึมแต่น่าสนใจว่ามันคืออะไร การบิดแกนทำให้ดูเหมือนมี movement พร้อมจะเคลื่อนไหว มี energy อยู่ข้างใน แกนการบิดของมันก็ตอบรับโจทย์เรื่องฮวงจุ้ยไปด้วย อันนี้คือการไม่มอง input ว่าเป็นปัญหา แต่พลิกมันกลับมาเป็นโจทย์ซึ่งมันก็ทำให้เราเกิด idea ทางเลือกใหม่ๆ และก็น่าสนใจดี direction ที่เกิดจากการบิดแกนทำให้มีเส้นนำไปสองส่วน ทางหนึ่ง lead ไปทางเข้าห้องประชุมที่มีที่นั่งเล่นเล็กๆหน้าห้อง อีกทางหนึ่งเป็นแกนโถงทางเข้าส่วน staff working area และแน่นอน... counter reception ใน lobby หน้าห้องประชุม จะเป็นอะไรอย่างอื่นไม่ได้ นอกจากวัสดุผิวมันวาว ทำให้มัน disappear ไปซะ... กล่องกระจกเงาถูกเอามาแทนค่าด้วยเหตุนี้ ภาพรวมคือให้คนรับรู้ว่าธีรคุปต์จริงจัง แต่ไม่หยุดนิ่ง

 

          Working area ต้องการห้องทำงาน executive เป็นสัดส่วน 10 ห้อง วางโอบรอบพื้นที่ทำงาน staff ที่เป็น open plan ผนังที่กั้นห้องทั้ง 10 กับ staff เป็นกระจกใสใช้เขียนได้ อันนี้เป็น idea ที่ดีจากลูกค้าเอง ซึ่งพี่ว่าได้บรรยากาศคึกคักเสริมพลังงานดี เมื่อเรานึกภาพว่าผู้บริหารทั้งสิบยืน discuss อยู่ข้างใน เขียนอะไรยุกยิกเป็นร่องรอยบนกระจก space ของ designer ก็จะกลายเป็น “place” มันเป็นบรรยากาศการทำงานที่เขาบอกกับ staff ว่า เราไม่แยกขาดจากกัน เปิดเผยและทำงานไม่หยุดนิ่ง คือวันไหนห้องมันว่างเปล่าทุกคนก็จะเห็น เขาจะเป็นอย่างไร เขาเปิดเผย ทำนองนั้น พี่ว่าตรงนี้เราได้สื่อความหมาย “ วัฒนธรรมการทำงาน ” ของธีรคุปต์

 

 

 
 

 
 

 


          Transition area ที่เชื่อมทั้งสองส่วน พี่ให้โถง corridor ยาวๆ lead มาที่ห้องสมุดเป็นรูปกลม คือตรงนี้ต้องการเป็นสัดส่วนยืนอ่านหนังสือได้หรือเป็นที่ discuss เล็กๆ ในขณะเดียวกันต้องไม่ปิดจนใครๆแอบหยิบหนังสือกลับบ้าน ดังนั้นเลยวางตำแหน่งของมันให้ถูกมองเห็นได้จากทุกคน ตู้เอกสารยาวก็เป็นแกนต่อไปจบที่ห้องในดวงใจของพวกเขา, pantry หรือพี่เรียก “ ร้านกาแฟธีรคุปต์ ” เป็น area ที่เขาจะมาแกร่วสบายๆจากการทำงานหน้าโต๊ะ คือมันคงต้องมีที่ให้ตั้งวงนินทาใครๆบ้างเป็นธรรมชาติของมนุษย์ มีพื้นที่ให้ตั้งโต๊ะคุยกันแบบ informal ได้ พี่เลือกตำแหน่งให้ห้องได้แสงธรรมชาติ เล่นสีผนังและฝ้าเพดานสนุกๆเล็กน้อย อยากให้ตรงนี้ relax



          “Architectural Interior” ไม่ใช่ “Decoration Interior” เป็นความสนใจของพี่ เพราะพื้นฐานพี่เป็นสถาปนิก เชื่อว่างานออกแบบมีความหมายมากกว่าการทำอะไรให้สวยๆ interior ก็คือการ define space อย่างนึง ทั้งด้วยการจัดวาง mass, order ของวัสดุ ไปจนถึง lighting ทุกอย่างต้องเป็นเรื่องราวเดียวกันที่มาจากวัตถุประสงค์ที่เราตั้งใจ ให้มันพาเราไปหาทางเลือก บางทีก็เหมือนเล่นเกม...สนุกดี

 

 

 
   
 

 

ทัศนะต่อการทำงานออกแบบ

สิ่งสำคัญที่ทำให้ทำงานออกแบบมาได้สิบกว่าปีเนี่ยะน่ะเหรอ ?!? ....

          ความอดทนที่จะไม่ยอมหยุดจินตนาการว่าทางเลือกที่ดีที่สุดยังมีอยู่เสมอ ไม่ว่าจะมีอะไรเข้ามามันก็ทำร้ายเราไม่ได้จ้ะ เวลาที่งานมันผ่านจากกระดาษมาถูกสร้างจริง เราก็จะตื่นเต้นทุกครั้ง เห็นมันเสร็จแล้วก็จะมีความสุข


          เวลาทำงานแต่ละชิ้น สิ่งที่ designer ทำ คือ integrate ข้อมูลที่ได้รับมาเรื่อยๆ เพื่อที่จะตีความออกมาเป็นรูปธรรม constraint ก็จะมีเข้ามาเสมอ อย่าหยุดจินตนาการหมายความว่าอย่าไปเครียดกับมัน “ ธรรมชาติของ designer ต้องมีความสุข ” นะ เราถึงจะปลอดโปร่งเห็นทางสดใส (ที่จริงก็ควรจะเป็นธรรมชาติของมนุษย์ทุกคนล่ะเนอะ) ข้อจำกัดไม่จำเป็นต้องตอบด้วย “ การแก้ปัญหา ” มองมันเป็นโจทย์ใหม่ๆ ดีกว่าบางทีก็กลับทำให้เกิด idea ใหม่ด้วยซ้ำ ดังเช่นท่าทีต่อฮวงจุ้ยในงานธีรคุปต์นั่นไง


สิ่งที่ต้องใส่ไว้ในงานออกแบบน่ะเหรอ !?!

          ใส่ใจจ้ะ....


ความยาก - ง่ายในงานที่ทำในปัจจุบัน..

          ทำงานที่ Hongkong ไม่ยากเลย พี่ว่าพวกเราคนไทยเก่งที่สุดแล้ว เรามีจุดแข็งคือ artistic common sense กับทัศนคติต่อชิวิตที่อ่อนโยน จะไปทำงานและมีชีวิตอยู่ที่ไหนในโลกก็ไม่ยากหรอกจ้ะ

          งานออกแบบที่ Hongkong จะเป็น industrialize method มากกว่าบ้านเรา เพราะค่าแรงเขาแพง เลยดูเหมือนกล้าใช้ของ import ที่เราแทบหมดโอกาสซื้อมาใช้ในบ้านเรา และ designer ที่นี่จะมี sense ในการทำ efficiency space ได้เก่งมาก ที่ดินเขาเล็กและแพงน่ะ วัสดุ,อุปกรณ์และเฟอร์นิเจอร์ที่มีให้เลือกใช้ก็จะถูกคิด modular มาอย่างดี ...รถก็ไม่ติด ทำงาน 9 โมง ตื่น 8 โมงครึ่งก็ยังไปทำงานทันเลย

 


 
   
 

 

 

ประวัติการทำงานของพี่เบน

ชื่อ :
เบญจมาส วินิจจะกูล

ปัจจุบันทำงานที่ :
Leo A Daly Pacific Ltd., Hong Kong

ตำแหน่ง : Senior Arcitect

 

 
 

 

-- Hana --

 

 

 


บริษัท บาริโอ จำกัด

50 ซอยบรมราชชนนี 4 ถนนบรมราชชนนี เขตบางพลัด กรุงเทพฯ 10700   Tel. 66 2881 8536-7   Fax. 66 2881 8538