editor talk


 

           

 

         "มิวเซียมสยาม พิพิธภัณฑ์การเรียนรู้" คือ ??? ได้ยินชื่อครั้งแรกเมื่อคุณหลานๆ ร่ำร้องอยากให้พาไปเที่ยวมิวเซียมสยาม (เหมือนแก่เชียว) มะลิเลยต้องหาข้อมูลสักหน่อย หลังจากว่างเว้นจากการนำเที่ยวไปมานาน ว่าแล้วไกด์มะลิ ก็เปิดหาแหล่งที่อยู่ของมิวเซียมสยาม


          มิวเซียมสยาม มีชื่อจริง (ชื่อเป็นทางการ)ว่า สถาบันพิพธภัณฑ์การเรียนรู้และสร้างสรร ตั้งอยู่ที่อาคารกระทรวงพาณิชย์เดิม หรือเราเรียกว่าแถวๆ ปากคลองตลาดนั่นเอง อาคารแห่งนี้ได้รับรางวัล ศิลปะสถาปัตยกรรมดีเด่น ประจำปี  2549 จากคณะกรรมาธิการอนุรักษณ์ศิลปสถาปัตยกรร ม สมาคมสถาปนิกสยาม ในพระบรมราชูปถัมภ์


          วันนี้มีฝนตกโปรยๆ แต่คณะทัวร์เราบ่ยัน เราไปถึงที่หมายเวลาบ่ายนิดๆ “โอ้โห..สวยจัง” เป็นคำอุทานจากน้องพิงลูกทัวร์ตัวน้อยของเรา ภายในอาคารหลักที่เป็นอาคารจัดแสดงนิทรรศการถาวร มีการจัดแสดงด้วยกัน 3 ชั้น แบ่งนิทรรศการออกเป็นทั้งหมด 17 ห้องด้วยกัน ห้องแรก คือ มีเรื่องราวมีการแนะนำตัวและนำผู้ชมเข้าสู่  "มิวเซียมสยาม พิพิธภัณฑ์การเรียนรู้" ด้วยภาพยนตร์สั้นๆ เรียกด้วยภาษาโรงละคร คือ การเบิกโรงค่ะ


          ในภาพยนตร์จะพบตัวละคนทั้งหมด 7 ตัวด้วยกัน จะเล่าเรื่องราวจากสุวรรณภูมิ สู่ สยามประเทศ และประเทศไทย และแถมท้ายคำถามให้ติดตามกันต่อไปด้วยว่า เราคือใคร และใครคือไทย ??

 

   
 

 

 

         เมื่อออกจากโรงฉายภาพยนตร์ขนาดเล็กจะพบห้อง ไทยแท้ เป็นห้องเล็กๆ เมื่อมองครั้งแรกเหมือนการจำลองงารวัดมาไว้ในห้อง เมื่อเดินสำรวจดูจะพบว่ามี ส่วนที่เป็น เวทีราชดำเนิน และนักมวยตัวน้อยเราก็ยืนถ่ายภาพคู่กับนักมวยถาวร ถัดไปเป็นรถตุ๊กๆ และถนนเยาราช จากนั้นเป็น นางรำ และ วงดนตรีพื้นบ้าน ด้านหน้าเป็นศาลพระภูมิ ร้านขายส้มตำ แม่ค้าหาบเร่ขายไข่ปิ้ง ในแต่ละจุดจะมีที่มีป้ายอธิบายกำกับว่าคืออะไร เพราะคาดว่าคนดูคงงงนิดๆ ว่าคืออะไร แต่ที่เห้นทุกคนเข้ามาห้องนี้ก็จะได้ภาพคู่ออกไป แล้วแต่ว่าจะคู่กับอะไร 555

 

         จากนั้นจะมีเจ้าหน้าที่ยืนบอกว่าให้ขึ้นชั้น 3 นะคะ จะเดินบันได หรือขึ้นลิฟท์ก็ได้ young group เช่นเราเลือกปีนบันไดค่ะ ห้องที่ 3 เป็นห้องของการเปิดตำนานสุวรรณภูมิ ค่ะ เป็นการแสดงถึงวิวัฒนาการสังคมก่อนจะมาเป็นบรรพบุรุษชาวสุวรรณภูมิ รวมถึงเส้นทางสายไหม เส้นทาการค้าของไทย ที่มามาแต่โบราณ แสดงการศึกษาโครงกระดูกหลุมฝังศพ และอารยธรรมที่ฝังอยู่ใต้ดิน อันนี้โดนใจชาวทัวร์มาก เพราะมีเกมส์ให้เล่นเล่นว่าสิ้นค้าที่แต่ละชนเผ่าที่นำมาเปิดตลาดด้วย คือ อะไร ขนาดออกมาแล้วกลุ่มน้าๆ ที่เข้ามาเล่นที่หลังยังตามไปช่วยอีกรอบเลยค่ะ และที่ชอบรองลงมาเห็นจะเป็น ภาพลายเส้นแสดงพิธีกรรมต่างๆ เมื่อมองด้วยตาเปล่าจะเห็นเป็นลายเส้นขาว-ดำ เท่านั้น แต่เมื่อใช้ไฟฉายสองจะเห็นสีที่มีการระบายสีที่ต่างๆ กัน เช่นสีแดง คือพิธีบูชาผี สีเหลือง คือพุทธ สีเขียว คือบูชาพราหมณ์  ส่วนนี้เป็นห้องต่อเนื่องกันของห้องที่ 4-5-6  ที่แสดงถึง ภาพของการเปิดตำนนานสุวรรณภูมิ สุวรรณภูมิ และพุทธิปัญญา


         
อ้อ! ห้องนี้มี รศ.ดร. รัศมี ชูทรงเดช ซึ่งเป็นนักโบราณคดีที่มีชื่อเสียงมายืนเล่าเรื่องเกี่ยวกับ "โบราณคดี" ให้ฟังด้วยค่ะ

 

 

 
 

 
 

 


         
ถัดไปก็เป็นห้อง 7 ห้องสยามประเทศแสดงถึงความเจริญรุ่งเรืองของกรุงศรีอยุธยาซึ่งเป็นราชธานีของไทยมายาวนานถึง 417 ปี ที่นี่ทำให้เกิดความรุ่งเรืองทางวัฒนธรรมที่หลากหลายในแผ่นดิน ไม่ว่าจะเป็นการเมือง ศาสนา ภาษา และสถาปัตยกรรม ห้องนี้ถูงใจหัวหน้าทัวร์อย่างมะลิมากค่ะ เป็นการแสดงของสยามยุทธ์ โชว์กองเรือการค้า และขบวนเรือพยุหยาตราลอยเด่นอยู่กลางห้อง
และห้องสุดท้ายของชั้นนี้ คือ ห้องที่ 8 ห้องสยามยุทธ์ และยังมีการจัดแสดงเรื่องราวเกี่ยวการสงครามต่างๆ ในประเทศไทย คุณจะได้เรียนรู้ถึงการจัดกระบวนทัพต่างๆ รวมไปถึงพิธีการต่างๆ

 

 
 
 

 

         ออกจากชั้น 3 จะมีทางออกและป้าบอกทางให้ลงไปชมที่ชั้น 2 ต่อค่ะ ชั้น2 เป็นอีกภาคหนึ่งที่ต่างไปจากชั้น 3 คือ เป็นเรื่องราวของชีวิตที่ไกล้เคียงในปัจจุบันมากขึ้น นำเรื่องราวของกรุงเทพฯ เมืองหลวงที่สำคัญของประเทศ เริ่มจากการสร้าง "บางกอก" วิถีชีวิตของคนรอบๆ กรุงเทพฯ แสดงให้เห็นถึงความเป็นสังคมเกษตรกรรมมีการแสดงถึงความอุดมสมบูรณ์ ทุ่งนา อันเขียวชะอุ่มมาให้ชม มีตุ๊กตาจำลองการดำนา และไถนาให้ และอุปกรณ์การดักสัตว์ เครื่องมือทำมาหากิน ความเชื่อ และพิธีกรรม


         ตั้งแต่ห้องที่ 9 แผ่นที่ ความยอกย้อนบนแผ่นกระดาษ การสร้างเส้นพรมแดน ระหว่าเขา และเรา ห้องที่ 10 กรุงเทพฯ ภายใต้ฉากอยุธยา จำลองการสืบานวัฒนธรรมจากเมืองเก่ามากมาย และ ห้องนี้เขาบอกให้ดูดี จะพบว่ามีใครมาช่วยเราสร้างเมืองด้วยล่ะค่ะ

 

 
 

 
 

 


         

ห้อง 11 ชีวิตนอกกรุงเทพฯ หรือ Village Life เป็นห้องที่สื่อให้เห็นถึงภูมิท้องถิ่น และความอัจฉริยะแห่งการสร้างสรร รวมไปถึงเกษตรกรรมที่เกี่ยวโยงกับชีวิตของคนไทยมาจนถึงปัจจุบันค่ะ  

ห้องที่ 12 แปลงโฉมสยามประเทศ (Change) เป็นการแสดงถึงการติอต่อกับภายนอกประเทศ การสื่อสาร การคมนาคม ต่อเนื่องกับ ห้องที่ 13 14-15 และ 16 ที่ค่อยๆ พัฒนาวิถีชีวิต ขยับมาเป็นปัจจุบัน และต่อไปในอนาคต ในห้องที่ 16 ที่เป็นการมองไปข้างหน้า  หรือ Thailand Tomorrow ห้องท้ายๆ นี่ young group สนุกกันสุดเหวี่ยง เพราะ ถูกใจได้ทำอะไรที่ไม่เคยได้ทำ ตั้งแต่ขับรถ เข้า caf? .. ก่อนที่จะอำลาจากด้วยคำถามว่า      "วันพรุ่งนี้ของประเทศไทยจะเป็นเช่นไร ขึ้นอยู่กับคนปัจจุบันเท่านั้นที่จะเป็นคนให้คำตอบได้"

 
 
 
 

 

-- มะลิทัวร์ค่ะ --

       
           
           
           


บริษัท บาริโอ จำกัด

50 ซอยบรมราชชนนี 4 ถนนบรมราชชนนี เขตบางพลัด กรุงเทพฯ 10700   Tel. 66 2881 8536-7   Fax. 66 2881 8538