เลือกสีเติมสันให้กับบ้านด้วยวัสดุที่แตกต่าง

               สีสัน เป็นเรื่องที่หลายๆ คนสนใจ และอยากปรับเปลี่ยน อยากเติมสีสันให้กับบ้านของตัวเองบ้าง แต่การเริ่มต้นนี่สิสำคัญ เพราะไม่รู้ว่าจะใช้สีจากอะไรเอามาใส่และจะใส่ตรงส่วนไหนของให้บ้านดี นิดหน่อยพาทัวร์วันนี้พาไปดูว่า เราสามารถเล่นสีกับวัสดุอะไรได้บ้างค่ะ

1. สีทาผนัง  

               เป็นสิ่งแรกๆ ที่เรานึกถึงค่ะ สีทาผนังมีผู้ผลิตหลากหลายยี่ห้อที่มาอำนวยให้เลือกว่าจะใช้สีประเภทไหน สีเฉดไหน เราสามารถเลือกเฉดสีและให้ผสมสีอย่างที่เราต้องการค่ะ มีแม้กระทั่งว่ามีการพัฒนาลายที่แปรงทาผนังให้คุณสามารถเลือกลวดลายต่างๆ และทาได้เองง่ายๆ ค่ะ เพราะการทาผนังเฉพาะจุดเล็กๆ น้อยๆ  จะเรียกช่างมาทำให้ก็ไม่ค่อยมีช่างมาทำให้เพราะไม่คุ้มค่ารถที่วิ่งมาแต่ละเที่ยวค่ะ

2. กระเบื้องสี และกระเบื้องโมเสค

               กระเบื้องเป็นสิ่งหนึ่งที่ช่วยปกปิดพื้นผิว ที่เราสามารถเลือกสี และเลือกลวดลายต่างๆ มาดัดแปลงใช้กับบ้านของเราสามารถทำได้ทั้งส่วนผนังและพื้นค่ะ แต่การเปลี่ยนกระเบื้องจะยุ่งยากกว่าการเปลี่ยนสีด้วยวัสดุอื่นๆ ตรงที่เราต้องใช้ช่างช่วยทำให้ เพราะมีขั้นตอนที่ยุ่งยากกว่า ตั้งแต่ สกัดพื้น ปรับระดับพื้น ตอนจะปูกระเบื้องยังต้องมีการตีลาย และวางลายกระเบื้องค่ะ ทั้งยังต้อองผสมปูน โดยมากหากจะใส่สีที่กระเบื้องเราจึงนิยมทำในตอนทำบ้าน หรือ ตกแต่งบ้านไปเลยทีเดียวค่ะ ส่วนกระเบื้องเองก็มีตัวเลือกให้เราสามารถเลือกใช้ได้มาก มีตั้งแต่กระเบื้องลายไม้ ขนาดเท่าแผ่นไม้ลามิเนตเลยค่ะ กระเบื้องแบบนี้ราคาจะสูงนิดหนึ่งค่ะ มีตั้งแต่ตารางเมตรละ 500 บาทไปจนถึง 2,000 บาทค่ะ นอกจากนี้ยังมีกระเบื้องโมเสคแก้วที่เรานิยมมาตกแต่งผนังเนื่องจากมีสีสันและลวดลายอันนี้ราคากระเบื้องก็สูง คือ 1,000 กว่าบาท กระเบื้องโมเสคยังต้องเลือกช่างปูที่มีฝีมือด้วยค่ะ ไม่งั้งจะได้ลวดลายที่เฉไปเฉมาเพิ่มขึ้นมาค่ะ

3. วอลเปเปอร์

               ปัจจุบัน วอลเปเอร์ ไม่ได้เป็นแค่ผู้ช่วยปิดพื้นผิวที่ดูไม่เรียบร้อยของงานปูนเท่านั้น เนื่องจากได้มีการออกแบบลวดลายต่างๆ ออกมาเพื่อเอาใจผู้ที่กำลังตกแต่งบ้านมากขึ้น อีกทั้งในตัวเนื้อของวอลเปเอร์เองก็มีความต่างมากขึ้นค่ะ มีทั้งวอลเปเปอร์แบบหนา แบบบาง และแบบที่เป็น PVC ซึ่งจะสามารถทนต่อน้ำได้มากกว่าวอลเปเปอร์แบบทั่วๆไป

4. inkjet

                เมื่อบอกว่าเราเติมสีด้วย ink jet อาจฟังแล้วไม่เข้าใจ แต่ถ้านิดหน่อยบอกว่าคือการทำภาพสติกเกอร์ขนาดใหญ่เท่าผนัง คงร้องอ๋อ..ใช่ไหมค่ะ ด้วยเทคโนโลยีของเครื่อง printer ทำให้ได้ภาพที่มีคุณภาพสูง และราคาของค่าพิมพ์ภาพขนาดใหญ่ในปัจจุบันถูกลง ไม่ใช่เรื่องแปลกอีกต่อถ้าเราจะมีภาพถ่ายขนาดเต็มตัวไว้ในห้องนอน หรือ ภาพของดาราคนโปรดของเราเองติดแทนวอลเปเปอร์ค่ะ แต่การติดภาพ inkjet นี้เราสามารถปรับเปลี่ยนได้เรื่อยๆ ค่ะ เพราะโดยคุณลักษณะของภาพเองก็จะอยู่ได้อย่างมาก 2-3 ปี สีของภาพก็จะเริ่มซีดค่ะ

5. กระจก

               การตกแต่งบ้าน หรือส่วนต่างๆ ด้วยกระจกหรือกระจกสี เป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่ designer มักหยิบเอามาใช้ในงาน design เนื่องจากด้วยตัวของกระจกเองก็สามารถใช้ได้ในหลายๆ กรณีแล้ว การตกแต่งด้วยกระจกยังให้ความรู้สึกโปร่ง และโมเดิร์นด้วยค่ะ เราใช้กระจกช่วยตกแต่งได้ในทุกๆ ส่วนของบ้านแม้กระทั่ง การทำผนังกระจกน้ำตกในห้องน้ำค่ะ กระจกจะมีราคาค่อนนข้างสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกระจกสีค่ะ
สำหรับวัสดุที่ถูกหยิบมาใช้เป็นอีกตัวช่วยหนึ่งสำหรับแทนกระจก คือ แผ่นอะคริริค แผ่นอะคริริคจะมีความทนทานมากกว่ากระจก และราคาถูกกว่า แต่แผ่นอะคริริคก็มีข้อจำกัดในเรื่องความใส และเป็นรอยได้ง่ายกว่ากระจกค่ะ

6. ปูนผสมสีผุ่น

                คือ  สี Fresco (เฟรสโก) คือ เทคนิคการผสมสีฝุ่นในปูน เป็นเทคนิคโบราณ ที่เกิดขึ้นในประเทศอิตาลี  สี Fresco (เฟรสโก) จะทำโดยการใช้ปูนขาว ทราย หรือผงของหินอ่อนนำมาผสมกัน ที่สำคัญปูนขาวที่ใช้นั้นจะต้องนำไปตากให้แห้ง มิฉะนั้นแล้วจาทำให้เกิดการตกผลึกของพื้นผิวของ สีเฟรสโกซึ่งจะทำให้เกอดฟองอากาศเกิดขึ้นที่ผื้นผิวและพื้นผิว ก็จะไม่เรียบ และหากอยากได้สีอะไรก็ใช้สีฝุ่นสีนั้นผสมลงไปในปูนขาวที่ผสมไว้ 

                                  
7. หิน

                เลือกใช้หินสี เข้ามาเป็นส่วนประกอบในการตกแต่ง เราสามารถเลือกได้ทั้งหินแกรนิต หินอ่อน หรือหินทรายเทียม ซึ่งแต่ละหินก็จะมีเอกลัษณ์ที่หลากหลายให้เลือกใช้ได้ตามความเหมาะสมค่ะ

8. ผ้า หรือ หนังเทียม

                การใช้ผ้าหรือหนังเทียมในการตกแต่งผนัง หรือ ตกแต่งเฟอร์นิเจอร์ เป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการใส่สีให้กับบ้าน อีกทั้งการเลือกบุผนังบางส่วนด้วยผ้าจะช่วยให้บ้านดูซอล์ฟลง และยังช่วยดูดซับเสียงไม่ให้ก้องสำหรับห้องเล็กๆ แต่ไม่มีช่องระบายอากาศ ส่วนการเลือกใช้หนังเทียมตกแต่งผนังและเฟอร์นิเจอร์ จะให้ความรู้สึกเนี๊ยบทั้งส่วนที่เป็นผนังและเฟอร์นิเจอร์ที่ใช้ค่ะ

9. ไม้

                ไม้คือส่วนประกอบหลักของงาน built-in และเฟอร์นิเจอร์ เป็นส่วนใหญ่ และไม้นี่แหละที่เราสามารถเลือกทำสีได้ โดยปกติแล้ว สีไม้ที่เราเลือกใช้จะใช้สีไม้ธรรมชาติ เพื่อโชว์เนื้อไม้ลายต่างๆ ของไม้เอง สีต่อมาคือสีขาวและสีโอ๊ค นอกเหนือจากทั้ง 3 สีนี้แล้ว เราสามาดรถเลือกใส่สีได้ตามความชอบเลยค่ะ ตั้งแต่สี เขียวมะกอก สีชมพู สีแดง... แต่การทำจะค่อนข้างวุ่นวายหน่อยตรงที่ถ้ามีสีเดิงต้องการทำสีใหม่ เราต้องขัดลอกสีเดิมออกก่อนจากนั้นถึงทารองพื้นและทำสีใหม่ได้ เป็นขั้นตอนที่วุ่นวาย ที่เราไม่สามารถทำเองได้ ต้องใช้ช่างฝีมือทำ ดังนั้นการทำสีจึงมักต้องทำสีจากไม้ตั้งแต่ทำการตกแต่งค่ะ

10. ลามิเนต

                เป็นสิ่งที่ตอบโจทย์ของหลายคนคนได้ค่ะ เพราะผู้ผลิตลามิเนตได้ออกแบบสีออกมาได้อย่างหลากหลาย รวมถึงมีการออกแบบลวดลายคล้ายไม้ และหินอ่อนออกมาอีกด้วยทำให้เราสามารถเลือกใช้ได้ง่ายค่ะ ข้อดีของการใช้ลามิเนตคือ ลามิเนตสามารถกันน้ำได้นิดหน่อย เป็นสีที่ทำสำเร็จแล้วสามารถติดลงบนผนังได้เลย แต่การติดจะต้องใช้ฝีมือการติดตรงที่อาจต้องตอกและยึดกาว การตัดก็ต้องใช้เลื่อยตัดค่ะ

                เป็นอย่างไรบ้างค่ะ กับวัสดุที่ต่าง ก็มีข้อดีที่แตกต่างกันออกไปให้เราเลือกใช้ พอจะนึกออกหรือยังจะว่าจะใส่สีอะไรให้กับบ้านดี..

-- นู๋นิดหน่อย --