head pattern129 2 home designer top124  
editor  
newproject  
decor  
design  
living  
healthy  
back  
ded124  
youtube124  
facebook124  
               
 

 

      นอกจากธรรมชาติที่รังสรรค์และก่อเกิดโลกนี้แล้ว อารยธรรมของมนุษย์ก็เป็นอีกส่วนประกอบหนึ่งที่เติมแต่งให้โลกสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็น เทคโนโลยี สิ่งของเครื่องใช้ต่างๆ รวมถึงตึกราบ้านช่องที่แต่ละยุคสมัยก็มีรูปแบบต่างกันออกไป บทความนี้ รวบรวมผลงานการออกแบบของสถาปิกชาวยุโรปที่มีชื่อเสียงทั้งเก่าและใหม่ ผลงานที่เป็นที่ยอมรับ

 

 
 

 

Norman Foster นอร์แมน ฟอสเตอร์

      สถาปนิกชาวอังกฤษ เกิดในเมืองแมนเชสเตอร์ หลังเขาเรียนจบในมหาวิทยาลัยแมนเชสเตอร์ในสาขาสถาปัตยกรรม ฟอสเตอร์ได้ทุนไปเรียนต่อปริญญาโทด้านสถาปัตยกรรฒที่มหาววิทยาลัยเยล สหรัฐอเมริกา ฟอสเตอร์ก่อตั้งบริษัท Foster+Partners ขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1967 ที่ลอนดอนและนับเป็นบริษัททั้งมีผลงานโดดเด่นทางด้านนวัตกรรม

      การทำงานของฟอสเตอร์เป็นแนวคิดในการออกแบบอาคารเชิงบูรณาการ โดยผสมผสานความงามเชิงศิลป์กับเทคโนโลยี ฟอสเตอร์นำวิทยาการหลายแขนงมาช่วยทำให้งานออกแบบสามารถตอบโจทย์สถาปัตยกรรมเพื่อสิงแวดล้อม และสร้างความโดดเด่นให้กับรูปลักษณ์ของตัวอาคาร ภายใต้ความทันสมัย นอกจากนี้เขายังคำนึงถึง สภาพภูมิอากาศ และวัฒนธรรมเข้ากันด้วย

designer1  
 

ผลงานโดดเด่น


Commerzbank

      Commerzbank เป็นธนาคารที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับสองของประเทศเยอรมนี Commerzbank สูง 56 ชั้น ในเมืองแฟรงก์เฟิร์ต เยอรมนี ที่วางแผนก่อสร้างตั้งแต่ต้นทศวรรษ 1970 แล้วเสร็จใน ค.ศ. 1997 ซึ่งบริษัท Foster + Partners เป็นอาคารสูงที่ได้ชื่อว่าเป็น Ecological Skyscraper แห่งแรกของโลก ออกแบบอาคารให้มีสวนลอยฟ้าขนาดใหญ่แทรกระหว่างชั้น และนอกเหนือจากสวนลอยฟ้ายังนำเทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมาประยุกต์ใช้เพื่อลดการใช้พลังงานในอาคาร

 

designer2

 
 

 

designer3 4

 

 

30 St Mary Axe

 

      ตึกระฟ้าในนครลอนดอน สหราชอาณาจักร สูง 180 เมตร (590 ฟุต) 30 St Mary Axe รู้จักกันในชื่อของ Swiss Re Tower ตามชื่อของบริษัท Swiss Re บริษัทประกันภัยชั้นนำของโลกที่เป็นเจ้าของพื้นที่ส่วนใหญ่ในตึก และรู้จักในชื่อไม่เป็นทางการว่า เกอร์คิน (Gherkin) ซึ่งเป็นแตงกวาประเภทหนึ่งตามรูปทรงของตัวตึก


      ตัวอาคารออกแบบโดยบริษัทสถาปนิก ฟอสเตอร์แอนด์พาร์ตเนอร์ส โดยออกแบบในลักษณะรูปทรงโคนเพื่อให้ลู่ลม ก่อสร้างเสร็จในปี พ.ศ. 2547(ค.ศ. 2004) โดยเปิดใช้งานเมื่อวันที่ 28 เมษายน ในปีเดียวกัน ลักษณะภายในของตึกออกแบบในลักษณะประหยัดพลังงาน โดยกระจกของอาคารประกอบด้วยกระจกสองชั้น ซึ่งมีอากาศอยู่ภายในเพื่อสร้างเป็นฉนวนกันความร้อนในหน้าร้อน และฉนวนกันความเย็นในหน้าหนาว ในตัวอาคารจะมีปล่องขนาดใหญ่เพื่อช่วยในการหมุนเวียนของอากาศ และขณะเดียวกันก็ช่วยเพิ่มให้แสงสว่างและความร้อนจากภายนอกเข้าสู่ตัวอาคารได้

 

designer5

 

 

British Museum

 

6

 

      ฟอสเตอร์เติมชีวิตให้พื้นที่สาธารณะที่เคยเป็นเพียงที่โล่งว่าง ด้วยการเพิ่มพื้นที่อำนวยความสะดวกให้กับประชาชน  การต่อเติมพื้นที่ Great Court หรือคอร์ตตรงกลางของพิพิธภัณฑ์ British Museum (ค.ศ. 2000) จากพื้นที่ภายนอกอาคารที่ไม่มีการใช้งาน  ให้กลับมาเป็นพื้นที่ใช้งานอย่างน่าทึ่ง ด้วยการสร้างหลังคาขนาดใหญ่คลุมพื้นที่คอร์ต การนำเอาโครงสร้างที่แข็งแรงและเบามาใช้ทำให้หลังคานี้สามารถรับน้ำหนักได้ด้วยตัวเองโดยไม่ต้องพึ่งเสา หลังคาเป็นวัสดุโปร่งใสแต่กรองรังสียูวีและความร้อน ทำให้อุณหภูมิภายในอาคารไม่ร้อนนั้นเองครับ

 

 
 

 

Frank Owen Gehry  (แฟรงก์ โอเวน เกห์รี) 

      Frank Owen Gehry เป็นสถาปนิกสัญชาติแคนาดา-อเมริกัน  จากผลงานออกแบบมากมายและแตกต่างจากยุคก่อนหน้านี้ ทำให้ในเวลาต่อมาชื่อของของเขาก็ได้กลายเป็นที่สนใจในหมู่สถาปนิกระดับโลก เขาได้รับการสรรเสริญว่า "งานของเกห์รี เป็นงานที่มีสำคัญที่สุดในวงการสถาปัตยกรรมร่วมสมัย" โดย World Architecture Survey ในปี 2010 รวมไปถึง "สถาปนิกที่มีความสำคัญที่สุดในยุคสมัยของพวกเรา" จาก  Vanity Fair  และเขาก็ยังได้รับรางวัลพริตซ์เกอร์ ซึ่งเป็นรางวัลสูงสุดในสายวิชาชีพสถาปนิกในปี 1989 และรางวัลอื่นๆอีกมาก รวมถึงได้ปริญญาเอกดุษฎีบัณฑิตจากมหาวิทยาลัยระดับโลกอีกหลายที่

      ผลงานของ แฟรงก์ เกห์รี นั้นมีหลากหลายรวมถึงอาคารพักอาศัย พิพิธภัณฑ์ สถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่ง ผลงานที่มีชื่อของเขาได้แก่พิพิธภัณฑ์กุกเกนไฮม์ บิลบาโอ ในเมืองบิลเบา ประเทศสเปน ซึ่งเป็นอาคารที่มีไทเทเนียมเป็นวัสดุหลัก วอลต์ดิสนีย์คอนเสิร์ตฮอลล์ที่ ลอสแอนเจลิส และแดนซิงเฮาส์ที่กรุงปราก สาธารณรัฐเช็ก อาคารเรย์แอนด์มาเรียสตาตาเซนเตอร์ ในสถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ ในเมืองแคมบริดจ์ รัฐแมสซาชูเซตส์  เป็นต้น

 

designer7  
 

 

 

ผลงานโดดเด่น

 

Museo Guggenheim Bilbao พิพิธภัณฑ์กุกเกนไฮม์ บิลบาโอ ในเมืองบิลเบา ประเทศสเปน

 

designer8

 

      เป็นอาคารพิพิธภัณฑ์งานศิลปะสมัยใหม่และร่วมสมัย ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเนร์บีออน ณ เมืองบิลบาโอ  ประเทศสเปน อาคารได้รับการออกแบบโดยแฟรงก์ เกห์รี สถาปนิกรางวัลพริตซ์เกอร์สัญชาติแคนาดา-อเมริกา เปิดตัวเมื่อวันที่ 18 ตุลาคม ค.ศ. 1997 อาคารแห่งนี้ได้ถูกสร้างขึ้นเพื่อใช้จัดแสดงงานศิลปะต่าง ๆ จากทั้งศิลปินชาวสเปนและทั่วโลก พิพิธภัณฑ์กุกเกนไฮม์ บิลบาโอ ยังถือได้ว่าเป็นหนึ่งในพิพิธภัณฑ์ที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในสเปน มีสถิติผู้เยี่ยมชมสูงถึง 1,103,211 คน

 

      พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ได้เริ่มขึ้นเมื่อรัฐบาลแคว้นบาสก์เสนอมูลนิธิโซโลมอน อาร์. กุกเกนไฮม์ ให้มาสร้างพิพิธภัณฑ์บริเวณท่าเรือเก่าริมฝั่งแม่น้ำในเมืองบิลบาโอ ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นแหล่งสร้างรายที่สำคัญได้ให้กับเมือง สังเกตได้ว่าตัวอาคารจะมีลักษณธเป็นรูปเรือครับ  พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ได้รับคำยกย่องอย่างกว้างขวางในฐานะหนึ่งในงานออกแบบทางสถาปัตยกรรมที่มีความสำคัญมากที่สุดนับตั้งแต่คริสต์ทศวรรษ 1980 เป็นต้นมา จากการลงคะแนนโดยสถาปนิกที่เชียวชาญใน  World Architecture Survey ค.ศ. 2010

 

 

The Dancing House

designer9

 

เป็นอาคารของบริษัทประกันภัยNationale-Nederlanden จากประเทศเนเธอร์แลนด์  ณ กรุงปราก สาธารณรัฐเช็ก 

 

      Dancing House ได้รับการออกแบบโดยสถาปนิกชาวโครเอเซีย-เช็ก วลาโด มิลูนิก (Vlado Milunić ) ร่วมกับสถาปนิกรางวัลพริตซ์เกอร์สัญชาติแคนาดา-อเมริกา แฟรงก์ เกห์รี อาคารได้รับการออกแบบในปี 1992 และสร้างเสร็จในปี 1996 แดนซิงเฮาส์จัดได้ว่าเป็นงานชิ้นเอกชิ้นหนึ่งที่มีความสำคัญต่อลัทธิดีคอนสตรักชันเป็นอย่างมาก

 

      อาคารได้ถูกสร้างขึ้นบริเวณพื้นที่มีความสำคัญทางสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งเป็นสถานที่เดิมเป็นบ้านที่ถูกทำลายลงภายหลังการทิ้งระเบิดกรุงปรากของเครื่องบินทิ้งระเบิดของสหรัฐอเมริกา ในปี 1945 เกห์รีและมิลูนิกได้เสนอไอเดียอันลึกซึ้งที่ประกอบไปด้วย 2 ส่วน คือ การหยุดนิ่งและการเคลื่อนไหว (หยินและหยาง) ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของการเปลี่ยนผ่านจากระบอบคอมมิวนิสต์ภายใต้การควบคุมของเชโกสโลวาเกียสู่การแยกการออกเป็นสาธารณรัฐเช็กในระบอบประชาธิปไตย โดยใช้ลัทธิคตินิยมเปลี่ยนแนว (Deconstructivism) มาเป็นสื่อกลางในการสื่อ

 

     เกห์รี ได้สรรค์สร้างอาคารด้วยไอเดียมาจากการเต้นรำของนักเต้นรำหญิงชาย ซึ่งเดิมได้ตั้งชื่อไว้ว่าเฟรดและจินเกอร์ ที่ย่อมาจากชื่อจริงของนักเต้นรำชาวอเมริกัน เฟรด แอสแตร์และจินเกอร์ โรเจอรส์ ครับ

 

 

Le Corbusier (เลอ คอร์บูซิเยร์)

 

designer10

 

      สถาปนิก นักผังเมือง มัณฑนากร จิตรกร และนักเขียน เกิดเป็นชาวสวิตในภูมิภาคที่ภาษาฝรั่งเศสเป็นภาษาทางการ แต่แปลงสัญชาติเป็นชาวฝรั่งเศสเมื่ออายุ 43 ปี 

 

      ทั้งนี้ เลอกอร์บูซีเย ยังได้สร้างสรรค์ผลงานด้านการผังเมือง และการออกแบบไว้อีกด้วย เขามีชื่อเสียงในการสร้างแนวคิดหน่วยที่อยู่อาศัย โดยแนวคิดนี้เขาเริ่มคิดค้นในช่วงปี ค.ศ. 1920 เพื่อนำไปสู่การสร้างทฤษฎีของการอยู่อาศัยแบบร่วมกัน 

 

      กอร์บูซีเย ได้เปลี่ยนกระบวนแบบของเขา หลังสงครามเขาก็ทิ้งความตั้งใจที่ชอบผลิตผลของเครื่องจักรที่มีผิวพื้นที่เรียบลื่นและหันไปชอบกระบวนแบบใหม่ซึ่งเขาเรียกว่า brutism คือความหยาบของผิววัสดุ เมื่อเป็นเช่นนี้จะเห็นว่า กอร์บูซีเย มักทำโครงสร้างแบบ “คอนกรีตเปลือย“ และเขาเห็นว่าอาคารนั้นไม่เหมาะกับคนแต่ควรทำให้คนเหมาะกับอาคารจึงกำหนดสัดส่วนของอาคารให้เหมาะสมแทน

 

      ด้วยแรงบันดาลใจและความคิดสร้างสรรค์ในยุค modern movement เขาได้ออกแบบโบสถ์ที่รงชอง ถือเป็นงานชิ้นโบว์แดงของเขา มีลักษณะเล่น ลูกเล่นแบบ plastic quality ของดินเหนียว ใช้รูปทรงที่แรงแทนสัญลักษณ์ทางศาสนา งานนี้มีลักษณะเห็นถึงพลังและมีความเป็นตัวเองได้อย่างมีเอกลักษณ์

 

ผลงานโดดเด่น

 

Notre Dame du Haut

 

designer11

 

      โบสถ์แห่งนี้ตั้งอยู่บนเนินเขาใกล้กับเมืองแบลฟอร์ ในฝรั่งเศสตะวันออก ที่ซึ่งเคยมีโบสถ์แสวงบุญอุทิศให้แก่พระแม่มารี แต่ได้ถูกทำลายลงในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง หลังจากที่สงครามได้สิ้นสุดลงมันก็ถูกวางแผนว่าจะสร้างอยู่บนทำเลเดิม

 

      โครงสร้างส่วนใหญ่นั้นทำมาจากคอนกรีต ซึ่งส่วนน้อยนั้นถูกล้อมรอบไปด้วยกำแพงที่หนา ประกอบกับหลังคาที่หงายขึ้นรองรับโดยเสาที่ฝังอยู่ในกำแพง ดูคล้ายกับเรือใบที่โต้คลื่นอยู่ในสายลมบนยอดเขา โบสถ์คริสเตียนแห่งนี้ได้เปรียบตัวมันเองเป็นเรือของพระเจ้าที่นำพาเอาความปลอดภัยและความช่วยเหลือให้พ้นภัยมาสู่เหล่าผู้ติดตาม ด้านในนั้น พื้นที่ที่ถูกเว้นว่างไว้ระหว่างกำแพงและหลังคา ถูกเติมเต็มด้วยหน้าต่าง และยังมีแสงที่ไม่สมมาตรเข้ามาจากช่องเปิดของกำแพง เพื่อที่จะส่งเสริมธรรมชาติที่ศักดิ์สิทธิ์ของพื้นที่และยังส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างตัวอาคารและพื้นที่รอบด้าน การใช้แสงภายในตัวอาคารนั้นเป็นแบบละมุนละไมและไม่เป็นแสงที่อาทิตย์ที่เข้ามาโดยตรง ซึ่งเข้ามาทางหน้าต่างและสะท้อนออกจากกำแพงปูนสีขาวโบสถ์และหอคอยที่ต่อออกมาครับ

 

 

Villa Savoye

 

designer12

 

     Villa Savoye  เป็นผลงานส่วนใหญ่ที่คนจะนึกถึง เขาออกแบบเพื่อแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของทฤษฎีสถาปัตยกรรมที่เขาคิดขึ้นมา ซึ่งมี 5 ประการได้แก่

 

1.ยกพื้นสูงลอยตัว มีลักษณะเบา

 

2.จัดแผนผังพื้นที่ใช้งานอิสระ เพราะผนังไม่ต้องรับน้ำหนัก

 

3.มีหน้าต่างที่เป็นแนวนอน เพื่อรับแสงและระบายอากาศได้ทั่วถึง

 

4.หลังคาแบนและมีสวนบนดาดฟ้า

 

5. ผนังด้านนอกตัวอาคารสามารถออกแบบได้อย่างอิสระ เพราะไม่ต้องรับน้ำหนักเหมือนแต่ก่อน เป็นต้น

 

 

Zaha Hadid  (ซาฮา ฮาดิด)

 

designer13

 

      เป็นสถาปนิกหญิงชาวอิรัก-อังกฤษ แนวดีคอนสตรักติวิสซึมชื่อดังของอังกฤษ ได้รับรางวัลพริตซ์เกอร์ ในปี ค.ศ.2004 และได้รับเลือกเป็นหนึ่งใน 100 บุคคลที่มีอิทธิพลในหมวดหมู่นักคิดจากนิตยสารไทม์ในปี ค.ศ. 2010

 

      ซาฮา ฮาดิด  ได้รับปริญญาทางคณิตศาสตร์จากมหาวิทยาลัยอเมริกันแห่งกรุงเบรุต ก่อนที่จะเข้ารับการศึกษาต่อทางด้านสถาปัตยกรรมที่สถาบันเอไอเอ ในกรุงลอนดอน

 

      หลังจบการศึกษา เธอได้กลายมาเป็นหุ้นส่วนของสำนักงานสถาปัตยกรรมเมโทรโปลิตัน ทำงานร่วมกับ เร็ม คูลฮาส สถาปนิกชื่อดังชาวดัชท์ ที่เคยเป็นอาจารย์ของเธอ ในปีค.ศ. 1979 เธอยังได้ก่อตั้งสำนักงานสถาปนิกของตนเองขึ้นในกรุงลอนดอน และในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 1980 เธอยังได้เป็นอาจารย์ในสถาบันเอไอเออีกด้วย

 

 

ผลงานโดดเด่น

 

พิพิธภัณฑ์แห่งชาติ MAXXI  ในกรุงโรม อิตาลี

 

designer14

 

      พื้นที่ด้านในถูกสร้างให้รู้สึกถึงความเคลื่อนไหว มีไดนามิคของเส้นสาย เส้นโค้ง เพื่อแสดงถึงความเคลื่อนไหวของนิทรรศการอยู่เรื่อยมา ตกแต่งด้วยผนังคอนกรีต และบันไดที่ดำภายใน เพดานโปร่งให้ได้รับแสงจากธรรมชาติ ปัจจุบันก็ยังเป็นที่ๆคนใหเความสนใจอยู่เรื่อยๆ ครับ

 

 

London  aquatic centre

 

designer15

 

      ในปี 2012 ที่ผ่านมาหลายคนคงคุ้นตากับอาคารรูปทรงคล้ายหมวกจักรยาน ที่ถูกใช้เป็นสนามกีฬาทางน้ำ (aquatic centre) สำหรับการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก ณ กรุงลอนดอน ที่เธอได้รับความไว้วางใจให้ออกแบบผลงานชิ้นนี้ขึ้นมา

 

Bridge Pavilion

 

16

 

      Bridge Pavilion สร้างขึ้นในเมือง ซาราโกซา ประเทศสเปน ปี 2008  คืออาคารข้ามสะพานแม่น้ำเอโบร ตั้งอยู่ในเมืองซาราโกซ่า ประเทศสเปน ที่แห่งนี้สร้างขึ้นเพื่อใช้รองรับงาน Expo zaragora 2008 นิทรรศการนานาชาติที่จัดขึ้นนานกว่า 3 เดือนและมีผู้คนหมุนเวียนเข้ามาในสถาปัตยกรรมแห่งนี้มากว่า 5 ล้านคน

      ผลงานของซาฮาบางผลงานถึงแม้ว่าจะไม่ได้ถูกสร้างขึ้นมาจริง แต่ก็ได้ขนานนามว่าเป็นแม่บทที่ยอดเยี่ยม เช่นเดียวกันครับ

 

 

      เป็นอย่างไรกันบ้างสำหรับบุคคลที่ถือเป็นสุดยอดฝีมือทางด้านสถาปัตยกรรม หลายๆท่านอาจเป็นที่คุ้นเคยและยังคงมีชีวิตอยู่สร้างผลงานต่อไป หรือบางท่านอาจจะเสียชีวิตไปแล้ว แต่ผลงานเหล่านี้ที่ได้สร้างขึ้นไว้จะยังคงอยู่ต่อไปให้คนรุ่นหลังได้ดูและศึกษาเพื่อสร้างแรงบันดาลใจต่อไป สำหรับเดือนนี้หวังว่าแฟนๆชาวบาริโอคงสนุกสนานกับบทความนี้นะครับ แล้วพบกันใหม่เดือนหน้า มีดูกันว่าจะเป็นเรื่องราวอะไรกันอีก สวัสดีครับ 

 

 

 

ขอบคุณข้อมูลจาก 

zcooby.com

sarakadee.com

 

นิตยสาร ELLE Decoration

 

 

 

British Museum

 Contact us / Join us

ออกแบบตกแต่งภายใน รับเหมาตกแต่งภายใน ตกแต่งภายใน ออกแบบภายใน Interior design Thailand

www.bareo-isyss.com เป็น web magazine ที่ update รายเดือนเพื่อผู้อ่าน ทัศนะและความคิดเห็นใดๆ ของผู้ประพันธ์ หรือผู้สนับสนุน
ไม่ว่าจะเป็นในลักษณะอันอาจก่อให้เกิดความเข้าใจอย่างชัดแจ้ง หรือไม่แน่ชัดใน www.bareo-isyss.com มิได้มาจาก บริษัท บาริโอ จำกัด และบริษัทในเครือแต่อย่างใด
ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย หรือร่วมรับผิดชอบ ไม่ว่ากรณีใดๆ ทั้งสิ้น

Bareo-Isyss รับออกแบบตกแต่งภายใน รับเหมาตกแต่งภายใน ออกแบบภายใน ออกแบบตกแต่งภายใน Interior design Thailand