home
about bareo
news & event
art of design
decor guide
the gallery
living young
talk to editor
links
back issue
 
 

 

 

            กลับมาพบกันอีกแล้วนะคะ หลังจากที่รำเพยได้หายหน้าหายตาไปหลายเดือน เนื่องด้วยภารกิจการงานที่รัดตัวเอามากๆ ทำให้รำเพยไม่สามารถมานั่งเล่าเรื่องลงใน Website สุดที่รักของเราได้เลย เล่นเอา บอกอ Hana งอนรำเพยอยู่ตั้งนานสองนาน จนรำเพยต้องไปง้อว่าจะเขียนเรื่องลงให้สักสองเรื่องในเดือนนี้ ก็เลยยิ้มให้รำเพยดูได้นิดหน่อย (แต่ก็ยังงอนอยู่นะเนี่ย)

 

            ช่วงนี้ หลายต่อหลายท่านคงได้เห็นโฆษณาแสนสวยของบริษัทเราในแมกาซีน Casaviva และ Living ETC แล้วใช่มั้ยคะ รำเพยนะ ชอบมากเลย ยิ่งได้อ่าน Headline ที่ว่า “Good morning to the beautiful world of Happiness” นี่ ยิ่งซาบซึ้งใหญ่ อันนี้ ต้องขอยกความดีให้กับพี่ Isyss ที่อุตส่าห์มองการณ์ไกล ลงทุนซื้ออุปกรณ์ถ่ายภาพมาฝึกหัดอยู่หลายปีจนฝีมือขั้นเทพ จนเดี๋ยวนี้ ไม่ต้องไปเสียเงินจ้างช่างภาพค่าตัวแพงๆ ที่ไหนแล้ว ทำให้บริษัทประหยัดเงินไปได้หลาย แถมยังสั่งได้อีกด้วย ว่าจะเอามุมไหน บรรยากาศแบบไหน พี่แกทำได้หมด...คุ้มจริงๆ นะ

 

            จะว่าไปแล้ว บอกอ Hana นี่ก็เป็นลูกศิษย์ของพี่ Isyss ในสาขาวิชาการถ่ายภาพเหมือนกัน ภาพถ่ายผลงานของบริษัท หลายต่อหลายชิ้น ก็เป็นฝีมือของบอกอสาวโสดคนนี้แหละค่ะ เห็นมั้ยคะว่าที่บริษัทของเรา พนักงานแต่ละคน นอกจากจะต้องเก่งกาจในหน้าที่ของตนแล้ว (มิฉะนั้น หัวอาจหลุดจากบ่าได้ เวลาประเมินผลงานประจำปี) ยังต้องมีความสามารถรอบด้านในการช่วยกันพาบริษัทให้ก้าวไปข้างหน้าตามท่านผู้นำอีกด้วย...ไฮ...ฮิตเลอร์... (ล้อเล่นนะคะ)

 

            เข้าเรื่องสักที โม้มาหลายย่อหน้า เป็นเทคนิคในการกำจัดพื้นที่ว่าง เวลาที่รำเพยได้รับมอบหมายให้เขียนเรื่อง แล้วดันไม่ค่อยมีความรู้เกี่ยวกับเรื่องที่จะเล่านี่แหละค่ะ ก็อย่าเพิ่งคลิ๊กหนีไปไหนนะคะ ช่วยกันอ่านให้จบหน่อย เดี๋ยวรำเพยจะโดนเฉ่งว่าทำงานได้ไม่ดี เขียนเรื่องไม่โดนใจผู้อ่าน (อีกแระ)

 

 

 

 

 
   
 

 

            เดือนนี้ก็เข้าสู่เดือนแห่งหน้าร้อน เด็กๆ ปิดเทอมกันหมดแล้ว เผลอๆ เข้าช่วงเรียนซัมเมอร์แล้วด้วย จะว่าไปแล้ว ปีนี้ ท่าทางจะร้อนหนักกว่าปีที่แล้วซะอีก ไม่รู้ว่าเป็นผลพวงของเอลนิญโญ หรือนานีญ่าที่ไหนหรือเปล่า แต่ที่รู้ๆ หน้าหนาวที่ผ่านมานี่ หนาวได้ใจชะมัด เหมือนกับจะรู้ว่ารำเพยต้องติดทำงานที่กรุงเทพ ไม่สามารถไปไหนต่อไหนได้ ฟ้าท่านเลยบันดาลให้รำเพยได้ฉลองเทศกาลลมหนาวที่ยาวนานที่บ้านซะเลย...

 

            ว่าก็ว่ากันไป อันที่จริงพอรำเพยได้อยู่บ้าน (ซะบ้าง) เลยได้รู้ว่าบ้านเราก็น่าอยู่มากเลยนะ แม้ว่าความรู้สึกนั้นจะหายไปนานแล้ว ตั้งแต่ตอนที่ย้ายเข้า พออยู่ไปเรื่อยๆ ก็ชักเริ่มชิน จากที่ชินก็กลายเป็นเฉยๆ และจากเฉยๆ เลยกลายเป็นเบื่อไปซะงั้น แต่พอลมหนาวพัดมาเท่านั้น รำเพยเลยได้สติกลับคืนมา (โห...แม่คุณ อารัมภบท นานมากกกกกก....)

 

            สำหรับหน้าร้อนนี้ รำเพยเองก็ไม่ได้ไปไหนอีกเช่นเคย (รู้ๆ กันอยู่แล้ว) ต้องไปๆ มาๆ ระหว่างที่บ้านกับที่ทำงาน เพราะว่าเศรษฐกิจในกระเป๋าสตางค์ไม่ค่อยดี เลยไม่สามารถไปนอนหลบแดดในสถานที่ท่องเที่ยวชั้นนำ อย่างพี่ Isyss ได้ รวมทั้งก็ไม่มีเงินพอสำหรับซื้อของใช้แพงๆ เป็นของขวัญวันหยุดเทอมได้เช่นกัน (วันหยุดเทอมของคนอื่นเนี่ยนะ เกี่ยวอะไรกับเธอล่ะจ๊ะ-บ.ก.) พอวันหยุดก็เลยรู้สึกคันไม้คันมือ อยากจะทำให้บ้านของเราดูสดใส ไฉไลเหมือนตอนที่ย้ายเข้ามาอยู่ใหม่ๆ นะคะ ว่าแล้ว รำเพยก็เลยมานั่ง List ดูว่าเราจะทำอะไรได้บ้างที่จะทำให้บ้านมีชีวิตชีวาขึ้นมาสำหรับหน้าร้อนที่ร้อนสุดๆ นี้

 

            อันที่จริง ก่อนที่รำเพยจะได้รับหัวข้อนี้ รำเพยก็ได้ข้อมูลในเรื่องนี้จากแมกาซีนต่างชาติแล้วเหมือนกัน แต่รำเพยว่ามันใช้ไม่ค่อยได้กับบ้านเรา เพราะบ้านเมืองเขาเป็นเมืองหนาว พอเจอแดดที ก็ดีใจมานั่งตากแดด แต่ของบ้านเรา เจอแดดทีไร ต้องหาเงา หาร่มมาบังแดดให้วุ่นวายไปหมด ว่าแล้ว รำเพยก็เลยขออนุญาตแนะนำเทคนิคการแต่งบ้านแบบรำเพยเองนะคะ จะได้เหมาะกับบ้านของเรากันค่ะ

 

 

 
   
 

 

 

           1. หน้าร้อนนี้อย่าให้บ้านรก

            อันนี้เป็นหลักข้อแรกเลยสำหรับเทรนด์หน้าร้อนปีนี้ เพราะถึงอย่างไร เราก็ยังอยู่ในช่วงของยุคผสมผสานที่นำเอาอันโน้นนิด อันนี้หน่อยมาประยุกต์ใช้กัน กลายเป็นสไตล์ต่างๆ แต่ทุกสไตล์ในช่วงนี้ จะเริ่มต้นกันด้วยความเรียบง่าย และขาวสะอาดตาก่อนเป็นพื้น ดังนั้น การจัดบ้านแบบไม่ตกเทรนด์ ก่อนอื่นต้องไม่รกค่ะ สำหรับเทคนิคการจัดบ้านแบบไม่ให้รกนี้ รำเพยขอข้ามไปนะคะ เพราะใน Website ของเราก็มีให้เลือกอ่านอยู่หลายต่อหลายเรื่อง ลองหาดูตามนี้นะคะ

            หลักพื้นฐานของบ้านน่าอยู่             http://www.bareo-isyss.com/40/40_decor_home.html
            5 เทคนิคหลักที่ทำให้บ้านเล็กน่าอยู่  http://www.bareo-isyss.com/39/39_decor_smallhouse.html
            ห้องเก็บของ                               http://www.bareo-isyss.com/did_u_storeroom.htm

 

 
   
 

 

 

           2. จัดมุมสบายของบ้าน ไว้รับลมร้อน
           สำหรับเทคนิคข้อสองนี้ รำเพยขอแนะนำให้ทุกท่านที่กำลังจะเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์ใหม่ ว่าอย่าเพิ่งซื้ออะไรที่หนาๆ หนักๆ มาไว้ทุกมุม เพราะว่าบ้านเราเป็นเมืองร้อน ถ้าเราใช้เฟอร์นิเจอร์แบบยุโรป หรือโซฟา อาร์มแชร์หนาๆ นุ่มๆ หุ้มด้วยหนังแท้ หรือหนังเทียมซะทั้งหมด ไม่งั้นคงหนีไม่พ้นที่จะต้องเปิดเครื่องปรับอากาศทั้งวันแน่ๆ

 

           สำหรับท่านที่มีพื้นที่เหลือเฟือ รำเพยอยากจะแนะนำให้ลองหาเฟอร์นิเจอร์แบบใหม่ๆ ที่ค่อนข้างโปร่ง และเบามาใช้บ้าง อย่างเช่นเฟอร์นิเจอร์หวาย หรือไม้อัดดัดโค้ง มาจัดเป็นมุมรับลมร้อน เพื่อไว้นั่งตากลมเวลาแดดร่มบ้าง หรือตอนทานอาหารเช้าที่แดดยังไม่จัด มีลมพัดเอื่อยๆ รับรองว่ามุมนี้จะเป็นมุมโปรดมุมนึงของบ้านเลยค่ะ

 

           แต่สำหรับท่านที่อยู่ห้องชุดในเมืองเหมือนอย่างรำเพย รำเพยก็อยากจะเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์แบบ Modern หน่อยๆ หน้าตาเรียบๆ ง่าย อาจจะทำจากวัสดุที่ค่อนข้างทนทาน อย่างเช่น พลาสติก มาจัดเป็นมุมนั่งเล่นเล็กๆ ตรงระเบียง สำหรับนั่งทานชาไป อ่านหนังสือหรือทำกิจกรรมยามว่าง หรือจะนั่งชมวิวของเมืองในที่สูง ผ่อนคลายความเครียดจากงาน และก็ไม่ต้องเปลืองค่าไฟสำหรับเครื่องปรับอากาศด้วยค่ะ  

 

 

 
   
 

 

 

           3. ยกเครื่อง เปลี่ยนบุคลิกให้กับบ้าน
สำหรับท่านที่เบื่อบ้านหลังเดิมเต็มทน จนอยากจะทำอะไรใหม่ๆ บ้าง ลองเริ่มจากการเปลี่ยนผ้าม่านหรือมู่ลี่ดูก่อนก็ได้ค่ะ เพราะผ้าม่านและมู่ลี่นั้นง่ายต่อการเปลี่ยน แต่ให้ผลที่ชัดเจนมาก รำเพยเคยเปลี่ยนมู่ลี่จากใบเล็กเป็นใบใหญ่ แต่ใช้สีเดิม ยังทำให้บ้านดูน่าอยู่ขึ้นเป็นกอง


            แต่สำหรับท่านที่ติดผ้าม่าน อาจจะให้ช่างเย็บผ้าม่านลายใหม่ สีสันสดใสสักนิดนึง มาติดแทนผ้าม่านผืนเก่า แต่ผ้าผืนเก่าก็ไม่ต้องทิ้งนะคะ เพราะเก็บไว้ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนได้ในแต่ละฤดูกาล จะทำให้บ้านของเรามีสีสันที่แตกต่างกันออกไปได้เรื่อยๆ ไม่รู้เบื่อเชียวค่ะ


           สำหรับการเก็บผ้าม่านนั้น ให้ใช้วิธีม้วนหลวมๆ ผ้าม่านจะได้ไม่ยับ แล้วห่อไว้ในแผ่นพลาสติกใสๆ บางๆ เพื่อกันฝุ่น แล้วนำไปไว้ในห้องเก็บของ คราวนี้ จะเก็บได้นานเชียว


           ส่วนท่านที่ต้องการยกเครื่องใหม่ให้กับบ้านไปเลย ลองทาสีผนังใหม่ หรือเปลี่ยน Wall paper ดูด้วย จะช่วยให้บ้านเปลี่ยนบุคลิกไปตามใจเราเลยค่ะ


           สำหรับสีผนังในช่วงนี้ ลองสีชมพูกลีบกุหลาบ สีเขียวมะนาว สีเขียวอ่อน หรือสีแรงๆ อย่างสีส้ม สีเหลืองทอง รวมทั้งสีฟ้าน้ำทะเล ที่กำลังมาแรงก็ได้ค่ะ


            แต่หากกลัวว่าสีที่เอ่ยมา จะแรงเกินใจ ก็ลองเลือกทาเฉพาะผนังที่เป็นจุดรวมสายตา เมื่อเข้ามาในห้อง เช่น หากเป็นห้องนอน ก็ทาที่ผนังหัวเตียง แต่หากเป็นห้องรับแขก ก็ทาที่ผนังด้านหลังชุดโซฟา เป็นต้น

 

 

 
   
 

 

 

            4. เติมสีสันให้สดใส
สำหรับข้อนี้ รำเพยอยากจะแนะนำให้ทุกท่านลุกขึ้นมาเติมสีสันให้กับบ้านแบบง่ายๆ บ้างค่ะ ซึ่งการเพิ่มสีสันให้กับบ้านนั้น สามารถทำได้ง่ายๆ หลากหลายวิธี ยกตัวอย่างเช่น การจัดดอกไม้ประดับแจกัน วางในห้องรับแขก หรือห้องอาหาร ทำให้คนในบ้านได้สดชื่นตั้งแต่เช้า


            รำเพยแนะนำให้ลองเลือกดอกไม้ที่สวยได้นานๆ จากปากคลองตลาด เพราะจะสด อยู่ได้นานกว่า และราคาไม่แพง เช่น ดอกบัตเตอร์ฟลาย กำนึงไม่เกิน 80 บาท หรือดอกมัมเชียงใหม่ ก็ตั้งแต่ 80-90 บาท แต่ถ้าจะเอาดอกมัมนอก ก็ประมาณ 120 บาท

            ดอกเบญจมาศเหลืองก็เพิ่มสีสันให้กับห้องได้ชัดเจนดี ราคาไม่เกินกำละ 80 บาท ดอกเยอบีร่า ราคาไม่เกิน 70 บาท ส่วนดอกเบิร์ดออฟพาราไดซ์ ก้านใหญ่ๆ ดอกสวยๆ ราคาประมาณ 3 กำ 50 บาท


            เมื่อได้ดอกไม้แล้ว ก็ลองมาใส่ในแจกัน เลือกแบบง่ายๆ ไม่ต้องซับซ้อนหรือแพงมากก็ได้ เพราะเราจะโชว์ดอกไม้ให้สดชื่น มากกว่าจะนำเสนอตัวแจกัน

 

 

 
   
 

 

 

            หรือจะติดรูปภาพประดับผนังบ้าง ก็ทำให้บ้านมีชีวิตชีวามากขึ้นทันตาเห็นเชียว ซึ่งท่านจะลองไปเดินหาซื้อรูปภาพประเภทภาพเขียน หรือ Painting สีสันสดใสมาประดับห้องก็ได้ ซึ่งในจตุจักรก็มีร้านขายภาพในแนวนี้ให้เลือกอยู่เยอะเลยทีเดียว ในขณะที่บางท่านอาจจะเลือกซื้อภาพถ่ายหรือภาพพิมพ์ที่ใส่กรอบเก๋ๆ มาจัดเรียงกันบนผนัง ก็ดูดีไม่หยอก

 

            แต่ที่รำเพยชอบและประทับใจมากๆ เลย คือการนำเอาภาพถ่ายของครอบครัวของเรานี่แหละค่ะ ที่ถ่ายกันเล่นๆ ตามที่ต่างๆ มาขยายภาพใหญ่ๆ แล้วเข้ากรอบ และจัดเรียงกันตามผนังต่างๆ ในบ้าน รับรองว่าบ้านของคุณจะดูมีชีวิตชีวาขึ้นเยอะทีเดียว

 

            นอกจากนี้ สำหรับผู้ที่มีฝีมือด้านเย็บปักถักร้อย ก็ลองเย็บหมอนอิงสีสวยๆ มาจัดวางตามโซฟาหรือเก้าอี้ต่างๆ ในบ้าน พยายามเลือกสีที่ดูสดใสรับกับหน้าร้อนนี้ อย่างเช่นสีฟ้าน้ำทะเล สีฟ้าเข้ม สีน้ำเงิน สีเขียวใบไม้ สีเขียวอ่อน สีเหลืองสด เป็นต้น รับรองบ้านจะดูอินเทรนด์ขึ้นเชียวค่ะ

 

 

 
   
 

 

 

            5. คิดกิจกรรมสร้างสรรค์ สนุกกันวันรับลมร้อน
เคล็ดลับข้อสุดท้ายที่รำเพยอยากแนะนำให้ทำสำหรับรับลมร้อน ก็คงไม่พ้นการจัดกิจกรรมภายในบ้าน ก็ไหนๆ ก็ลงทุนปรับแต่งบ้านกันมาซะขนาดนี้แล้ว เราควรจะจัดกิจกรรมเพื่อให้ฉลองหน้าตาใหม่ของบ้านกันหน่อย ไม่ว่าคุณจะแค่เมคอัพนิดหน่อย หรือลงทุนผ่าตัดเปลี่ยนโฉมของบ้าน ก็ควรค่ากับการฉลองบ้านใหม่เช่นกัน

 

            โดยกิจกรรมในบ้าน สามารถเริ่มได้ตั้งแต่การร่วมกันทำอาหารฉลองกันในครอบครัว ไปจนถึงการจัดปาร์ตี้ ชวนเพื่อนฝูงต่างๆ มาสังสรรค์กันในวันหยุด อาจจะจัดบาร์บีคิวทานกันตอนเย็นๆ หรือทำซูชิทานกันให้เป็นที่อิจฉาของเพื่อนบ้านก็ได้

 

            ที่สำคัญ ในช่วงที่มีงาน ลองเปิดบ้านให้ลมเข้าดูบ้าง เลือกเสื้อที่ใส่สบายๆ ไม่ร้อน นั่งทานอาหารร่วมกันกับครอบครัวหรือเพื่อนสนิทตอนเย็น เมาท์กันไป ก็อวดฝีมือการตกแต่งบ้านใหม่ไปด้วย อาจจะร้อนนิดหน่อย แต่ลองปล่อยให้เหงื่อออกบ้าง จะทำให้สุขภาพดีขึ้นเยอะนะคะ และรับรองว่าจะเป็นมื้อสนุกที่ควรค่าแก่การจดจำไปอีกนานทีเดียวค่ะ

 

            อ้อ...ถ้าทนไม่ไหว อนุญาตให้แอบเปิดแอร์ได้นิดนึงนะคะ...อิอิ

 

 
     
     
     
  -- รำเพย รำพัน --        
           
           
           
           
           

 


บริษัท บาริโอ จำกัด

50 ซอยบรมราชชนนี 4 ถนนบรมราชชนนี เขตบางพลัด กรุงเทพฯ 10700   Tel. 66 2881 8536-7   Fax. 66 2881 8538