บ้านพักอาศัยในโครงการ The Exclusive, พัฒนาการ

ช่วงนี้ เราไปชมผลงานการตกแต่งบ้านในสไตล์คลาสสิกจากฝีมือของ Interior Designer หนุ่มๆ ของ Bareo & Isyss กันไปหลายหลังแล้ว วันนี้ เราลองมาดูผลงานแต่งบ้านสไตล์โมเดิร์นของน้องตาล ดีไซน์เนอร์สาวของเรากันบ้างค่ะ
บ้านพักอาศัยหลังนี้ ประกอบขึ้นจากทาวน์เฮาส์ในโครงการ ดิ เอ็กซ์คลูซีฟบนถนนพัฒนาการ จำนวน 2 หลังมาต่อกัน กลายเป็นบ้านหลังใหญ่ที่มีประโยชน์ใช้สอยครบครัน ซึ่งเกิดขึ้นจากคุณพ่อคุณแม่ที่มองการณ์ไกล โดยตั้งใจจะแบ่งให้ลูกๆ ทั้งสองในอนาคต

ผลงานการตกแต่งบ้านหลังนี้ เป็นฝีมือของน้องตาล น้องคนเล็กของ Bareo & Isyss ที่ฝีมือไม่ได้เล็กตามเลย โดยสไตล์ที่ลูกค้าและ Interior Designer ได้ชื่นชอบร่วมกัน คือ Modern ที่เรียบง่าย มีลูกเล่นแบบ Graphic และสีสันที่น่าสนใจ แต่ก็ไม่โล้นจนน่าเบื่อแบบ Minimalism ค่ะ

Concept โดยรวมของบ้านหลังนี้ จะเป็นการตกแต่งบ้าน 2 หลังที่เชื่อมต่อกัน โดยพยายามใช้เค้าโครงของบ้านมาตรฐานให้มากที่สุด และมีเฉพาะชั้นล่างที่บ้านทั้งสองหลังจะยังคงใช้ร่วมกันในอนาคต

เริ่มต้นจากทางเข้าของบ้าน ที่เจ้าของบ้านเลือกบ้านหลังทางขวาเป็นทางเข้าใหญ่ จึงจัดวางด้วยเจ้าที่หรือตี่จู้ของจีนข้างหน้าผนังลาย Graphic โปร่งที่รับกับประตูทางเข้าบ้าน โดยมีตู้เก็บรองเท้าขนาดใหญ่ที่มีหน้าตาเรียบง่าย พร้อมชั้นสำหรับวางของโชว์และของใช้เบ็ดเตล็ดเมื่อกลับเข้าบ้าน
ด้านหลังของผนังลาย Graphic ที่เป็นจุดเด่นเมื่อเข้ามาในบ้านแล้ว จะเป็นชุดรับแขกรูปตัวแอลขนาดใหญ่ที่จัดอยู่หน้าผนังตกแต่งกรุกระจกเงาลาย Graphic สลับด้วยสีแดงโดดเด่น และเก้าอี้ทรงแฟชั่นสีขาวดำที่ปักชื่อย่อของเจ้าของบ้านอย่างสวยงาม พร้อมทั้งโต๊ะกลางแบบ Modern สีขาวที่เรียบง่ายแต่เท่สะดุดตาเชียวค่ะ

ส่วนผนังที่ใช้ติดตั้ง LED TV ตกแต่งด้วยเส้น Stainless เพิ่มความหรูหรา และแผงไม้ขนาดใหญ่ซ่อนไฟสำหรับลดปัญหาเรื่องแสงสะท้อนในตอนกลางคืน ที่สามารถรองรับ TV รุ่นใหม่ที่มีขนาดใหญ่ได้อย่างสบายๆ พร้อมช่องสำหรับเสียบสายแบบ Intelligence Socket ที่จะลดความยุ่งยากในการเสียบปลั๊กของเครื่องเสียงต่างๆ อันเป็นผลผลิตจากการพัฒนาของทีมออกแบบของ Bareo & Isyss
ส่วนตู้ลอยสำหรับวางเครื่องเสียง ประดับด้วยลิ้นชักกระจกเงาสำหรับเก็บแผ่น CD, DVD หรือ Blue Ray ได้อย่างเป็นหมวดหมู่ และต่อด้วยโต๊ะทำงานแบบ Modern ที่เรียบง่ายภายใต้สีดำสนิท

จากโถงทางเข้าด้านหน้า เมื่อเดินผ่านซุ้มประตูมายังบ้านอีกหลัง จะพบชุดโต๊ะอาหารขนาด 8 ที่นั่ง ต่อด้วยส่วนครัว Pantry ขนาดใหญ่ ซึ่งมีบานเลื่อนกระจกใสบานใหญ่สูงจรดเพดาน ใช้กั้นห้องทั้งสองส่วนออกจากกันเพื่อกันกลิ่นในยามที่ใช้งานครัวอย่างจริงจัง และในห้องครัวนี่เองที่กลายเป็นจุดศูนย์รวมของบ้าน และทำให้บ้านหลังนี้กลายเป็น Home Sweet Home ของครอบครัว เพราะบรรดาสมาชิกในบ้านชอบทำอาหาร

ห้องครัวจึงมีฟังก์ชั่นและอุปกรณ์ต่างๆครบถ้วนไว้สำหรับทำอาหาร ขนม เก็บอาหารแห้ง ซึ่งไม่ใช่แค่ใช้งานได้ดีแล้ว ตัวงานออกแบบยังดูสะดุดตาด้วยการใช้ Graphic Pattern เป็นเหลี่ยมมุม มีการผลักกันของเฉดสีเทาอ่อนและเทาเข้มทำให้เกิดมิติ และมีการใช้สีแดงซึ่งเป็นสีเด่นของชั้นล่างเข้ามาเพิ่มความน่าสนใจนอกเหนือจากการเลือกใช้วัสดุที่เรียบ สบายตา และเกลี้ยงเกลา
เมื่อเดินขึ้นมาชั้นสอง เราจะพบว่าห้องต่างๆ จะยังคงผนังเดิมของอาคารไว้อย่างครบถ้วน และมีการใช้งานคล้ายกัน คือเป็นห้องนอนของลูกๆ ทั้งสอง ซึ่งจะตกแต่งห้องส่วนหน้าเป็นห้องทำงานและมีมุมเก็บเสื้อผ้าตามความต้องการของแต่ละคน ส่วนห้องด้านหลังจะตกแต่งเป็นห้องนอนที่มีห้องน้ำในตัวครบครัน

เริ่มจากห้องนอนฝั่งของลูกชายคนโตก่อนนะคะ จะตกแต่งด้วยโทนสีฟ้าและขาวซึ่งเป็นสีหลัก เติมเอกลักษณ์ของห้องด้วยลายกราฟฟิกสีฟ้า ซึ่งใช้พรางตู้เสื้อผ้าให้ดูกลมกลืนกับผนังห้องได้อย่างละเมียด เพิ่มความน่าสนใจในห้องด้วยชั้นโชว์ที่ด้านข้างตู้หน้าประตูทางเข้าห้องน้ำ เพื่อลดความทึบตันของตู้เสื้อผ้าได้เป็นอย่างดี
และเมื่อออกจากห้องนอนจะผ่านโถงบันได ซึ่งมีพื้นที่เล็กๆ ติดกับตัวบันไดที่พอให้จัดตู้วางแผ่น CD และ DVD ที่น้องตาลก็ทำได้เก๋และน่าสนใจมากๆ ค่ะ
ซึ่งผนังฝั่งตรงข้าม น้องตาลก็ยังเพิ่มตู้สำหรับวางหนังสือ ซึ่งเป็นงานอดิเรกอีกอย่างของหนุ่มอารมณ์ศิลป์คนนี้

ในส่วนของห้องทำงานที่แยกไว้ที่ห้องส่วนหน้า ก็มีการจัดโต๊ะทำงานยาวสีขาวพร้อมชั้นลอยสีน้ำเงินสำหรับวางโมเดลของเล่น และหนังสือเพื่อให้สะดวกต่อการหยิบใช้ พร้อมมุมนั่งฟังเพลง ที่จะให้เจ้าของห้องได้ดื่มด่ำกับภาพยนต์และเพลงโปรดได้อย่างเป็นส่วนตัว ภายใต้ Theme สีฟ้าขาวของห้องอีกด้วยค่ะ

ข้ามมาฝั่งของลูกสาวคนเล็กที่ชอบสีสันสดใส โดยเฉพาะสีม่วงที่เป็นสีโปรด ซึ่งน้องตาลก็ได้ตกแต่งห้องนอนใน Scheme สีม่วง Lavender ที่ผนังหัวเตียง กับลายทางสีม่วง Lilac และขับให้โดดเด่นด้วยสีส้ม ซึ่งเป็นคู่สีที่น่าสนใจมากเลยทีเดียว และกลับกันในส่วนของห้องทำงาน น้องตาลเลือกใช้สีส้มเป็นสีหลักคู่กับสีขาว ทำให้ห้องทำงานนี้ดูสดใสและร่าเริงเช่นเดียวกับเจ้าของห้อง โดยห้องนี้ยังมีลักษณะของเส้นสายเฟอร์นิเจอร์ที่เรียบง่ายและสบายตา ทำให้น่านั่งทำงานเป็นที่สุด
นอกจากใช้ทำงานแล้ว เจ้าของห้องยังสามารถใช้พื้นที่ว่างของห้องในการซ้อมเต้นบัลเล่ต์ที่เป็นกิจกรรมโปรดกับเพื่อนๆ โดยมีกระจกเงาบานใหญ่เพื่อใช้ส่องดู อีกถึง 2 จุดใหญ่ๆ เลยทีเดียว และที่เก๋กว่านั้น คือตรงส่วนที่นั่งริมหน้าต่าง ก็จะเปิดขึ้นมาเพื่อใช้เก็บรองเท้าได้สมกับที่เป็นห้องของเด็กผู้หญิง และดีไซน์เนอร์ของเราก็เอาใจอีกนิดด้วยการเพิ่มตู้สำหรับเก็บกระเป๋าโดยเฉพาะ
ในขณะที่โถงบันได ก็ได้เพิ่มตู้โชว์สำหรับวางกระเป๋าถือที่สะสมมากมายหลายแบรนด์ และชั้นวางหนังสือพร้อมทั้งตู้เก็บรองเท้าหน้าห้องที่ตกแต่งด้วยหน้าบานกระจกเงา ตัดกับขอบตู้หนาๆ สีม่วงที่โปรดปราน

สำหรับชั้นสาม ก็ยังคงแบ่งเป็น 2 ส่วนเช่นเดิม โดยส่วนแรกจะเป็นส่วนพักผ่อน และเป็นห้องฟังเพลงของบ้าน ซึ่งตกแต่งแบบ Modern ง่ายๆ แต่ดูดีด้วยการเลือกใช้สี คู่กับวัสดุตั้งแต่ผนังที่ติดตั้ง LED TV ที่เลือกใช้กระจกเงากับ Wallpaper ลายทางใหญ่สีเทาและครีม ที่เป็นคู่สีหลักของห้อง โดยมีโซฟารูปตัวแอลขนาดใหญ่สีเขียวทองที่ดูเรียบร้อยสำหรับใช้สังสรรค์ภายในตามประสาครอบครัวอบอุ่นและน่ารัก

ในส่วนห้องนอนใหญ่ของคุณพ่อกับคุณแม่ ที่เลือกที่จัดวางเตียงแบบ Double Single เพื่อความสะดวกสบายของเจ้าของห้องแต่ละท่านภายใต้หัวเตียงสีเข้มคาดด้วย Wallpaper ลาย Graphic อันเป็นซิกเนเจอร์ของบ้านหลังนี้ และผ้าสีเขียวทองเต็มผนังในกรอบกระจกเงาถึงฝ้าเพดาน รับกับฝ้าเพดานที่ Drop ไว้อย่างง่ายๆ แต่ดูลงตัวมากๆ
ฝั่งตรงข้ามของเตียงชุดนี้จะเป็นตู้เสื้อผ้าขนาดยาว (ซึ่งเจ้าของบ้านยังบ่นว่าไม่พอ เลยไปฝากไว้ในห้องฟังเพลงอีกตู้ใหญ่ๆ) หน้าบานเป็นกระจกฝ้าครึ่งบานตัดกับเส้นสาย Stainless และลาย Graphic เช่นเดียวกับหัวเตียง
เป็นอย่างไรบ้างค่ะกับบ้านสไตล์ Modern หลังนี้ที่มีลูกเล่นพร้อมประโยชน์ใช้สอยต่างๆ แฝงไว้ได้อย่างน่าสนใจ แถมยังมีการออกแบบในสเปซที่กว้าง แต่ Interior Designer ก็ได้นำลายกราฟฟิกมาตกแต่งให้ดูลงตัว และมีประโยชน์ใช้สอยตามความประสงค์ของเจ้าของบ้าน สมกับเป็นบ้านสมัยใหม่จริงๆ ค่ะและน่าจะถูกใจครอบครัวอบอุ่นในยุคไอทีแบบนี้นะคะ

By Aesthete