home 15
16

 

ตำนานรักบันลือโลก

และแล้วเดือนแห่งความรักก็หวนกลับมาอีกครั้ง ถึงแม้ว่าเทศกาลวาเลนไทน์จะเป็นเทศกาลที่มาจากแทบฝั่งประเทศตะวันตก แต่เราคนไทยก็ขอร่วมเฉลิมฉลองความโรแมนติคนี้ด้วยเช่นกัน มองไปทางไหนก็เต็มไปด้วยบรรยากาศของวันแห่งความรัก
ให้มวลมนุษย์ผู้มีความรักในหัวใจได้คิดคำนึงถึงบุคคลอันเป็นที่รักของตนเอง หลายคนถือโอกาสพิเศษนี้บอกความรู้สึกภายในใจของคนที่ตนรัก รวมทั้งมอบของขวัญให้แก่กันและกัน ไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่ พี่น้อง ญาติ เพื่อนๆ หรือคนรัก ให้รับรู้ว่าเรารักและห่วงใยเขาเหล่านั้นมากแค่ไหน

 

 

17 18

 

และเพื่อเป็นการต้อนรับเทศกาลแห่งความรักนี้ เราจึงรวบรวมตำนานรักอมตะจากทั่วทุกมุมโลกซึ่งบางตำนานก็จบลงด้วยความสุขสมหวังและหลายตำนานที่จบลงด้วยความ โศกเศร้า เพื่อที่จะทำให้เรารู้ซึ้งถึงความยิ่งใหญ่ของความรัก และรู้ว่าเราโชคดีแค่ไหนที่มีคนรักเรา สำหรับคนที่ยังรู้สึกโดดเดี่ยว ลองมองไปรอบๆ กาย ไม่แน่ว่าเขาหรือเธอคนนั้นอาจจะรอคุณอยู่ก็เป็นได้เพียงแค่เปิดใจเท่านั้นเองและเพื่อเป็นการต้อนรับเทศกาลแห่งความรักนี้ เราจึงรวบรวมตำนานรักอมตะจากทั่วทุกมุมโลก ซึ่งบางตำนานก็จบลงด้วยความสุขสมหวัง และหลายตำนานที่จบลงด้วยความโศกเศร้า เพื่อที่จะทำให้เรารู้ซึ้งถึงความยิ่งใหญ่ของความรัก และรู้ว่าเราโชคดีแค่ไหนที่มีคนรักเรา สำหรับคนที่ยังรู้สึกโดดเดี่ยว ลองมองไปรอบๆ กาย ไม่แน่ว่าเขาหรือเธอคนนั้นอาจจะรอคุณอยู่ก็เป็นได้เพียงแค่เปิดใจเท่านั้นเอง

 

 

19 20


โรมิโอกับจูเลียต...โศกนาฏกรรมความรัก

ถึงแม้ว่าจะเป็นประพันธ์อันโด่งดังของเชคสเปียร์ นักประพันธ์เอกของโลก แต่เรื่องราวความรักของโรมิโอกับจูเลียตยังคงตราตรึงใจอยู่ไม่เสื่อมคลาย เป็นตำนานความรักต้องห้ามของสองตระกูลคือชายหนุ่มรูปงามโรมิโอแห่งตระกูลมอนตะคิว และจูเลียตสาวงามแห่งตระกูลคาปุเล็ต

ความโชคร้ายคือตระกูลของทั้งสองเป็นอริกัน ดังนั้นความรักก็หาราบรื่นไม่ ต้องฝ่าฝันอุปสรรคนานัปการ จนต้องพบจุดจบสะเทือนใจหลังจากที่จูเลียตวางแผนดื่มยาพิษแกล้งตาย เพื่อหลบหนีการแต่งงาน แต่โรมิโอกลับเข้าใจผิดคิดว่าเป็นเรื่องจริง ด้วยอานุภาพแห่งรักจึงดื่มยาพิษฆ่าตัวตายข้างกายจูเลียต ทันใดนั้นเมื่อจูเลียตตื่นขึ้นมากลับพบว่าทุกอย่างสายเกินไป จึงคว้ามีดสั้นของโรมิโอแทงคาหัวใจตายตายชายคนรักไป โศกนาฎกรรมในครั้งนี้จึงทำให้ตำนานความรักของทั้งสองตราตรึงใจของผู้อ่านไปทั่วโลก

ทัชมาฮาล...สัญลักษณ์แห่งรักนิรันดร์

เราคงคุ้นตากันดีสำหรับสถานที่อันวิจิตรสวยงามและติดอันดับสิ่งมหัศจรรย์ของโลกเช่น ทัชมาฮาล ประเทศอินเดีย แต่ภายใต้ความงดงามเหล่านี้แฝงไปด้วยความรักและความเศร้าที่ไม่สามารถพรรณนาได้เลย

กษัตริย์องค์ที่ 5 ในราชวงศ์โมเลกุล พระนามว่า ชาห์ญะฮาน กับพระนางมุมตาซ มะฮัล พระมเหสีผู้ทรงเป็นที่รักยิ่งของพระองค์ กล่าวกันว่าเมื่อพระมเหสีของพระองค์ได้สิ้นพระชนม์ลง กษัตริย์ชาห์ญะฮาน สั่งให้สร้างทัชมาฮาล เพื่อใช้เป็นสุสานฝังศพพระมเหสี โดยสุสานถูกสร้างด้วยหินอ่อนสีขาวบริสุทธิ์ ศิลาแลง ประดับลวดลายเครื่องเพชร พลอยสี

ฟ้า หินสีฟ้า โมรา หินทองแดงหินลาย พลอยสีเขียว และเครื่องประดับตกแต่งจากนานาประเทศ สุสานดังกล่าวมีขนาดกว้างยาวด้านละ 39 เมตร ตรงกลางมีโดมสูง 60 เมตร ตั้งอยู่บริเวณโค้งของแม่น้ำยมนาฝั่งขวาเมืองอัคระ ประเทศอินเดีย และรายรอบไปด้วยพันธุ์ไม้นานาชนิด ใช้ในการก่อสร้างทั้งหมดประมาณ 20 ปี จนพระโอรสเกรงว่าสมบัติในพระคลังจะหร่อยหรอไปมากกว่านี้ จึงจับกษัตริย์ชาห์ญะฮานผู้เป็นบิดาขังนานถึง 7 ปี จึงสิ้นพระชนม์ จากนั้นได้นำศพไปฝังข้างศพมารดานั่นเอง

 

 

 

 

มะเมียะ...รักต้องห้าม

ตำนานความรักต่างเชื้อชาติอันเศร้าสลดของเมืองเชียงใหม่ที่ถูกเล่าขานมาจนถึงปัจจุบัน ระหว่างเจ้าน้อยศุขเกษม ราชบุตรของเจ้าหลวงเชียงใหม่ กับมะเมียะสาวน้อยเมืองพม่าอาภัพรัก

โศกนาฎกรรมความรักครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากเจ้าน้อย เดินทางไปเรียนวิชาต่างถิ่น และพบรักกับมะเมียะ แม่ค้าชาวมะละแหม่ง ประเทศพม่า แต่ด้วยยศถาบันดาศักดิ์ที่ต่างชนชั้นกัน มิอาจครองคู่อยู่กิน เจ้าน้อย จำใจเลือกบ้านเมืองมาก่อน ละทิ้งหญิงอันเป็นที่รัก และในที่สุดเจ้าน้อย ก็มิอาจต้านทานความรักที่มีอยู่ในใจ ทุกข์ระทมตรอมใจจนตาย ส่วนมะเมียะบวชชีหนีรักตลอดชีวิต

 

 

21 22

 

 

 

ตำนานหนุ่มเลี้ยงวัวกับสาวทอผ้า...รักข้ามขอบฟ้า

หนุ่มเลี้ยงวัวคนหนึ่งชื่อ หนิวหลางบังเอิญไปพบนางฟ้าเจ็ดองค์เสด็จลงจากสวรรค์เพื่อมาเล่นน้ำในทะเลสาบ วัวตัวหนึ่งของเขากระซิบบอกวิธี เขาจึงไปขโมยเสื้อผ้าของพวกนางมาแล้วคอยเฝ้าดู เมื่อนางฟ้าทั้งเจ็ดองค์เล่นน้ำเสร็จแล้วหาเสื้อผ้าของตนไม่พบ จึงให้น้องสาวคนสุดท้องชื่อ จือหนี่ แปลว่า หญิงทอผ้า เพื่อมาเจรจาขอเสื้อผ้าคืน หนิวหลางขอให้นางแต่งงานกับเขา และนางก็ยินยอม นางฟ้าผู้พี่ทั้งหมดจึงได้กลับคืนสู่สวรรค์ ส่วน
จือหนี่ได้อาศัยอยู่กับหนิวหลาง ทั้งสองมีบุตรด้วยกัน 2 คน จือหนี่มีฝีมือในการทอผ้า พวกเขานำไปขายได้เงินดีและมีชีวิตที่ดี

เง็กเซียนฮองเฮาผู้เป็นมารดาของเหล่านางฟ้า เมื่อได้ทราบว่าบุตรสาวของตนไปแต่งงานกับคนธรรมดาก็กริ้วโกรธ ออกคำสั่งให้จือหนี่กลับสู่สวรรค์ ฝ่ายหนิวหลางเมื่อกลับมาพบภรรยาของตนหายตัวไปก็เศร้าโศกเสียใจ ทันใดนั้นวัวของเขาก็เอ่ยคำพูดออกมาอีกครั้ง บอกให้หนิวหลางฆ่าตนเสีย แล้วเอาหนังคลุมร่างเพื่อจะได้ไปสวรรค์ตามหาภรรยาได้ หนิวหลางฆ่าวัวด้วยน้ำตา ครั้นเมื่อเอาหนังมาคลุมร่างเขากับบุตรทั้งสองก็เหาะไปยังแดนสวรรค์ตามหาจือหนี่

เง็กเซียนฮองเฮาพบพวกเขาขึ้นมาบนสวรรค์ก็โกรธ ดึงปิ่นปักผมของนางออกมาแล้วกรีดท้องฟ้าออกกลายเป็นทางช้างเผือก ทำให้คู่รักทั้งสองต้องแยกจากกันตลอดกาล ทว่ามีเพียงวันเดียวในรอบปี ที่เหล่านกกระเรียนจะมาเรียงตัวกันด้วยความเมตตาสงสาร เป็นสะพานข้ามแม่น้ำเพื่อให้คนทั้งสองสามารถข้ามมาพบกันทำให้จือหนี่ หนิวหลาง และลูกๆ มาพบกันได้ในวันที่ 7 เดือน 7 ของปี เพียงวันเดียวเท่านั้น เล่ากันว่าถ้ามีฝนตกในคืนแห่งเลขเจ็ด นั่นคือน้ำตาของหนิวหลางและจือหนี่ที่ร่ำไห้กับความรันทดในชีวิตของตน

 

Forget Me Not...รักนี้อย่าลืมฉัน

คงไม่มีอะไรจะเหมาะกับเทศกาลแห่งความรักนี้ไปกว่าดอกไม้อีกแล้ว โดยเฉพาะดอกไม้ที่มีชื่อแสนจะโรแมนติคมากที่สุด ดอก Forget Me Not ที่แปลได้ความหมายว่า อย่าลืมฉัน ครั้งหนึ่งเมื่อนานมาแล้วมีอัศวินผู้กล้าและสาวงามคู่หนึ่ง เดินเที่ยวเล่นในป่าท่ามกลางแสงจันทร์ ณ ริมฝั่งแม่น้ำ ยอดหญิงของอัศวินได้มองเห็นดอกไม้เล็กๆ ขึ้นอยู่ริมตลิ่ง เธอวิงวอนให้เขาลงไปเก็บให้ แต่ขณะที่เขากำลังเอื้อมเก็บดอกไม้ก็พลันลื่นไถลลงไปในแม่น้ำเสื้อเกราะที่หนักทำให้เขาไม่สามารถว่ายน้ำได้ แต่ก่อนที่เขาจะจมหายไปในกระแสธาร เขาโยนดอกไม้ให้หญิงคนรัก และร้องตะโกนว่า “Forget Me Not” มีความหมายว่า อย่าลืมฉัน ตั้งแต่นั้นดอกไม้ชนิดนี้จึงมีชื่อว่า Forget me not ดอกฟอร์เก็ตมีน็อทยังมีความหมายว่ารักแท้ จึงมักปรากฏอยู่เสมอบนการ์ดวาเลนไทน์ที่คู่รักหนุ่มสาวมอบให้แก่กัน 

 

ตำนานรักดอกอาจิไซ...ความหอมหวานที่ไม่เคยจาง

ดร. นพ.ฟอน ฟิลิปป์ ซีโบลด์เป็นนายแพทย์ชาวเยอรมันที่เดินทางมาถึงเมืองท่านางาซากิ ประเทศญี่ปุ่น โดยมีหน้าที่เป็นแพทย์รักษาโรคให้กับชาวเมืองนางาซากิ จนกระทั่งเปิดโรงเรียนแพทย์ในเวลาต่อมา โอทากิเป็นหญิงสาวญี่ปุ่นที่ได้รับอนุญาตเข้ามาดูแลบ้านพักของบรรดาคนต่างชาติ ซีโบลด์ได้ลองให้เธอชิมสตอเบอร์รี่ที่เขานำมาจากเยอรมัน ทำให้โอทากิประทับใจมาก ในที่สุดโอทากิก็แต่งงานกับซีโบลด์มีลูกสาวด้วยกันหนึ่งคนชื่ออิเนะ

ซีโบลด์นอกเหนือจากเป็นนายแพทย์แล้ว ยังชอบวาดภาพต้นไม้ ดอกไม้ต่างๆ ที่เขาเจอในญี่ปุ่น ครั้งหนึ่งเขาจ้างวานให้คนเขียนแผนที่ภูมิทัศน์ตางๆ ของประเทศญี่ปุ่นให้ โชคร้ายเมื่อเรือที่เขาเดินทางเกิดล่ม หีบแผนที่นั้นถูกพบจึงเกิดความเข้าใจผิด ทางการญี่ปุ่นจึงมีคำสั่งให้เนรเทศซีโบลด์ออกจากประเทศ ซีโบลด์จำใจต้องพลัดพรากจากภรรยาและลูกสาว ซีโบลด์นำกระถางต้นไม้ที่บรรจุต้นอาจิไซไปด้วย ทุกครั้งที่มองดอกอาจิไซ ซีโบลด์ก็ระลึกถึงโอทากิ ซีโบลด์ได้เพาะพันธุ์ดอกอาจิไซสายพันธุ์ใหม่แล้วตั้งชื่อว่า “โอทักขุสะ” ในภาษาเนเธอร์แลนด์ซึ่งถ้าแปลเป็นภาษาญี่ปุ่่นก็คือ “โอทากิ”

สุดท้ายทั้งคู่ต่างฝ่ายต่างมีครอบครัวใหม่ ซีโบลด์มีโอกาสได้เดินทางมาญี่ปุ่นอีกครั้ง มีโอกาสได้เจอโอทากิและอิเนะลูกสาว ซึ่งอิเนะไปศึกษาโรงเรียนแพทย์สมัยใหม่ในนางาซากิและได้เป็นแพทย์หญิง สำหรับวิชาแพทย์แผนใหม่คนแรกในประเทศญี่ปุ่น ซีโบลด์เดินทางกลับไปประเทศเนเธอร์แลนด์และในช่วงชุดท้ายของชีวิต ซีโบลด์เขียนข้อความเอาไว้ว่า

ภายหลังจากฉันเสียชีวิตลงแล้ว..อยากโบยบินไปยังดินแดนที่สงบและสวยงามที่ฉันเคยใช้ชีวิตอยู่...

ส่วนโอทากิจะเสียชีวิตลง เธอขอกินสตอร์เบอร์รี่เป็นครั้งสุดท้ายเพื่อระลึกถึงตอนที่ซีโบลด์ให้เธอชิมเป็นครั้งแรกก่อนอำลาโลกไป

 

 

 

 

 

 

 Contact us / Join us

ออกแบบตกแต่งภายใน รับเหมาตกแต่งภายใน ตกแต่งภายใน ออกแบบภายใน Interior design Thailand

www.bareo-isyss.com เป็น web magazine ที่ update รายเดือนเพื่อผู้อ่าน ทัศนะและความคิดเห็นใดๆ ของผู้ประพันธ์ หรือผู้สนับสนุน
ไม่ว่าจะเป็นในลักษณะอันอาจก่อให้เกิดความเข้าใจอย่างชัดแจ้ง หรือไม่แน่ชัดใน www.bareo-isyss.com มิได้มาจาก บริษัท บาริโอ จำกัด และบริษัทในเครือแต่อย่างใด
ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย หรือร่วมรับผิดชอบ ไม่ว่ากรณีใดๆ ทั้งสิ้น

Bareo-Isyss รับออกแบบตกแต่งภายใน รับเหมาตกแต่งภายใน ออกแบบภายใน ออกแบบตกแต่งภายใน Interior design Thailand