เก้าอี้คลาสสิก รูปลักษณ์และฟั้งก์ชั่น ที่ผันไปตามกาลเวลา
“คลาสสิก” หรือ “ไร้กาลเวลา” นั้นเป็นอีกหนึ่งคำที่เราคุ้นหูในหลายๆแง่มุม มาดูที่สิ่งใกล้ตัวกันบ้าง หากละสายตาจากจอคอมพิวเตอร์นี้และมองไปรอบๆ เชื่อว่าหลายท่านคงเห็นเก้าอี้ในออฟฟิศ ที่สาธารณะ ไปจนถึงพื้นที่ส่วนตัวในห้องๆ ต่างๆภายในบ้าน เก้าอี้ที่คุณกำลังนังอยู่นี้อาจได้รับอิทธิพลมาจากงานดีไซน์เก้าอี้ชิ้นคลาสสิกในช่วงทศวรรษหนึ่ง มาดูกันว่า ของใกล้ตัวชิ้นนี้ได้รับการริเริ่มและพัฒนาในเรื่องการออกแบบมาถึงปัจจุบันอย่างไรบ้าง
หากเล่ากลับไปถึงประวัติศาสตร์ชิ้นงานดีไซน์ จะพบว่ามีชิ้นงานที่คงอยู่มาถึงยุคโมเดิร์นเพียงไม่กี่ชิ้นที่เปลี่ยนผันไปตาม เทรนด์ความนิยมในงานออกแบบของแต่ละยุคสมัย การออกแบบเครื่องมือหรืออุปกรณ์เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับมนุษย์ (ergonomics) และความเชื่อมโยงกับบริบทสังคมและวัฒนธรรม ทั้งหมดนี้อธิบายได้จากความคลาสสิกของงานดีไซน์ เก้าอี้
ปี 1800
|
|
Rocking Chair No.1 สร้างขึ้นในปี 1860
งานศิลปะและหัตถกรรมเป็นกระแสหลักในตอนนั้น ทำให้ พวกชนชั้นกลางไปจนถึงชนชั้นสูงสร้างสรรค์เก้าอี้โยกออกมาในแบบ Rustic Style หรืองานศิลป์ที่ใช้สำหรับตกแต่ง (decorative arts) พวกเฟอร์นิเจอร์ที่ทำจากไม้หรือโลหะ สลักหรือประกอบขึ้นจากธรรมชาติ เช่น กิ่งไม้ ให้ความรู้สึกที่เรียบง่ายเข้ากับธรรมชาติ ทั้งหมดนี้ ถ่ายทอดไว้ในผลงานของ Michael Thonet ชิ้นนี้ สร้างขึ้นจากไม้ ลามิเนตที่แข็งนำมาดัดให้โค้งงอที่นั่งและพนักเก้าอี้ทำจากไม้สาน |
ปี 1900 หรือศตวรรษที่ 20
ในช่วงต้นๆนั้นเต็มไปด้วยไอเดียใหม่ๆในการทดลองงานออกแบบเก้าอี้โดยฝีมือของดีไซน์เนอร์และสถาปนิกผู้มีความคิดสร้างสรรค์ เช่น Charles Rennie Mackintosh ผู้คร่ำหวอดในงานออกแบบหลายแง่มุม และJosef Hoffmann โดยเอกลักษณ์ของ การเก้าอี้ในยุคนี้คือดีไซน์ที่เป็นเหลี่ยมมุม และการใช้สีโมโนโครมเป็นกระแสงานออกแบบสมัยใหม่ที่ได้รับความนิยมและมี อิทธิพลต่อเฟอร์นิเจอร์และของใช้ในบ้าน
|
Cabaret Fledermaus Chair สร้างขึ้นในปี 1905-1906 โดย Josef Hoffmann Josef Hoffmann
สถาปนิกและดีไซเนอร์ชาวออสเตรียได้รับอิทธิพลจาก Charles Rennie Mackintosh สถาปนิกชาวสก็อตแลนด์มา ใช้ในเรื่องของความเฉียบคมและเหลี่ยมมุมรูปทรงของเก้าอี้ตัวนี้จึงมีความเกลี้ยงเกลา |
ปี 1920s
|
|
B3 (Wassily) Chair สร้างขึ้นในปี 19 โดย Marcel Breuer
Breuerสถาปนิกและเฟอร์นิเจอร์ดีไซเนอร์ชาวฮังกาเรี่ยนในกลุ่มโมเดิร์นนิสต์ ฝากผลงานชิ้นเด่นไว้สองชิ้นในฐานะที่เป็นผู้นำในงานออกแบบเฟอร์นิเจอร์สไตล์เบาเฮ้าส์ (Bauhaus) อย่างเช่น B3 (Wassily) Chair ชิ้นนี้เป็นตัวอย่างของงานออกแบบเก้าอี้แคนทีลีเวอร์ ส่วนชื่อของชิ้นงานมาจากเพื่อนศิลปินที่ชื่อว่า Wassily Kadinsky ผู้ให้กำเนิดศิลปะแนวนามธรรม (abstract expressionism) จัดอยู่ในกลุ่มงานศิลป์สมัยใหม่ |
ปี 1930s
|
Stacking Stools Model No.60 สร้างขึ้นในปี 1932
ดีไซเนอร์ชาวฟินแลนด์คนนี้ได้อิทธิพลการออกแบบเก้าอี้ทรงกลมตัวนี้จากการได้เห็นงานของดีไซเนอร์ระดับสากล เมื่อครั้งที่เดินทางไปเยือนประเทศฝรั่งเศสและเยอรมนีและได้นำมาตีความอีกครั้ง กลายเป็นชิ้นงานที่มีเอกลักษณ์ในแบบของเขาเองคือการใช้ไม้แบบฟินแลนด์ชิ้นนี้ออกแบบให้กับห้องสมุด Viipuri และด้วยประโยชน์ใช้สอนที่สามารถเก็บซ้อนทับกันได้ จึงถูกนำมาใช้อย่างแพร่หลายโดยเฉพาะอย่างยิ่งในที่สาธารณะ เช่น ห้องสมุดและโรงเรียน เป็นงานคลาสสิกอีกชิ้นหนึ่งที่พบเห็นได้บ่อยๆในปัจจุบัน
|
|
ปี 1940s
|
|
La Chaise สร้างขึ้นในปี 1948 โดย Charles และ Ray Eames
เก้าอี้ที่ทำจากเหล็ก ไม้ และไฟเบอร์กลาสตัวนี้เป็นผลพวงจากการแข่งขันประกวดงานดีไซน์ต้นทุนน้อย (International Competition for Low-Cost Design)จัดขึ้นโดยพิพิธภัณฑ์งานศิลปะสมัยใหม่ในนิวยอร์ค (MOMA) เพื่อตอบรับความต้องการของรัฐบาลที่ต้องการกระตุ้นผู้ผลิตภายในประเทศให้สร้างสรรค์เฟอร์นิเจอร์และของใช้ภายในบ้านใหม่ๆเพื่อตอบรับการเพิ่มจำนวนของประชากรหลังสงครามโลกCharles และ Ray Eames ดีไซเนอร์ดูโอชาวอเมริกันจึงส่งผลงานหลายชิ้นเข้า ประกวดรวมถึงชิ้นนี้ด้วย โดยเบื้องหลังของไอเดียการออกแบบงานชิ้นนี้คือหยิบเคลื่อนที่ได้ง่าย ทำความสะอาดง่ายและนั่งได้หลายคนและเนื่องจากจุดประสงค์เหล่านี้ที่ค่อนข้างซับซ้อนในเวลานั้นทั้งสองจึงไปร่วมมือกับบริษัท Vitra ของสวิตเซอร์แลนด์ให้ผลิตงานให้ |
ปี 1950s
|
Series 7, Model No. 3017 สร้างขึ้นในปี 1955 โดย Arne Jacobsen
เก้าอี้ที่สร้างสรรค์จากไม้อัด (plywood) และท่อเหล็กนี้เป็นผลงานของ Arne Jacobsen สถาปนิกชาวเดนมาร์ก ผลงานมีชื่อเสียงในเรื่องการนำแนวคิดที่เป็นเหตุเป็นผลของงานสมัยใหม่มาเชื่อมโยงกับรูปทรงอิสระในสไตล์ นอร์ดิก เก้าอี้ตัวนี้เขาได้รับแรงบันดาลใจจากงานไม้อัดของดีไซเนอร์ดูโอ Charles และ Ray Eames
|
|
ปี 1960s
|
Polyprop สร้างขึ้นในปี 1962-1963 โดย Robin Day
เก้าอี้ในรูปนี้เป็นงานดีไซน์อีกหนึ่งชิ้นที่เห็นได้ทั่วไปในปัจจุบัน ออกแบบโดย Robin Day ให้กับบริษัทผู้ผลิตที่ ชื่อว่า Hille International ในช่วงต้นยุค 60 เขาต้องการสร้างงานที่มีต้นทุนถูกกว่างานเก้าอี้ไฟเบอร์กลาสขอ Charles และ Ray Eames จึงนำเทคโนโลยีการฉีดขึ้นรูปวัสดุโพลิโพรพิลีนหรือพลาสติก ทำให้บริษัท Hille สามารถผลิตเก้าอี้ได้ถึง 4,000 ตัวในหนึ่งสัปดาห์ |
ปี 1970s
|
Wiggle Side Chair สร้างขึ้นในปี 1972
เป็นสถาปนิกที่มีชื่อเสียงระดับโลกมีผลงานชิ้นสำคัญมากมาย เช่น พิพิธภัณฑ์ Guggenheim เป็นต้น นอกจากนี้เขายังมีคนสนใจทดลองออกแบบเฟอร์นิเจอร์ ใหม่ๆอย่างเช่นเก้าอี้ Wiggle ตัวนี้สร้างขึ้นจากแผ่น บอร์ดลูกฟูก 60 ชั้นเชื่อมเข้าด้วยกัน ความน่าสนใจของงานชิ้นนี้คือการนำของใช้ประจำวันที่เขาใช้สร้างโมเดลในงานสถาปัตยกรรมมาประกอบกันขึ้นเป็นงานประติมากรรมที่คงรูป ผลงานนี้เกิดจากการเริ่มเล่นสนุก โดยใช้กาวมาติดเชื่อมกัน ตัดเป็นรูปทรงโดยใช้เลื่อยและมีดพกขนาดย่อม
|
ปี 1980s
|
Dr.Glob สร้างขึ้นในปี 1988 โดย Philippe Starck Philippe Starck เป็นดีไซเนอร์งานเฟอร์นิเจอร์ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดคนหนึ่งของยุค 80s โดดเด่นในเรื่องการนำของใช้ในชีวิตประจำวัน เช่น เก้าอี้ มาเนรมิตให้มีรูปทรงที่แข็งแกร่งแต่ก็ดูเพ้อฝันประหลาดในแบบการ์ตูน อย่างเช่น เก้าอี้ Dr.Glob ตัวนี้
|
S Chair สร้างขึ้นในปี 1988 โดย Tom Dixon Tom Dixon เรียนรู้วิธีการเชื่อมต่อด้วยตนเองหลังจากตัดสินใจออกจากโรงเรียน เขาได้ลองสร้างต้นแบบ เก้าอี้ตัวนี้ไว้ถึง 50 แบบจากวัสดุที่ต่างกัน เป็นอีกหนึ่งชิ้นงานที่สะท้อนให้เห็นถึงแวคิดแบบ DIY ของ Tom Dixon ในยุค 80s ได้อย่างดี |
|
ปี 1990s
ยุคนี้นิยมงานดีไซน์ที่มีความหมายล้ำลึกเป็นการกลับไปสู่ต้นกำเนิดแห่งโมเดิร์นนิสต์ผ่านการใช้รูปทรงที่เรียบง่ายแต่แฝงไว้ด้วยความคิดที่ลึกซึ้ง
|
W.W. Stool สร้างขึ้นในปี 1990 โดย Philippe Starck
ผลงานเก้าอี้ W.W. Stool ตัวนี้ Philippe Starck สร้างขึ้นสำหรับวางไว้ในพื้นที่ทำงานสุดแฟนซีของ Wim Wenders ผู้กำกับชาวเยอรมันที่มาของชื่อเก้าอี้ตัวนี้ และเป็นผลงาน ที่แสดงให้เห็นถึงงานสไตล์ conceptual ของดีไซเนอร์ คนนี้ได้อย่างชัดเจน โดยผลงานชิ้นนี้ เขากล่าวว่า “surrealist or Dada objects” หรืองานแบบเซอร์เรียลลิสต์และกระแสดาด้า เป็นการปลดปล่อยผู้ใช้จากเก้าอี้เดิมๆที่พบ เห็นทั่วไปในชีวิตประจำวัน
|
Jack Light สร้างขึ้นในปี 1996 โดย Tom Dixon
ผลงานของ Tom Dixon ชิ้นนี้มี 2 ฟั้งก์ชั่นคือเป็นทั้งเก้าอี้และโคมไฟชิ้นนี้สร้างขึ้นโดยบริษัทผลิตที่ชื่อว่า Eurolounge ของเขา |
|
ทั้งหมดนี้เป็นงานสร้างสรรค์เก้าอี้ชิ้นคลาสสิกจากศตวรรษที่ 19 ถึงศตวรรษที่ 20 ซึ่งรูปทรงของเก้าอี้ในบางชิ้นงานยังคงปรากฏให้เห็นทั่วไปในชีวิตประจำวันของเราในช่วงศตวรรษที่ 21 และด้วยความคิดสร้างสรรค์อันเป็นเลิศของมนุษย์และเทคโนโลยีที่พัฒนาไปอย่างไม่หยุดนิ่ง เราอาจจะเห็นชิ้นงานระดับไอคอนเหล่านี้ถูกหยิบมาพัฒนาอีกครั้งจะเห็นได้ว่า คำว่า “วินเทจ” หรือ “คลาสสิก” นั้น ไม่ได้จำกัดอยู่เพียงแต่ “ความเก่า” ด้วยกาลเวลา แต่เป็น “ความเก๋” ที่ไร้กาลเวลารอการนำมาประยุกต์เข้ากับยุคสมัยได้ทุกเมื่อนั่นเอง
|