Pop Art เป็นแนวการทำงานศิลปะอย่างหนึ่ง เกิดขึ้นในสหรัฐอเมริกาและอังกฤษ ประมาณ พ.ศ. 2498 ล้อไปกับสังคมที่เป็นแบบบริโภคนิยม ศิลปินกลุ่มนี้เชื่อว่าศิลปะจะต้องสร้างความตื่นเต้นอย่างฉับพลันทันใดแก่ผู้พบเห็น ดังนั้น เนื้อหาศิลปะของป๊อปอาร์ต จึงเป็นเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับผู้คนทั่วไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องราวเกี่ยวกับผู้คนและสังคมในปัจจุบันที่กำลังได้รับความสนใจหรือวิพากษ์วิจารณ์ในขณะนั้น

      เมื่อเริ่มถือกำเนิด Pop Art เป็นศิลปะระดับล่าง หรืออาจเรียกว่าเป็นวัฒนธรรมมหาชน โดยมีศิลปะชั้นสูงเป็นขั้วตรงกันข้าม ศิลปะชั้นสูงที่ว่านี้คือ บรรดางานศิลปะที่ได้รับการยกย่องว่า เป็นของดีมีคุณภาพ มีเพียงหนึ่งเดียวไม่เหมือนใคร มีคุณค่าเสียจนสถาบันศิลปะหรือสถาบันระดับรัฐต้องซื้อเก็บสะสมไว้ในพิพิธภัณฑ์ของประเทศชาติ

      Pop Art  คือแนวศิลปะที่แตกต่างกับศิลปะลัทธิ แอ็บสแตรค เอ็กซ์เพรสชันนิสม์ (Abstract Expressionism)   ซึ่งเน้นการแสดงออกทางอารมณ์ความรู้สึก การแสดงความเป็นส่วนตัว มีแนวงานเป็นของตัวเองและเป็นเรื่องของจิตวิญญาณ แต่ Pop Art กลับหยิบยืมเอาสิ่งที่มีอยู่แล้วในท้องตลาด เช่น วัสดุสำเร็จรูป มานำเสนออย่างมีชีวิตชีวา งานของ Pop Art มักจะมีอารมณ์ขัน ขี้เล่นและชอบเสียดสี เย้ยหยันต่อศิลปะและชีวิตครับ

      รูปแบบ วิธีคิด และวิธีทำงานของ ป๊อปอาร์ต ได้ส่งอิทธิพลต่อศิลปินและกระแสศิลปะในยุคต่อมาเป็นอย่างมาก ซึ่งศิลปะในลัทธิหลังสมัยใหม่ ก็เติบโตมาจาก Pop Art นี่เองครับ

 

      ผลงานโดดเด่นในกลุ่มป๊อปอาร์ต

 

Canyon 1959 

by  Robert Rauschenberg

 

 

Robert Rauschenberg เป็นศิลปินชาวอเมริกันผู้ที่เปลี่ยนแปลงตนเองจาก Abstract Expressionism  เป็น Pop Art Robert  น่าจะเป็นศิลปินที่มีชื่อเสียงที่สุดในเรื่อง “Combined Painting”  ซึ่งก่อนหน้านี้จะมีการผสมผสานเฉพาะวัสดุต่างๆ เท่านั้น แต่โรเบิร์ต เราเชนเบิร์กจะสร้างสรรค์ผลงานศิลปะที่ผสมผสานระหว่างจิตรกรรม ประติมากรรมภาพถ่าย ภาพพิมพ์ งานกระดาษและในการแสดง ปี ค.ศ.1964  Robert เป็นชาวอเมริกันคนแรกที่ได้รับรางวัล Grand Prize ในงาน Venice Biennale  ซึ่งเป็นนิทรรศการแสดงงานทางสถาปัตยกรรมระดับสากลที่จัดขึ้นทุก 2 ปี ณ เมืองเวนิส ประเทศอิตาลีครับ

 

In The Car

By  Roy Lichtenstein

 

 

      In The Car  พิมพ์โดย รอย ลิชเชนสไตน์ ศิลปินชาวอเมริกัน เขาเกิดที่นครนิวยอร์ค มีความสนใจในงานศิลปะตั้งแต่เด็ก เขาได้จัดนิทรรศการเดี่ยวครั้งแรกที่แกลเลอรี่ในนครนิวยอร์ค เขาพัฒนางานของตนเองจนมีเอกลักษณ์ของตนเอง โดยใช้สื่อที่เกี่ยวกับการโฆษณาและหนังสือการ์ตูนเป็นหลัก ภาพ ” In The Car  ” เป็นภาพของหญิงสาวกับชายหนุ่มนั่งอยู่ในรถยนต์ที่กำลังวิ่ง เป็นภาพในลักษณะของการ์ตูน แต่รอย  นำมาขยายใหญ่ขึ้นและพิมพ์ด้วยเทคนิคสกรีนเป็นจุดสี ดังนั้นเขาจึงถูกกล่าวหาจากนักวาดภาพการ์ตูนอาชีพว่า เขาเป็นคนขโมยแบบการ์ตูนที่พวกเขาวาด จนสมาคมหนังสือพิมพ์รายสัปดาห์แห่งชาติของสหรัฐอเมริกา ต้องตั้งกรรมการสอบสวนแล้วพิจารณาตัดสินออกมาว่า ผลงานของเขาไม่ได้ลอกเลียนแบบมาจากหนังสือการ์ตูน เพราะการ์ตูนเป็นแค่แรงบันดาลใจไปสู่เป้าหมายในปรัชญาการสร้างงานของรอย มากกว่า เขาได้แสดงงานย้อนหลังของเขาที่พิพิธภัณฑ์ศิลปะสมัยใหม่ที่นครนิวยอร์ค อีกครั้งหนึ่งในปี ค.ศ.1993 ซึ่งได้รับความสำเร็จอย่างมากมาย ครับ

 

Shuttlecocks

By  Claes Oldenburg

 

 

      Claes Oldenburg  เป็นศิลปินกลุ่มป็อบอาร์ตที่นิยมสร้างประติมากรรมของเครื่องใช้ในชีวิตประจำวันที่มีขนาดใหญ่เกินความเป็นจริง ซึ่งสามารถเปลี่ยนความรู้สึกของผู้พบเห็นได้เช่นรูปทรงของลูกขนไก่ขนาดใหญ่ ที่หนีบผ้าขนาดใหญ่ หรือแฮมเบอร์เกอร์ขนาดใหญ่ และผลงานประติมากรรมขนาดใหญ่นี้จะติดตั้งเพื่อตกแต่งทัศนียภาพภายนอกอาคาร ซึ่งทำให้ผลงานโดดเด่นและเป็นที่พูดถึงในยุคนั้นครับ

 

For Marilyn

By  James  Rosenqquist

 

 

       Study for Marilyn  วาดโดย James  Rosenqquist  เป็นศิลปินชาวอเมริกัน เขาเกิดที่  North Dakota เจมส์ โรเซนควิสต์  เลือกที่จะเรียนศิลปะที่  Minesota University  เมื่อเขาจบจากมหาวิทยาลัยเขาก็ได้ออกไปทำงานทางศิลปะ เขาเขียนป้ายโฆษณาที่  Minneapolis ในปี ค.ศ.1954  ภาพ ” Study for Marilyn ” เป็นภาพที่ศิลปินได้นำลักษณะเด่นของมาริลีน มอนโร คือการทาลิปสติกสีแดงสดซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของมาริลีนมาแสดง โดยไม่ได้วาดภาพเหมือนของเธอแต่อย่างใด  ในปี ค.ศ.1962 เขาวาดภาพขนาดใหญ่ซึ่งมีความยาวถึง 26 เมตรซึ่งจัดแสดงในอเมริกาและในยุโรป ตั้งแต่ ปี ค.ศ.1960  เจมส์ โรเซนควิสต์ สนใจในงานภาพพิมพ์และได้สร้างงานภาพพิมพ์มากมาย รางวัลเกียรติยศสำหรับเจมส์ คือรางวัล World Graphic จากสมาคมภาพพิมพ์โลกที่พิพิธภัณฑ์สมัยใหม่ San Francisco Museum of Modern Art

 

Marilyn Monroe

By  Andy Warhol

 

 

      ภาพ Marilyn Monroe  พิมพ์โดย Andy Warhol  ศิลปินชาวอเมริกัน ผู้เป็นศูนย์กลางการเคลื่อนไหวของกลุ่มป็อปอาร์ต หลังจากประสบความสำเร็จในอาชีพนักเขียนภาพประกอบ เรื่อง เขากลับกลายเป็นจิตรกร ผู้สร้างภาพยนตร์ และนักประพันธ์ ภาพ ” Marilyn Monroe  ” เป็นภาพใบหน้าของมาริลีน ดาราภาพยนตร์ผู้ได้รับสมญานามว่าสัญลักษณ์ของ Sex Symbol  ซึ่งบั้นปลายชีวิตของเธอเธอได้ฆ่าตัวตาย แอนดี้ ชอบใบหน้าของ มาริลีนมาก โดยได้พิมพ์ใบหน้าของเธอหลายภาพโดยแต่ละหน้าให้ความรู้สึกต่างกัน การจัดองค์ประกอบศิลป์ของเขาเป็นไปอย่างง่ายๆ แต่เด่นสะดุดตา บางครั้งอาจจัดภาพโดยนำรูปใบหน้าซึ่งเหมือนๆ กันวางเรียงเป็นแถว ราวกับวางภาพบนชั้นวางของ ทำให้เกิดความซ้ำกันตามแบบที่แอนดี้ ชอบ เขากล่าวว่า “ถ้าอยากรู้จักฉันให้ดูผลงานจิตรกรรมของฉันเพราะฉันอยู่บนงานจิตรกรรมนั้น”

 

      ตกแต่งภายในในรูปแบบของศิลปะป๊อปอาร์ต

จังหวะสีที่โดดเด่น

      ในเรื่องของสี  รูปแบบของป๊อปอาร์ต จะเป็นการใช้สีสันสดใสและตัดกัน โดยส่วนใหญ่จะใช้เป็นแม่สีเพื่อบ่งบอกถึงความชัดเจนในสไตล์ Art Popโดยวิธีการตกแต่งจะเป็นการใช้รูปทรงและการจัดวางแบบซ้ำๆ อาจจะเป็นการวางกรอบรูปซ้ำๆ แต่รูปภาพที่ใช้จะให้อารมณ์ของสีที่โดดเด่น ครับ

จุดโฟกัส

      การตกแต่งสไตล์นี้ถ้าอยากให้เกิดความโดดเด่นในตัวบ้าน แนะนำเป็นการใช้สีพื้นอย่างสีขาว หรือเทา  และประดับตกแต่งด้วยภาพวาด หรือ เพ้นลายกราฟฟิค  จุดใดจุดหนึ่งจะทำให้เกิดจุดโฟกัสของการตกแต่งได้ดีไม่น่าปวดหัว  ตัวอย่างภาพที่เห็นนอกจากจะมีจุดเด่นคือรูปกราฟฟิคแล้ว ยังมีโซฟาสีฟ้า ที่ทำให้เราดึงดูดสายตาไปยังโฟกัสกลางห้องนี้ได้ครับ

ภาพวาดที่มีสีสัน 

      สำหรับสไตล์ที่โดดเด่นในเรื่องของภาพวาด ก็คงหนีไม่พ้นต้องตกแต่งด้วยภาพวาดกราฟฟิกคูลล์ๆ ลวดลายการ์ตูน ที่มักจะสะท้อนถึงอารมณ์ออกมาได้ดีแก่ผู้พบเห็น ไม่ว่าจะในลักษณะขบขัน ขี้เล่นหรือเสียดสี  เหล่านี้ก็จะถือเป็นการตกแต่งที่เข้าถึง Pop Art ได้เป็นอย่างดีเลยแหละครับ

สีพื้นผนังสดใส

      แน่นอนว่า Art pop จะเป็นแนวที่เน้นสีสดใส แต่หากใครไม่ถนัดงานศิลปะที่ตกด้วยรูปแล้วละก็  การเลือกใช้สีพื้นที่ร้อนแรง ตัดอารมณ์กันก็สร้างทำให้ได้กลิ่นอายของการตกแต่งแบบ Art Pop อยู่บ้าง โดยทั้งนี้อาจจะใช้สีสดใสในการทาสีภายใน แต่ให้เบรกด้วย เฟอร์นิเจอร์สีซอฟท์ลงหน่อย หรือเป็นสีพื้นบ้านที่ดูไม่เยอะเกิน ก็ทำให้บรรยากาศในการเป็น Art Pop ดูดีได้เลยทีเดียวครับ

      ทุกวันเราจะเห็นได้ว่า POP ART ยังคงเละลายตัวเอง จนกลายเป็นเทคนิคหนึ่งในงานออกแบบที่ยังมีลมหายใจอยู่ในทุกยุคทุกสมัย และมันก็สามารถรวมเข้ากับ สไตล์ต่างๆได้ ไม่ว่าจะเป็น  modern, vintage,classic,loft,industrail  หรือ contemporary  เพียงเราต้องให้ความใส่ใจกับเรื่องสีเป็นหลัก เพียงแค่นี้เราก็สามารถมีห้องที่เป็นรูปแบบของ Pop Art ที่จะเปลี่ยนบรรยากาศให้เราได้ซึมซับกับความเป็น Art Pop ได้มากขึ้นครับ

 

 

 

ขอบคุณข้อมูลจาก

guymnyt.wordpress.com

nilaya-group.com

pinterest.com