สำหรับการตกแต่งบ้านสไตล์บาหลี ยังคงเป็นที่นิยมอย่างมากสำหรับผู้ชื่นชอบความกลมกลืนกับธรรมชาติ  ไม่ว่าเทรนด์แฟชั่นจะอินไปกับ สมัยนิยมที่มี การเปลี่ยนแปลง และพัฒนาอย่างต่อเนื่อง แต่การได้หวนคืนสู่ความเป็นธรรมชาติในแบบฉบับบาหลีก็ยังคงให้สัมผัส แห่งความสบาย และอบอุ่น เหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับการแต่งบ้านเพื่อให้ได้บรรยากาศแห่งการพักผ่อนอย่างแท้จริง  อีกทั้งเทคนิคการตกแต่งบ้านสไตล์บาหลี ยังเหมาะกับบ้านเขตร้อนแบบบ้านเรา เน้นการใช้วัสดุธรรมชาติมาตกแต่งให้เกิดความสวยงาม เรียบง่ายและเป็นเอกลักษณ์

 

 

      จุดเด่นของบ้านสไตล์บาหลี  คืออะไร 

      การสร้างบรรยากาศโดยรอบให้เข้าถึงธรรมชาติ   ทำให้บ้านกลมกลืนกับสภาพแวดล้อมได้ง่าย มักนิยมทำตัวบ้านหรืออาคารแบบเปิดให้โล่ง เนื่องจากต้องการให้อากาศภายในบ้านเกิดการหมุนเวียนที่ดี เพราะสภาพภูมิอากาศที่ร้อน  การใช้วัสดุธรรมชาติที่เป็นสีเอิร์ทโทนโดยไม่ปรุงแต่งสีสีนลงไป ก็เป็นเสน่ห์อีกอย่างหนึ่งของบ้านสไตล์บาหลี  การทำหลังคาจากแบบหนา และหลังคากระเบื้องดินเผาธรรมชาติ โดยไม่มีฝ้าเพดาน การเน้นประตูทางเข้าที่วิจิตรพิสดาร และอีกหนึ่งจุดเด่นคือการเปิดลานโล่งกลางบ้าน ที่มีบ่อน้ำเล็กๆเป็นจุดสนใจ

 

 

      เสน่ห์อันเป็นเอกลักษณ์ที่เด่นชัดของบ้านแบบบาหลี

      ลักษณะเด่นของบ้านแบบบาหลีคือการสร้างบ้านให้ไปในทิศทางตามความธรรมชาติในเขตร้อน   ตัวบ้านจะมีส่วนที่เป็นลานเปิดโล่งและหลังคาทรงสูงโดยไม่มีฝ้าเพดาน เชื่อกันว่าบ้านแบบบาหลีได้รับอิทธิพลบางส่วนมาจากฮินดูที่แพร่เข้ามาในชวา  โดยในระยะแรกๆจะเป็นลักษณะของอาคารสำหรับทำพิธีกรรมทางศาสนาและค่อยๆพัฒนามาเป็นอาคารสำหรับพักอาศัย  ซึ่งบ้านแบบบาหลีดั้งเดิมจะใช้วัสดุธรรมชาติที่หาได้ในท้องถิ่น เช่น ไม้ ไม้ไผ่ ดิน  ใบจาก เป็นต้น  ซึ่งเป็นลักษณะของการสร้างบ้านในเขตร้อนทั่วไป ความสามารถในการสร้างบ้านให้สอดคล้องกลมกลืนกับธรรมชาติจึงเป็นภูมิปัญญาท้องถิ่นที่ถ่ายทอดต่อๆกันมา

      วัสดุที่นำมาใช้

      วัสดุการกแต่งถือเป็นองค์ประกอบสำคัญ สามารถบ่งบอกถึงอารมณ์ของบ้านได้ สะท้อนสไตล์การตกแต่งได้เป็นอย่างดี บ้านอารมณ์บาหลีต้องเลือกใช้วัสดุที่ให้สัมผัสแห่งธรรมชาติ  ไม่ว่าจะเป็นผิวสัมผัส สีสันที่แสดงออกถึงความสดชื่น อบอุ่น

 

 

      ไม้

      ไม้ถือเป็นวัสดุหลักที่นิยมใช้ในการตกแต่งบ้านเกือบทุกประเภท ไม้ทำให้บ้านมีชีวิตชีวา และเป็นสิ่งที่โดดเด่นในการตกแต่งสไตล์บาหลี  ไม้จะใช้เป็นองค์ประกอบตกแต่งทั้ง พื้น เสา ผนัง และฝ้าเพดาน   บางส่วนของบ้านควรเลือกไม้ที่มีลักษณะเนื้อบางเบา เพราะจะช่วยทำให้บรรยากาศของบ้านดูโปร่งสบาย ไม่ทึบ  ลักษณะพื้นผิวของไม้ที่มีทั้งส่วนเรียบง่าย และงานไม้แกะสลัก   ลวดลายกระหนกคล้ายกับของไทย การนำมาใช้งานนั้นมีหลากหลายรูปแบบ ขึ้นอยู่กับรายละเอียดของการตกแต่ง อาทิ วงกบประตู, ประตู, บานเฟี้ยม เป็นต้นครับ

 

      หินทราย 

      เป็นวัสดุธรรมชาติอีกอย่างหนึ่งที่ทำให้ผิวสัมผัส และให้ความรู้สึกใกล้ชิดกับธรรมชาติได้อย่างดี เป็นวัสดุที่มา ช่วยเบรกความอบอุ่นของเนื้อไม้ ให้อารมณ์แตกต่างด้วยเนื้อสัมผัสผิวขรุขระ ทำให้ไม่น่าเบื่อ อยู่ในสัดส่วนที่พอเหมาะไม่ดูมากจนเกินไป ใช้ได้ทั้งภายใน และภาย นอก อาทิ กำแพงน้ำตกในสวน , พื้น และผนังห้องน้ำ , ผนังภายในบางส่วน เป็นต้น

 

      ปัจจุบันเมื่อได้มีการนำรูปแบบบ้านบาหลีมาประยุกต์ใช้ในงานสถาปัตยกรรมก็ได้มีการเปลี่ยนแปลงทั้งในเรื่องวัสดุที่ใช้และรูปแบบของอาคาร ในส่วนที่เกี่ยวกับวัสดุนั้นได้มีการนำปูนหรือคอนกรีตมาใช้แทนไม้จากธรรมชาติมากขึ้นทั้งนี้อาจเป็นเพราะไม้หายากและมีราคาสูง ในเรื่องของรูปทรงของอาคารก็มีการพัฒนาให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมในปัจจุบันที่มีการใช้เครื่องปรับอากาศกันมากขึ้น รูปแบบของสถาปัตยกรรมจึงเป็นแบบสมัยใหม่ ที่สามารถผสมผสานสไตล์อื่นๆเข้ามาบ้างแต่ยังคงความเป็นบาหลีให้ได้เห็นเป็นเอกลักษณ์อยู่ครับ   สิ่งที่ยังคงแสดงถึงเอกลักษณ์ที่โดดเด่นของบ้านบาหลีในปัจจุบันคือรูปทรงของหลังคาที่มีลักษณะเฉพาะ รวมถึงการจัดสัดส่วนภายในบ้านที่เน้นความโปร่ง โล่ง และได้แสงจากธรรมชาติครับ

 

 

 

ขอบคุณข้อมูลจาก

aansanruk.blogspot.com

thaihomegarden.blogspot.com

baanlaesuan.com

pinterest.com