HOME TECHNOLOGY

      ทุกวันนี้อินเทอร์เน็ตและเทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทในการดำเนินชีวิตเป็นอย่างมาก เรียกได้ว่าแทบจะทุกๆ อย่างเลยค่ะ ซึ่งทางด้านการออกแบบและตกแต่งภายในเองก็ได้รับอิทธิพลมาไม่น้อยเช่นกัน เพราะเทคโนโลยีเหล่านี้สามารถเปลี่ยนแปลงบ้านธรรมดาๆ ให้กลายเป็น Smart Home ที่ทันสมัยและควบคุมง่ายเพียงแค่ปลายนิ้วคลิ๊กเชียวค่ะ และวันนี้ Karuntee จะพาแฟนๆ บาริโอไปอัปเดตกันว่าเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่น่านำมาใช้ในบ้านมีอะไรบ้าง

 

      1. Smart Home รุ่นแรกที่ควบคุมไฟฟ้าในบ้านได้ด้วยเสียง

 

Cr. Recode

 

      Amazon Echo  ถือเป็นเจ้าแรกที่ทำเทคโนโลยีแบบ Smart Home และกลายเป็นแบรนด์ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในอเมริกา ฟังก์ชั่นของอุปกรณ์ Amazon Echo คือสามารถพูดคุยและสั่งงานได้ด้วยเสียง โดย Amazon Echo จะเชื่อมต่อกับ Internet ตลอดเวลา และเชื่อมกับอุปกรณ์ Smart Home อื่นๆ ในบ้านได้เลย ทำให้สามารถรับคำสั่งไปควบคุมอุปกรณ์ต่างๆ ไม่ว่าจะอยู่ใกล้หรือไกลก็ตาม เช่น คำสั่งเปิด/ปิดไฟ ดูกล้องวงจรปิด รดน้ำต้นไม้ รับโทรศัพท์ เปลี่ยนเพลง เปิดหนัง สั่งพิซซ่า ไปจนถึงการสอนการบ้านเด็ก โดยความพิเศษของอุปกรณ์นี้อยู่ที่ ยิ่งใช้งานมากเท่าไหร่ Amazon Echo ก็จะยิ่งฉลาดและสามารถจดจำโทนเสียงคุณได้มากขึ้นจากการประมวลผล Online อัจฉริยะสุดๆ ไปเลย

 

วิธีใช้งาน

 

 

      2. สมาร์ทลำโพงสุดเจ๋ง ที่สามารถสั่งการเครื่องใช้ไฟฟ้าได้ด้วยเสียง

 

Cr. Dezeen

 

      Google Home เป็นสมาร์ทลำโพงสุดเจ๋งที่เพิ่งเปิดตัวครั้งแรกเมื่อปีที่แล้วนี้เองค่ะ แต่นอกจากฟังก์ชั่นที่ใช้สำหรับฟังเพลงแล้ว ผู้ใช้ยังสามารถพูดคำสั่งเสียงเพื่อโต้ตอบกับผู้ช่วยส่วนตัวที่เรียกว่า “Google Assistant” ได้อีกด้วย โดยที่ระบบจะช่วยควบคุมการเล่นวิดีโอ รูปภาพ หรือรับข่าวสารทั้งหมดด้วยเสียง เพียงพูดว่า “Okay Google” หรือ “Hey Google”

      ที่สำคัญยังสามารถใช้เสียงของเราควบคุมเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านได้ หากต้องการเปิดหรือปิดไฟ โดยที่ไม่ต้องลุกไปไหน นอกจากนี้ Google Home ยังสามารถเข้าใจคำสั่งจากศัพท์ที่ใกล้เคียงหรือบอกเป็นนัยยะได้ เช่น “Make it dark” เป็นต้นค่ะ

 

วิธีใช้งาน

 

 

     3. Smart Garden ผู้ช่วยงานรดน้ำต้นไม้

 

Cr. Smarthomewelt.de

 

      อุปกรณ์นี้สร้างขึ้นมาเพื่อคอนโทรลสปริงเกอร์รดน้ำต้นไม้โดยเฉพาะ เรียกว่าเป็นทั้ง Smart Home และ Smart Garden ไปพร้อมๆ กันค่ะ ซึ่งทางผู้ผลิตนั้นเคลมไว้ว่าเจ้า Rachio สามารถช่วยประหยัดน้ำกว่าการรดต้นไม้ทั่วไปได้ถึง 50% เลยทีเดียว โดยการทำงานจะเชื่อมต่อผ่าน Wi-Fi  ซึ่งจะควบคุมการรดน้ำต้นไม้ แต่ละแปลงจะได้รับน้ำในปริมาณที่แตกต่างกัน มีฟังก์ชั่นที่สามารถแยกแยะ คาดการณ์สภาพอากาศได้ วันไหนฝนตกก็หยุดรด วัดปริมาณแสงมากน้อยเพียงใด ก็รดน้ำให้เหมาะกับต้นไม้นั้นๆ แถมยังตรวจสอบความชื้นสวนได้ด้วย

 

วิธีใช้งาน

 

 

     4. หลอดไฟอัจฉริยะ

 

Cr. The Modest Man

 

      Philips Hue หลอดไฟ IoT อัจฉริยะ ที่สามารถสั่งการผ่านสมาร์ทโฟน หรือรีโมทได้จากทุกที่ ไม่จำกัดประเทศหรือทวีปเลยค่ะ เป็นอุปกรณ์ใช้งานในบ้านที่เหมาะสุดๆ สำหรับคนขี้ลืมทีเดียวเชียว… นอกจากนี้ยังเหมาะกับผู้ที่มีไลฟ์สไตล์ที่หลากหลาย เพราะสามารถปรับแสงได้กว่าหมื่นเฉดสีให้เหมาะกับกิจกรรมต่าง ๆ  เช่น ปรับแสงให้เหมาะสำหรับผ่อนคลาย อ่านหนังสือ นอน ปาร์ตี้ ฯลฯ อีกทั้งยังสามารถเชื่อมกับ แอพลิเคชั่น IFTTT ได้ ทั้งในระบบ  iOS และ Android และนำไปประยุกต์ใช้ตั้งค่าให้ไฟกระพริบเมื่อมีอีเมลเข้า หรือเปิดไฟเองอัตโนมัติเมื่อขับรถเข้ามาใกล้บริเวณบ้าน ที่สำคัญถึงแม้จะมีฟังก์ชั่นและประโยชน์มากมายแต่ราคาก็อยู่ในระดับเหมาะสม ไม่แพงมานัก แถมยังเป็นหลอดไฟ LED ที่ช่วยประหยัดไฟได้ดีอีกด้วย

 

วิธีใช้งาน

 

 

      5. อุปกรณ์สำหรับคนรักเสียงเพลง

 

Cr. ArchitectureArtDesigns

 

      อุปกรณ์ที่มีฟังก์ชั่นสุด Love สำหรับคนรักเสียงเพลง แถมยังรักษ์โลกด้วย เพราะอุปกรณ์เครื่องเล่นนี้มีแผงโซลาร์เซลล์ติดอยู่ที่ด้านหลังของตัวเครื่อง เพื่อดึงเอาพลังจากจากแสงอาทิตย์มาใช้เป็นการชาร์จแบตเตอรี่ คุณจึงสามารถเอาเจ้าเครื่องตัวนี้ไปแปะไว้ที่หน้าต่างเพื่อให้ได้รับแสงอาทิตย์เต็มๆ หรือพกพาติดตัวไปที่ไหนก็ได้ โดยที่สามารถเล่นเพลงได้อย่างต่อเนื่อง แถมยัง Bluetooth เพลงจากโทรศัพท์หรือเครื่องมือสื่อสารอื่นๆได้อีกด้วย น่าจะเป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์ที่เหมาะกับเมืองไทยมากๆ เลยนะคะ เพราะแสงแดดเมืองไทยมีมากมายเหลือเกิน แบ่งเอาไปใช้ประโยชน์บ้าง เพื่อจะลดลงนิดนึง (ฮ่าๆ)

 

      6. กลอนประตูอิเล็กทรอนิกส์สุดไฮเทค

 

Cr. Brookstone

 

      กลอนประตูอิเล็กทรอนิกส์ที่ทำงานร่วมกับสมาร์ทโฟน โดยผู้เป็นเจ้าของบ้านสามารถกำหนดได้ว่าสมาร์ทโฟนของใคร เครื่องไหนสามารถปลดล็อคประตูได้บ้าง ซึ่งจะกำหนดสิทธิ์ได้ทั้งแบบตลอดไปหรือสิทธิ์แบบจำกัดเวลาสำหรับแขกผู้มาเยือนได้  ตัวอย่างเช่น ตั้งค่าเวลาสำหรับคนสวนที่จะมาตัดหญ้าหน้าบ้าน ให้เข้าบ้านได้ระหว่าง 13.00 – 15.00 น. เท่านั้น โดยมันสามารถส่งข้อมูลการเปิดปิดประตูของช่างกลับมายังสมาร์ท
โฟนของเจ้าของบ้านได้ด้วย กลอนประตูอัจฉริยะนี้ทำงานด้วยระบบ Bluetooth จึงสามารถปลดล็อคประตูอัตโนมัติเมื่อสมาร์ทโฟนที่ได้รับอนุญาตเข้าใกล้ สมมติว่าเจ้าของบ้านมือไม่ว่าง เมื่อเข้าใกล้ประตูก็สามารถปลดล็อคได้เองโดยอัตโนมัติ กลอนประตูอิเล็กทรอนิกส์นี้ทำงานเป็นอิสระด้วยตัวเอง โดยใช้พลังงานจากถ่าน ไม่ได้เชื่อมต่อกับระบบไฟฟ้า ทำให้แม้ไฟดับหรืออินเทอร์เน็ตโดนตัด ก็ยังสามารถใช้งานได้ หากแบตเตอรี่ใกล้หมดระบบจะแจ้งเตือนผ่านแอพพลิเคชั่น หรือหากเกิดเหตุฉุกเฉินก็สามารถใช้ลูกกุญแจไขเข้าบ้านได้ปกติค่ะ

 

วิธีใช้งาน

 

 

      7. สร้างแสงไฟด้วยเทคโนโลยีจอภาพ OLED

 

Cr. integrationmag.it

 

       OLED (Organic Light-Emitting Diode) เป็นเทคโนโลยีที่ทำให้จอภาพมีลักษณะเหมือนแผ่นฟิล์ม ซึ่งมีส่วนประกอบเป็นสารอินทรีย์ที่สามารถเปล่งแสงเองได้เมื่อได้รับพลังงานไฟฟ้า เรียกว่ากระบวนการอิเล็คโทรลูมิเนเซนส์ (Electroluminescence) โดยที่ไม่ต้องพึ่งพาแสง Backlight ในการฉายแสงด้านหลังจอภาพ

      คุณสมบัติของ OLED มีความเบาบางและยืดหยุ่น เพราะทำจากโพลีเมอร์และโมเลกุลขนาดเล็ก ซึ่งมีความหนาเพียง 100-500 นาโนเมตร จึงสามารถโค้งงอ และประกอบเข้ากับอุปกรณ์ที่พับงอต่างๆ ได้ ปัจจุบันจึงถูกนำไปใช้กับจอโทรทัศน์ จอคอมพิวเตอร์ จอป้ายโฆษณาขนาดใหญ่ หรือแม้กระทั่งผืนผ้า จึงไม่ยากเลยที่ในอนาคตจะสามารถนำจอ OLED นี้ไปติดไว้บนอุปกรณ์พกพาอื่นๆ รวมไปถึงเฟอร์นิเจอร์ที่ใช้ตกแต่งบ้านอีกด้วย ซึ่งหากนำมาใช้เป็นเฟอร์นิเจอร์ที่สามารถดัดและประกอบให้เป็นรูปทรงต่างๆ ตามใจได้แล้ว จอ OLED จะมีคุณสมบัติที่ใช้แทนหลอดไฟภายในบ้านได้ เพราะสามารถนำไปประยุกต์เป็นโคมไฟตั้งโต๊ะหรือติดกับกำแพง หน้าต่าง และกระจกภายในบ้านได้เลย ทำให้ในเวลากลางคืนไม่ต้องเปิดสวิตซ์ไฟที่เพดานหรือผนัง แต่ใช้เจ้า
จอ OLED นี้ส่องสว่างแทนหลอดไฟ เป็นการตกแต่งบ้านให้สวยงามแถมยังดูล้ำสมัยอีกด้วย

 

Cr. progettazioneottica.it

 

แนะนำจอภาพ OLED

 

 

      ยิ่งวันเวลาผ่านไปเทคโนโลยีก็ยิ่งพัฒนาไปไวจนเราจนแทบตามไม่ทันกันเลยทีเดียวค่ะ แต่มันก็เป็นข้อดีสำหรับการดำเนินชีวิตของเราเช่นกัน เพราะมันช่วยอำนวยความสะดวกสบายให้กับเราได้เป็นอย่างมากเลยทีเดียวล่ะ