ความสุขคืออะไร? คุณเคยถามตัวเองบ้างไหมคะ

      บ้างก็บอกว่า “ความสุข” คือการที่มีเงินเยอะๆ ชีวิตอยู่สุขสบาย ไม่ต้องเครียดอะไรทั้งนั้น บ้างก็ว่าแค่ได้กินอิ่ม นอนหลับนั่นแหละ คือความสุขของฉัน

      อืม…ไม่ว่าคำตอบจะเป็นแบบไหนก็ถูกต้องทั้งนั้นค่ะ เนื่องจากความสุขของแต่ละคนไม่เหมือนกัน

      บางคนสุขที่ได้กิน ฟินที่ได้เที่ยว ก็ว่ากันไป……

      เพราะความสุขเป็น นามธรรมที่จับต้องไม่ได้ แต่ รู้สึกได้

      พูดถึง ความสุข แล้ว ในสังคมปัจจุบันที่เต็มไปด้วยความวุ่นวายนี้ เราก็อยากรู้ว่าคนทั่วไปเขาจัดการกับสิ่งเหล่านี้เพื่อให้ตนเองได้พบพานกับความสุขที่แท้จริงได้อย่างไร Karuntee จึงรวบรวมทัศนคติต่างๆ จากการสัมภาษณ์คนหลากหลายอาชีพ มาฝากแฟนๆ บาริโอ เผื่อใครจะนำไปปรับใช้ในชีวิตได้ค่ะ

      Karuntee ขอเสนอตัวป็นคนแรกค่ะ (ฮ่า ฮา…อยากแบ่งปันความสุขให้คนอื่นด้วยค่า….) ตั้งแต่เด็กจนโต มักมีคนตั้งข้อสงสัยกับนิสัยส่วนตัวของเรามาโดยตลอด เฮ้ยเพื่อน!! เกิดมาเคยร้องไห้ป่ะ (เอ้า…ตอนออกมาจากท้องแม่ข้าคงร้องไห้มั้ง ถามแปล๊กกกก) ทำไมดูเป็นคนสดใสและยิ้มได้ตลอดเวลา เหมือนคนไม่มีความทุกข์ ทำยังไงบอกหน่อยสิ ? และประโยคที่คล้ายกันอีกมากมาย บลา..บลา นี่คือเรื่องจริง Karuntee ไม่ได้พูดเว่อร์แต่อย่างใดนะคะ (เชื่อได้จริงๆ) เราโดนคำถามแบบนี้บ่อยๆ และคำตอบที่ออกไปก็คือ รอยยิ้ม (ฮ่า ฮา) พร้อมกับที่ในหัวก็คิดว่าความทุกข์ก็มีนะแต่เราเลือกที่จะไม่คิดและไม่แสดงออก ทำให้เราเป็นคนหนึ่งที่ดูความสุขตลอดเวลาและสิ่งเหล่านี้ก็ได้ขัดเกลาให้กลายเป็นคนที่มองโลกในแง่ดีนั่นเองค่ะ

      โตขึ้นมาก็ยังเป็นแบบนั้นค่ะ เราเป็นคนที่ค่อนข้างมองโลกในแง่ดี ไม่ค่อยจะนำปัญหามาคิดให้ปวดหัว ปัญหามันเกิดที่ทำงาน ก็ปล่อยไว้ที่ทำงานนั่นแหละ เรื่องอะไรจะให้ตามมารังควานฉันถึงที่บ้านล่ะ (ฮ่า….ฮา) ที่สำคัญเรามีความสุขในสิ่งที่ทำทุกๆ อย่าง  ชอบอ่านหนังสือ ชอบดูหนัง ชอบเที่ยวก็ไป อยากติ่งเกาหลี มีคอนเสิร์ตวงที่ชอบมาก็ไม่มีพลาด (แต่อยู่บัตรดอยตลอดนะ บอกตัวเองว่าไปกินบรรยากาศ แต่ความจริง She ซ้ำ เพราะไม่มีตังค์ TT) เพราะเราคิดเสมอว่าอะไรที่ทำให้เรามีความสุขได้ก็ทำไปเถอะ ตราบใดที่ไม่ทำให้ตนเองและคนอื่นเดือดร้อน

      เอาล่ะ…เสนอมุมมองของตนเองมาเยอะแล้ว คราวนี้ไปถึงคนอื่นบ้าง คนนี้เป็นอาจารย์สอนในมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งทางภาคเหนือ เธอเป็นคนหนึ่งที่เคยขาดความสุขจนเกือบจะฆ่าตัวตาย แต่ทุกวันนี้ชีวิตแฮปปี้จนเรียกได้ว่าสมบูรณ์แบบไปแล้ว

 

 

      “ครั้งหนึ่งเคยคิดสั้น เพราะชีวิตของตนเองที่สมบูรณ์แบบมาโดยตลอดเกิดอาการสะดุด  ย้อนไปในอดีตด้วยความเป็นคนที่เรียนหนังสือเก่ง จบมาระดับเกียรตินิยมเหรียญทอง ชีวิตอยากได้อะไรก็ได้มาง่ายๆ จนมาถึงชีวิตการทำงานที่เราเคยคิดว่าการเป็นอาจารย์มันเพียงแค่สอนแล้วก็จบ ซึ่งความจริงมันไม่ใช่ ยังมีรายละเอียดอีกมากมายที่อาจารย์ระดับมหาวิทยาลัยต้องรับผิดชอบ พอการทำงานไม่ได้เป็นอย่างที่เราคิดก็เกิดปัญหาตามมา คนที่ได้อะไรมาง่ายๆ ไม่เคยเจอปัญหาในชีวิตมาก่อนก็เลยแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ได้ แถมยิ่งพัลวันกันไปใหญ่ จนเราหาออกไม่เจอ จนวูบหนึ่งเราเกิดคิดสั้น ฉันไม่อยากอยู่แล้ว ฉันจะไม่ทนกับปัญหานี้อีกต่อไป แต่ด้วยความที่ครอบครัวและเพื่อนๆ ต่างให้กำลังใจจนเราผ่านพ้นวิกฤตนี้ไปได้ ทุกวันนี้มุมมองความคิดเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือเลยค่ะ เราเข้าใจโลกมากขึ้น ว่าทุกสิ่งทุกอย่างมันมีสองมุมเสมอ ถ้าเราทำความเข้าใจและเรียนรู้ที่จะอยู่กับมัน เราก็จะมีความสุข เช่น ตนเองที่ทำอาชีพเป็นอาจารย์ มีหน้าที่ในการให้ความรู้ เราจึงมีความสุขในการให้สิ่งที่เรารู้ส่งต่อไปยังนักศึกษา ยิ่งสิ่งที่ส่งไป ทำให้เขาเก่งขึ้น รู้มากขึ้น คนให้ก็ยิ่งมีความสุข ทุกวันนี้จึงแฮปปี้กับการสอนมากๆ เพราะการให้คือความสุขที่แท้จริงสำหรับฉันค่ะ”

เกวลี,อาจารย์

 

 

      มาถึงบุคคลที่เรียกได้ว่ามีความสุขในทุกสิ่งที่เธอทำ เธอเป็นนักข่าวที่ใช้ชีวิตสนุกจนแทบน่าอิจฉาเลยค่า…

“อาชีพเราค่อนข้างอิสระ การใช้ชีวิตของเราจึงดูอิสระไปด้วย (ฮ่า…ฮ่า)  อืม…ความสุขสำหรับเราเหรอค่ะ ก็คือการชอบ “มองข้าม” เรื่องแย่ๆ คนแย่ๆ พูดง่ายๆ คือไม่สนใจสิ่งเหล่านี้ ชีวิตจะไม่ต้องเคร่งเครียด นอกจากนี้ความสุขสุดขีดของผู้หญิงก็คือการช้อปเครื่องสำอางค่ะ รู้สึกว่าในลังสมบัติ(กรุเครื่องสำอาง)ยิ่งมีไอเทมเพิ่มขึ้นก็ยิ่งแฮปปี้ดี๊ด๊า ทุกวันนี้เครื่องสำอางที่มีใช้อีก 3 ปี ก็ยังไม่หมดค่ะ (ฮ่า ฮ่า) อีกอย่างหนึ่งก็คือ การได้เห็นโลกกว้าง สถานที่ใหม่ๆ ทั้งต่างประเทศ ต่างจังหวัด ดูซิคแพ็คนายแบบฝั่งในไอจี (อุ้ยอันนี้ความฟินส่วนตัว ความชอบของใครของมันค่า ฮา….แอบติดเรทมั๊ย?  ลงบทความได้ไม่ว่ากันค่ะ ) ที่สำคัญรอยยิ้มของพ่อแม่ก็คือความสุขของเราเหมือนกันค่ะ”

นิมมิตา ,นักข่าว

 

      เหยี่ยวข่าวมาถึงมาร์เก็ตติ้งสาว ที่ต้องบอกเลยว่าชีวิตเธอจะเอาความสุขมาจากไหนน๊า ในเมื่อทำงานตั้งแต่เช้าจรดดึก เดือนหนึ่งหยุดแค่ 3 วัน โอ้พระเจ้าเธอทุ่มเทให้งานมากไปไหม แล้วทำงานหนักขนาดนี้ เธอจะหาความสุขจากไหนกันล่ะ ?

 

 

“งานคือเงิน เงินคืองานบันดาลสุข ถามว่าทุกวันนี้ทำงานหนักทุกวันเหนื่อยไหม ตอบเลยว่า…..มาก!!! แต่ที่ทำไปทุกอย่างก็เพราะเงินค่ะ คงไม่มีใครปฎิเสธว่าเงินซื้อทุกอย่างได้ โดยเฉพาะความสุข ฉันก็เป็นหนึ่งในนั้นเหมือนกันที่คิดแบบนี้ เงินทุกบาททุกสตางค์ที่เราหามาสามารถซื้อเสื้อผ้า ซื้อรองเท้า กระเป๋า ต่างๆ นานา แถมเงินเหล่านั้นยังช่วยผ่อนรถ นำไปสร้างบ้านให้พ่อแม่ เราสุขสบายได้ ในเมื่อเงินมันทำให้ชีวิตและครอบครัวเราดี แค่นี้ก็เพียงพอแล้วค่ะ”

พิชญา,Marketing

 

     ความสุขของหนุ่ม HR คนนี้มาสั้นๆ ง่ายๆ แต่ได้ใจความ ^^

 

 

ความสุขของผม คือ การได้อยู่บนโลกอันงดงาม รักเด็ก และยิ้มให้กันทุกวัน แหม่…โลกสวยจริงพ่อคุณ (ฮ่า ฮ่า)

รัฐพล,พนักงานฝ่ายบุคคล (HR)

 

    ต่อด้วยพนักงานสาวสู้ชีวิตที่ไม่ว่าจะเจอปัญหาอะไร เธอก็ยิ้มสู้เพื่อความสุขของครอบครัว

 

 

ความสุขคือการได้อยู่กับครอบครัวอันเป็นที่รัก ไม่จำเป็นต้องร่ำรวยเงินทองมากมาย หรือมีบ้านที่ใหญ่โต แค่ได้อยู่กับครอบครัวที่อบอุ่นได้เห็นรอยยิ้มได้ยินเสียงหัวเราะก็เพียงพอ และความสุขอีกอย่างก็คือการได้ทำอะไรสิ่งที่ตัวเองรัก ยิ่งได้ทำแล้วส่งผลให้คนที่เรารักมีความสุขเราก็ยิ่งมีความสุข

วรัญญาพร,พนักงานร้านสปา

 

      และอีก 2 คนสุดท้ายมีคำตอบคล้ายๆ กัน คือ อยากทำในสิ่งที่ตนเองรัก เป็นในสิ่งที่ตนเองอยากเป็น…

 

ความสุขของผมจึงเป็นการที่ได้ใช้ชีวิตตามที่เราอยากจะทำนั่นเอง มีอิสระในการคิดและกระทำ โดยไม่ทำให้ใครเดือดร้อน เพราะผมเชื่อว่าการที่ได้ทำในสิ่งที่รัก เราจะทำได้ดีและมีความสุขกับมันเสมอครับ

ธวัชชัย ,พนักงานข้าราชการ

 

 

ความสุขในชีวิตคือการได้ทำในสิ่งที่ชอบ เช่น ตอนนี้เป็นว่าที่พยาบาล กำลังอยู่ในศึกษาอยู่และขึ้นวอร์ดมาหลายวอร์ดแล้ว เห็นปัญหาต่างๆ ของคนไข้มาเยอะ แต่เมื่อได้เห็นการพัฒนาการหรือสุขภาพร่างกายเขาดีขึ้นเราก็ดีใจ โดยเฉพาะมีเคสหนึ่งตอนที่ขึ้นวอร์ดคลอด เราได้ดูแลคุณแม่ตั้งแต่ใกล้คลอด พอเขาคลอดลูกออกมาและเห็นเด็กปลอดภัย มันเป็นความรู้สึกที่แบบสุขสุดๆ เลยค่ะ

วิภาวดี,นิสิตพยาบาล

 

เป็นไงกันบ้างค่ะ เห็นวิธีการสร้างความสุขในแต่ละแบบของคนจากหลากหลายอาชีพไปแล้ว เราเชื่อว่ามันมีมุมมองที่ต่างกันบ้างเล็กน้อย แต่จุดมุ่งหมาย คือความสุข ไม่มีใครบนโลกใบนี้ไม่อยากมีความสุข อยู่ที่ว่าคุณจะสร้างมันขึ้นมาในแบบไหน สุดท้ายขอให้แฟนๆ บาริโอมีความสุขในการอ่านบทความ และมีความสุขในการใช้ชีวิตในทุกๆ วันนะคะ

 

 

ขอบคุณรูปภาพประกอบจาก

www.pixabay.com