“ตั้งแต่เล็ก จนโตจำได้ทุกอย่าง ใต้ร่มพระบริบาล สุขสราญด้วยความร่มเย็น…”

      เป็นประโยคซึ่งเชื่อว่าชาวไทยทุกคนที่ได้เกิดในผืนแผ่นดินของรัชกาลที่ 9 คงจะเข้าใจและทราบซึ้งใจเป็นอย่างยิ่ง ตั้งแต่อดีตจนจวบถึงข้าพเจ้ามีชีวิตมาถึงทุกวันนี้ เรามักจะอุ่นใจอยู่เสมอมาที่มีพ่อหลวงที่ไม่เคยทอดทิ้งประชาชน พระองค์ท่านทรงงานหนักเพื่อเราทุกคน ตลอด 70 ปี 4000 กว่าโครงการ พระองค์ทำเพื่อปรับปรุงคุณภาพชีวิตของประชาชนให้มีความเป็นอยู่ที่ดี กินดี มีสุภาพอนามัยแข็งแรง มีการศึกษา มีอาชีพมั่นคง จึงทำให้เราคุ้นเคยกับโครงการพัฒนาต่างๆของพระองค์มาโดยตลอด พระองค์ได้ชื่อว่าเป็นกษัตริย์นักพัฒนา พระองค์ท่านทรงพัฒนาทั้งทรัพยากรและพัฒนาคนเพื่อต่อยอดให้ประชาชนได้ดำรงอาชีพ ต่อไปได้ด้วยตัวเอง

 

ที่มา : เรารักพระเจ้าอยู่หัว.com

ความทุ่มเททรงงานเพื่อประชาชน

      เรื่องราวต่างๆที่เราได้รับรู้เกี่ยวกับพระองค์มาโดยตลอด ในหลวงรัชกาลที่ 9 จะทรงงานไม่เหมือนข้าราชการทั่วไป ถือเป็นแบบอย่างที่ดีเยี่ม พระองค์ทรงงานโดยการลงพื้นที่จริง  การหาข้อมูลจากพื้นที่จริงถือเป็นผลสำเร็จมากที่สุด เราอาจคาดไม่ถึงว่าพ่อหลวงของเราได้เสด็จไปยังที่แห่งใดบ้าง บางพื้นที่ช่างแสนทุรกันดารเสียจนมาลองคิดในมุมของเราเอง เราคงไม่กล้า แต่พระองค์ทรงเสด็จไปอย่างไม่กลัวอันตรายหรือความลำบาก ในส่วนนี้เป็นสิ่งที่ชัดเจนสิ่งหนึ่งว่าพระองค์ทรงรักลูกๆของพระองค์มากจริงๆ และสิ่งที่ตราตรึงใจทุกคนและยังคงอยู่ในความทรงจำมาตลอดคือ พระองค์ท่านทรงนำพาความอยุ่รอด ความอิ่มท้อง มาสู่ประชาชนในทุกที่ที่ท่านเสด็จไป พระองค์ทรงงานอย่างหนักและตรากตรำพระวรกายมายาวนาน  เพื่อต่อสู้กับความยากจน และสร้างความอยู่ดีมีสุขแก่พสกนิกรชาวไทยทั้งประเทศ

 

 

 

 

ที่มา : Faceboo/Phu Nutd

      การทุ่มเทที่ทำให้ข้าพเจ้าประทับใจและซึ้งใจต่อความรักของพ่อหลวงนั้นมีมากล้นเหลือเกิน ขอยกตัวอย่างในบางส่วนเท่านั้น ในเรื่องของการคิดแก้ปัญาสิ่งต่างๆพระองค์ท่านเป็นผู้ที่มีกระบวนการคิด วิเคราะห์ที่เป็นเลิศ การค้นคว้าหาต้นตอของปัญหา  พระองค์ทรงค้นหาจุดเริ่มต้นของปัญหา และความต้องการที่แท้จริงของชุมชน ลงพื้นที่จริงเพื่อวิจัยเก็บรวบรวมข้อมูลรอบด้าน เรามักจะคุ้นชินตากับภาพของพระองค์ที่ในพระหัตถ์ถืออแผนที่ และดินสอพร้อมกล้องถ่ายรูปติดตัวอยู่ตลอดเวลาพระองค์ทรงพกสิ่งเหล่านี้เพื่ออะไรในอดีตที่เรายังเด็กก็ต่างสงสัยมาโดยตลอด

 

ที่มา : http://www.myhappyoffice.com/

ที่มา : Twitter @FORIGOT7TH

 

ที่มา : www.thebigchilli.com

      ช่างชลประทานจะใช้แผนที่นี้ในการวางโครงการชลประทานเบื้องต้น โดยอ่านระดับความสูงของหุบเขา คำณวนพื้นที่ระดับน้ำ แล้วคูณด้วยตัวเลขน้ำฝนเฉลี่ย จะได้ปริมาณน้ำเฉลี่ยต่อปี แล้วนำมาพิจารณาว่า ควรจะสร้างฝายหรืออ่างเก็บน้ำตรงจุดใด ได้น้ำประมาณเท่าไหร่ ส่งไปช่วยพื้นที่เกษตรจำนวนกี่ไร่

      พระองค์ทรงทราบทุกอย่างได้จากแผนที่ รายละเอียดของพื้นที่และปัญหาต่างๆที่ต้องแก้ไขมีอะไรบ้าง จึงทำให้พระองค์ท่านสามารถเข้าใจทุกๆอย่างจากการรวบรวมข้อมูลด้วยตัวของพระองค์เอง เมื่อได้รู้ถึงหลักการทำงานของท่านแล้วรู้สึกประหลาดใจในพระอัจฉริยภาพเป็นอย่างยิ่ง

โครงการในดวงใจ

      กว่า 4พันกว่าโครงการที่พ่อหลวงของชาวไทยทรงทุ่มเทในการแก้ปัญหาปากท้องให้กับลูกๆ หนึ่งในโครงการที่สุดแสนประทับใจคงจะต้องขอพูดถึง “ โครงการฝนหลวง ” เป็นโครงการที่เกิดจากพระมหากรุณาธิคุณ พระองค์ท่านทรงห่วงใยในความทุกข์ยากของประชาชนในท้องถิ่นทุรกันดาร ต้องประสบปัญหาขาดแคลนน้ำดื่ม น้ำใช้ และสำหรับเกษตรกรรม ฤดูฝนเริ่มต้นล่าช้าเกินไป หรือหมดเร็วกว่าปกติหรือฝนทิ้งช่วงยาวในช่วงฤดูฝนจึงทำให้เกิดสภาวะ แห้งแล้ง

 

 

      กรกฏาคม 1943 วินเซ็นท์ เซฟเฟอร์ คิดค้นและประกาศแนวคิดในการทำฝนเทียม (Cloud Seeding) และทำการทดลองที่ภูเขาวอชิงตัน  แต่วิธีการของเซฟเฟอร์นั้น ยังเป็นแนวคิดเชิงเดี่ยว ยังไม่เป็นระเบียบวิธีการ และยังไม่มีการแบ่งแยกข้อแตกต่างระหว่างเมฆร้อนและเมฆเย็น พูดกันอย่างเข้าใจง่ายๆก็คือ วิธีของเซฟเฟอร์ยังไม่สมบูรณ์แบบครบวงจร และหลังจากที่เซฟเฟอร์ได้คิดค้น ก็ยังมีหลายหน่วยงานวิจัย นำแนวคิดของเซฟเฟอร์ไปศึกษาค้นคว้าต่อ  ในหลวงของเรา ก็ทรงมีความสนพระทัย เช่นกัน เพราะพระองค์ท่านทรงสังเกตว่า ภาคอีสานของไทยมีเมฆมาก แต่ทำไมถึงไม่มีฝน ถ้าเราบังคับให้ฝนตกตรงนั้นได้เลยก็คงจะดี พระองค์ทรงคิดแล้ว ทรงค้นคว้าและพัฒนา (Research and Development) จนได้เทคนิคการทำฝนเทียมที่แตกต่างจากของต้นฉบับและยังมีประสิทธิภาพสูงสุด และได้จดลิขสิทธิ์เพื่อเป็นทรัพย์สินทางปัญญาให้กับประชาชนคนไทยได้ใช้กันทกวันนี้

 

 

เกร็ดความรู้ : การทำฝนหลวง

 

ที่มา : www.thaigoodview.com

      พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงประดิษฐ์ภาพ “ตำราฝนหลวง” ด้วยคอมพิวเตอร์ แสดงขั้นตอน และกรรมวิธีการดัดแปรสภาพอากาศ ให้เกิดฝนจากเมฆอุ่น และเมฆเย็น และพระราชทานแก่ นักวิชาการฝนหลวง ถือปฏิบัติในแนวทางเดียวกัน เมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2542

      ทั้งหมดทั้งมวลนี้เป็นสิ่งที่เราต่างได้เห็นภาพพระราชกรณียกิจ ที่ท่านทรงงานหนักมาโดยตลอด พระองค์เป็นเสมือนแรงบันดาลใจในการดำเนินชีวิต และหลายๆคำสอนของพ่อหลวงก็ยังคงอยู่ในใจลูกๆชาวไทยทุกๆคน สิ่งเดียวที่เราจะตอบแทนพ่อได้คือการที่ลูกๆตั้งใจดำเนินชีวิตให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี ให้สมกับที่ในหลวงของเราพระองค์ท่านทรงทำเพื่อพวกเรามาตลอด ความรักความสามัคคี ช่วยกันพัฒนาประเทศไทยของเราให้ก้าวไปข้างหน้า ด้วยแรงใจทั้งหมดที่เรามีด้วยกันนะคะ

“แผ่นดินนี้คือบ้าน คือแดนสวรรค์ แสนสุขใจ มีทุกอย่างที่ดีเพราะใคร ฉันจะไม่ลืม”

 

 

ขอขอบคุณข้อมูลจาก

www.thaigoodview.com

www.bloggang.com

www.facebook.com/tobedin