อะ…แฮ่ม เจอ Karuntee ทั้งทีรับรองว่ามีเรื่องราวดีๆ มาฝากแฟนๆ ชาวบาริโอทุกคนแน่นอนค่ะ โดยเฉพาะครั้งนี้ รับรองทั้ง คุณสุภาพบุรุษและสุภาพสตรี ได้เห็นโครงการนี้แล้ว อยากมีคู่ไปอยู่บ้านที่แสนอบอุ่นแบบบ้านที่เรา กำลังจะพาไปนี้แน่นอน New Project ครั้งนี้เราพามาซอกแซกกันที่โครงการ The Palazzo Rama 3 – Suksawat ว่าแล้วอย่ารอช้า ไปพบกับความสุข สุดฟินที่เราได้คัดสรรมาให้แฟนๆชาว บาริโอกันได้อย่างเต็มที่เลยค่ะ

      เริ่มกันที่ชั้นล่างของบ้าน ด้วยความที่ลูกค้าเป็นคนที่ชื่นชอบสีโทนขาว สะอาด ดูอบอุ่น ทางดีไซเนอร์จึงได้ออกแบบใน ส่วนของชั้นนี้ซึ่งประกอบไปด้วยส่วนของ Living Area , Family Area , Pantry Area โดยการเน้นสีขาวเป็นหลักทำให้ดู โปร่งใส และสะอาดตา แถมยังทำให้รู้สึกผ่อนคลายและสดชื่นได้เช่นกัน

      นอกจากนี้ในส่วนของ Pantry Area ยังคง คอนเซ็ปต์เรียบง่าย แต่ดูดี ด้วยการวางโต๊ะรับประทานอาหารขนาดกลางและ เก้าอี้บุนวมสีน้ำตาลนวลตา 6 ที่นั่ง พร้อมทั้งด้านบนประดับด้วยโคมไฟระย้ารูปเชิงเทียน เพื่อสร้างบรรยากาศสุดแสน โรแมนติก และเพิ่มความอบอุ่นให้กับสมาชิกในครอบครัวได้อีกด้วย ขณะเดียวกันทางด้านโซนตู้เก็บภาชนะต่างๆ ก็ยังคง ความเรียบง่ายแต่คุณสมบัติแบบอเนกประสงค์ครบครัน พร้อมจัดวางส่วนต่างๆ ไว้อย่างเป็นระเบียบ ที่สำคัญยังคงใช้โทน สีขาว เป็นหลักเหมือนเดิม

 

 

 

      ในส่วนของห้อง Living Area เป็นส่วนที่ใช้สำหรับการพักผ่อนสบายๆ ไม่ว่าจะเป็นดูหนัง ฟังเพลง หรืออ่านหนังสือ ทางดีไซเนอร์จึงได้วางทีวี LED จอใหญ่บนชั้นวางทีวีดีไซน์เก๋ขนาดใหญ่ ทั้งนี้บริเวณผนังหลังทีวียังได้เพิ่มความสวยงาม ด้วยลวดลายกราฟฟิก ทำให้บริเวณ Living Area ดูโดดเด่นมากขึ้น พร้อมกันนี้ยังได้วางโซฟาตัวยาว หนานุ่ม ใกล้กับหน้าต่างบานกระจก เพื่อให้ห้องดูโปร่งตาและสว่างมากขึ้น

 

 

 

      ถัดจากห้อง Living Area ก็จะเป็นในส่วนของ Family Area ซึ่งเป็นห้องสำหรับคนในครอบครัวที่ใช้พบ ปะพูดคุยและทำกิจกรรมต่างๆ ร่วมกัน จึงได้ออกแบบให้ ห้องนี้ดูอบอุ่นและผ่อนคลายมากกว่าส่วนอื่นๆ รวมทั้งใช้ ประตูกระจกบานใหญ่ เพื่อให้สามารถมองเห็นสวนของ บ้านได้ด้วย

 

 

      Master Bedroom เนื่องจากลูกค้าต้องการห้องทำงาน แต่ไม่อยากแยกห้องทำงานกับห้องนอนไว้คนละส่วนกัน ทางดีไซเนอร์จึงได้ออกแบบโดยการกั้นระหว่างส่วนเตียงนอนกับส่วนทำงานด้วยการใช้เหล็กดัดเพื่อให้ห้องดูโปร่ง ไม่แคบ ทางด้านผนังหัวเตียง ยังได้ออกแบบด้วย การทำ เป็นลักษณะเหมือนกรอบรูปโดยด้านในเป็นกระจก เงาสีชา และทำกรอบเป็นลวดลายสีทอง เพื่อความหรูหรา ให้ผนังหัวเตียง และยังสามารถนำรูปภาพมาติดได้ด้วย

 

 

      Closet Room ห้องแต่งตัว ในส่วนนี้มีพื้นที่เล็กมาก แต่ ลูกค้าต้องการตู้เสื้อผ้าที่สามารถเก็บเสื้อผ้าเต็มพื้นที่เพื่อที่จะเก็บเสื้อผ้าให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ทางดีไซเนอร์ จึงได้ออกแบบด้วยการเลือกใช้กระจกเงาทำเป็นหน้าบาน ให้ส่วนของ Closet Room ดูกว้างขวางขึ้น นอกจากนี้ยัง ได้ออกแบบด้วยการวางตู้เสื้อผ้าเต็มพื้นที่ทั้ง 2 ข้าง ของห้อง เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่ ต้องการเก็บเสื้อผ้าให้ได้มากที่สุด

 

 

      ห้องพระ หรือ Praying Room ในส่วนนี้ด้วยความที่เจ้าของบ้านเป็นคนธรรมะ ธัมโม จึงต้องการอยากมีห้องพระสำหรับ กราบไหว้ บูชา รวมทั้ง อยากให้ภายในห้องพระมี่ทีเก็บหนังสือธรรมะไว้ด้วย ทางดีไซเนอร์จึงได้ออกแบบด้วยการนำตู้ หนังสือไปไว้ทั้ง 2 ฝั่งของห้อง เพื่อความสะดวก สบายและความเป็นระเบียบของห้อง พร้อมทั้งได้ออกแบบให้มีที่นั่งสำหรับอ่านหนังสือธรรมะไว้ข้างตู้หนังสือด้วย ส่วนตรงกลางห้องได้จัดซุ้ม ที่สามารถติดรูปพระที่นับถือ รวมทั้งมีโต๊ะหมู่บูชา ขนาดใหญ่ พร้อมลิ้นชักสำหรับเก็บของในการกราบไหว้พระอีกด้วย   ได้ชมกันแล้ว ดูอบอุ่นไปตามๆ กันเลยทีเดียวค่ะ มีครบทุกรูปแบบจริงๆ สำหรับบ้านหลังนี้

 

…Karuntee…