Feung-Shui-Architecture-Bandner

ฮวงจุ้ยกับสถาปัตยกรรม

เฟิงสุ่ยหรือฮวงจุ้ยเป็นวัฒนธรรมที่มีต้นกำเนิดในประเทศจีน ฮวงจุ้ยเป็นศาสตร์ใหญ่และลึกซึ้ง มีความเป็นมายาวนาน ซึ่งถือเป็นส่วนสำคัญที่ประกอบขึ้นเป็นวัฒนธรรมของจีนโบราณ  ฮวงจุ้ยเป็นวิชาที่ว่าด้วยการคัดสรรสิ่งมงคลและหลีกเลี่ยงสิ่งอัปมงคล ที่แพร่หลายจนกลายเป็นปรากฏการณ์ทางวัฒนธรรมที่มีเฉพาะในประเทศจีน

 

ฮวงจุ้ยเป็นศาสตร์และศิลป์ที่เกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างคนกับสิ่งแวดล้อม  แนวทางพื้นฐานของฮวงจุ้ยจะเน้นไปที่ความสัมพันธ์ของคนกับสิ่งปลูกสร้างและคนกับธรรมชาติ รวมเรียกว่า “ความสัมพันธ์ระหว่างฟ้ากับคน” ฮวงจุ้ยมีเนื้อหาสำคัญเกี่ยวกับการเลือกและจัดการที่พักอาศัยตลอดจนสิ่งแวดล้อมในการใช้ชีวิต ซี่งก็จะประกอบด้วยการวางผังการปลูกสร้างที่พักอาศัย สุสาน หมู่บ้าน เมือง ฯลฯ  เป็นต้น

 

ศาสตร์ของฮวงจุ้ยจะพิถีพิถันกับการเลือกทำเลปลูกบ้าน ทิศทาง ตลอดจนการออกแบบและการวางโครงสร้างภายใน เพราะเชื่อว่าบ้านพักอาศัยส่งผลกระทบต่อจิตใจ อารมณ์ สุขภาพของผู้อยู่อาศัย ทั้งยังมีผลต่อหน้าที่การงาน โชคลาภ และความสัมพันธ์ในครอบครัวอีกด้วยครับ

 

 

Bank of China Tower

เป็นอีกหนึ่งผลงานของ ไอ. เอ็ม. เพ (I. M. Pei – Ieoh Ming Pei). สถาปนิกผู้ออกแบบ พีระมิดลูฟวร์ Louvre Pyramid ที่เลื่องชื่อ   ตัวอาคารถูกออกแบบให้มีลักษณะคล้ายต้นไผ่  ซึ่งถึงว่าเป็นไม้มงคลของชาวจีน  ที่มีการเติบโตเปรียบเสมือนเป็นสัญลักษณ์แห่งการเติบโตขององค์กร แต่ในอีกมุมมองหนึ่งก็มองได้ว่าตัวตึก ที่มีลักษณะเด่นชัดว่าคล้าย “ดาบ” ที่ฟาดฟัน 10 ทิศ รวมถึงหันคมดาบไปหาตึกโดยรอบและหันมาทางตึกเจ้าเก่าอย่าง HSBC อีกด้วย

 

ผู้ออกแบบได้นำสถาปัตยกรรมแบบใหม่มาผนวกเข้ากับการออกแบบแบบจีน โดยจะเห็นเป็นอาคารสามเหลี่ยมทั้งสี่รูป หลอมรวมเป็นหนึ่ง   ที่มีความสูงต่ำต่างกัน  ตัวอาคารเป็นเหลี่ยมแหลม ทำให้สามารถต้านทานแรงลมได้เป็นอย่างดี จึงใช้เหล็กในการก่อสร้างน้อยลงกว่าปกติ   ตามความเชื่อแล้วมีหลายมุมมองมองว่าตัวอาคารเป็นมุมแหลมคมเหมือนดาบฟาดฟันทุกทิศทาง บวกกับสัญลักษณ์ที่เป็นรูปตัว X บนอาคาร ซึ่งคนจีนเชื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งความตาย  ด้วยเหตุนี้จึงทำให้เศรษฐกิจของฮ่องกง เกิดความซบเซาครับ

 HSBC Building  (Hong Kong)

 

ตึกนี้ออกแบบโดยสถาปนิกชาวอังกฤษชื่อดัง Lord Norman Foster  เป็นอาคารที่ถูกก่อสร้างเสร็จสมบูรณ์มาสักระยะหนึ่งแล้ว  แต่ถือว่าเป็นอาคารมีความทันสมัยทั้งรูปลักษณ์และเทคโนโลยีภายในอาคาร   อาคารแห่งนี้ตั้งอยู่เหนือพื้นดิน 180 เมตร มี 47 ชั้น ให้พื้นที่ 100,000 ตารางเมตร สำหรับการใช้งานพิเศษของธนาคาร  อาคารมีเสากระโดงแปดเสา แต่ละเสาประกอบด้วยเสาสี่เสาเพื่อรองรับโครงสร้างแขวนเหล็ก  ลักษณะที่สำคัญอีกประการหนึ่งของอาคารนี้คือห้องโถงสูง 40 เมตร พร้อมกระจกเงาขนาดยักษ์ที่อยู่ด้านบน ซึ่งสะท้อนแสงอาทิตย์ผ่านห้องโถงทางเดินสาธารณะ   การออกแบบนี้ช่วยเพิ่มการใช้แสงธรรมชาติ  Natural Sunlight และช่วยประหยัดพลังงาน  ส่วนความเชื่อเรื่องฮวงจุ้ยของอาคารนี้คือสร้างสิ่งก่อสร้างที่มีลักษณะเป็นรูปลูกศรชี้ขึ้น ซึ่งสื่อถึงความรุ่งเรือง โดยจุดสำคัญที่เพิ่งสร้างขึ้นภายหลัง หลังจากได้รับผลกระทบจากตึก Bank of China ก็ขึ้นเครนที่มีลักษณะคล้ายกับปืนใหญ่ไว้ด้านบนสุดของอาคาร เชื่อว่าเป็นการยิงส่งชั่วร้ายที่มาจากอาคารตรงข้ามของ Bank of China Tower  และทำให้เศรษฐกิจกลับมาดีขึ้นได้อีกครั้งครับ

 Dragon Hole

 

หลายๆคนอาจจะเคยเห็นรูตรงกลางอาคารกันใช่ไหมครับ จริงๆแล้วรูที่เราเห็นกันนี้เรียกว่า  Dragon Hole มันไม่ได้เป็นเหตุผลทางสถาปัตยกรรมใดๆ แต่เป็นไปตามหลักของฮวงจุ้ยที่เชื่อว่า บนภูเขานั้นจะมีมังกรอาศัยอยู่ และมังกรจะเดินทางไปยังท้องทะเล ดังนั้น ตึกที่หันหลังให้ภูเขา และหันหน้าไปสู่ทะเล จึงต้องทำช่องตรงกลางอาคารเพื่อเป็นทางผ่านให้แก่มังกร เพราะถ้าไม่มีรูช่องตรงกลางนี้ อาจจะนำมาซึ่งความโชคร้ายเข้ามาครับ ซึ่งถือหลักการแก้ฮวงจุ้ยให้ตึกไม่ไปขวางทางการไหลเวียนของพลังงานครับ  ตึกที่เห็นในภาพเป็นคอนโดให้เช่า ที่หาด Repulse Bay ฮ่องกง ซึ่งก่อนหน้านี้ไม่มี Dragon Hole  ส่งผลให้ตึกไม่มีคนเช่าทั้งที่ทำเลดี แต่หลังจากที่ปรับฮวงจุ้ยใหม่ทุบช่องตรงกลาง ทำให้มี Dragon Hole  ก็มีผู้สนใจเช่ามากมาย ทำให้ตอนหลังตั้งปรับสัญญาเช่าได้แค่ระยะ 2 ปี แล้วต้องทำการจองสัญญาเช่าใหม่ ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งที่ดีหลังจากปรับฮวงจุ้ยครับ

 Bareo-isyss

 

 

สำหรับการตกแต่งของบาริโอนั้น สไตล์การตกแต่งที่สถาปนิกผู้ออกแบบได้เลือกใช้นั้น คือ  Futuristic  เป็นสไตล์ที่มีรูปแบบของการผสมผสานความล้ำสมัยเข้ากับสไตล์อื่นๆ  ที่แสดงให้เห็นว่า New Head Office ของ Bareo พร้อมจะพัฒนาและก้าวไปสู่งานดีไซน์ในยุคใหม่

 

Concept  ในเรื่องของฮวงจุ้ยนั่นคือ “น้ำ”  เราจะเห็นได้จากดีไซน์จากภายนอกอาคาร ของ Facade ที่มีลักษณะเป็นฟองของน้ำ ไม่มีความเป็นเหลี่ยมแหลมคม แต่จะดีไซน์ให้เป็นลักษณะของคลื่น ที่เป็นทั้งวงกลม วงรี เพื่อเสริมความเป็นสิริมงคลและสร้างความสมดุลให้กับตัวอาคาร นอกจากเรื่องของฮวงจุ้ยแล้วในส่วนนี้ยังสามารถช่วย       ลดทอนแสงแดดที่จะกระทบกับตัวอาคาร ซึ่งก็จะทำให้เราได้รับแสงจากธรรมชาติ แต่ในขณะเดียวกันก็จะไม่ร้อนจนเกินไปครับ  ส่วนการวางแนวอาคารก็เป็นสิ่งที่เราใส่ใจ เริ่มจากด้านหน้าอาคารถูกออกแบบให้หันไปทางทิศเหนือ ซึ่งเป็นทางถนนสายหลักที่เป็นถนนสายธุรกิจเพิ่มเสริมในเรื่องของธุรกิจให้มีความไหลเวียนที่ดีขึ้นครับ

ของตกแต่งตามความเชื่อ

ม้า

 

 

ตามฮวงจุ้ย ม้า มีธาตุไฟเป็นธาตุธรรมชาติ ม้าเป็นสัตว์ในลำดับที่ 7 ของนักษัตรจีน มีความเชื่อว่าม้าเป็นสัตว์ที่เปี่ยมไปด้วยพลังและเป็นสัญลักษณ์ของขุนนาง , ชนชั้นสูง , ความรวดเร็วว่องไว ส่งผลให้ธุรกิจการค้า,การงานประสบความสำเร็จเร็วเหมือนฉายา “ม้าเร็ว” การตั้งรูปภาพหรือรูปปั้น ต้องให้หัวม้าหันหน้าเข้าสู่สำนักงานหรือร้านค้าโดยยึดประตูเข้าออกเป็นหลัก ลักษณะของม้าที่เป็นมงคลคือ ลักษณะที่กำลังวิ่งหรือกระโจนทะยาน ส่วนม้า 8 ตัว หมายถึง ความคล่องแคล่ว ว่องไว

 มังกร

มังกร ถือว่าเป็นสัตว์สำคัญที่สุดของชาวจีนและเป็นสัตว์เทพที่ศักดิ์สิทธิ์  จึงเหมาะมากสำหรับการส่งเสริมธุรกิจการค้า ให้รุ่งเรือง ช่วยเรียกโชคลาภ   การวางมังกร ต้องหันหน้าเข้าสู่สำนักงานหรือร้านค้าโดยยึดประตูเข้า-ออกเป็นหลัก  มังกรถือว่าเป็นตัวแทนของความแข็งแกร่ง ความตั้งใจ ความพยายาม กล้าหาญ อดทน ชาวจีนจึงถือว่า มังกร คือ จิตวิญญาณของการเปลี่ยนแปลงและฟื้นฟูให้ดีขึ้น

 ปลาคาร์ฟ

 

 

ปลาถือเป็นสัตว์มงคล เป็นสัญลักษณ์ของความมั่งคั่งชาวจีนที่ทำการค้ามักนิยมเลี้ยงปลาในสถานที่ประกอบธุรกิจปลาที่นิยมเลี้ยงคือ ปลาคาร์ฟ  แต่ถึงอย่างไร การเลี้ยงปลาก็ต้องดูแลเรื่องความสะอาดของบ่อหรือตู้ปลาเพราะถ้าสกปรกตามความเชื่อแล้วจะนำพามาซึ่งความโชคร้าย แต่ถ้าไม่สะดวกจะเลี้ยงปลา หารูปภาพ หรือรูปปั้นก็ช่วยได้ดีเหมือนกันครับ

 หงส์

เป็นสัญลักษณ์ของความสูงสง่า นำพามาซึ่งความสุข และความเจริญ คุณควรวางหงส์ไว้ในที่มองเห็นได้ชัดเจนจะช่วยเสริมมงคลให้ร้านค้า บ้านหรือสำนักงานที่คุณอยู่ แต่ทิศทางการวางไม่ควรหันหัวหงส์ไปนอกประตูเด็ดขาด เพราะจะเท่ากับเป็นการสูญเปล่า หากธุรกิจใดมีหงส์ไว้ย่อมแสดงถึงความร่ำรวยและความเจริญของธุรกิจ

Chinese Style มีความเกี่ยวโยงกับหลักของฮวงจุ้ย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของดินสร้างบ้าน ก็ต้องพิจารณากันมากพอดู ถึงแม้ว่าจะเป็นเรื่องที่ยาก แต่ใช่ว่าจะยากเย็นไปสะทีเดียว หากรู้จักศึกษาข้อมูลให้ถี่ถ้วนเพียงเท่านี้ก็จะได้บ้านตามแบบที่เราต้องการ และถูกหลักฮวงจุ้ยแล้วครับ 🙂

 

 

ขอบคุณข้อมูลจาก

pinterest.com
baanlaesuan.com
บ้านกับฮวงจุ้ย.com
modernfs.com
arup.com
archdaily.com