Bandner

Reiwa : อรุณรุ่งสีทองแห่งแดนอาทิตย์อุทัย

ในเดือนนี้นอกจากการเฉลิมฉลองการขึ้นครองราชย์ของในหลวงรัชกาลที่ 10 ของเราปวงชนชาวไทยแล้ว ประเทศญี่ปุ่นก็เป็นอีกหนึ่งประเทศที่มีการผลัดเปลี่ยนราชบัลลังก์ โดยประเทศญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีราชวงศ์ที่สืบราชบัลลังก์ต่อเนื่องยาวนานที่สุดของโลกเลยทีเดียว โดยมีอายุการสืบทอดยาวนานกว่า 2700ปี ซึ่งมี สมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตะ ทรงเป็นพระจักรพรรดิลำดับที่ 125 และรัชสมัยของพระองค์มีชื่อว่า “เฮเซ”

 

การเริ่มยุคใหม่แห่ง “เรวะ”

เนื่องด้วย สมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตะ มีความต้องการที่จะสืบทอดราชบัลลังก์ และหาผู้ปฏิบัติพระราชกรณียกิจแทนพระองค์ เนื่องด้วยทรงมีพระชนมพรรษามากแล้ว ทางญี่ปุ่นจึงได้มีการประกาศเริ่มรัชศกใหม่ นับเป็นการสิ้นสุดของ “ยุคเฮเซ” และเป็นการเริ่มต้นศักราชใหม่แห่ง “ยุคเรวะ” อรุณรุ่งสีทองแห่งแดนอาทิตย์อุทัย

 

cr. https://www.japantimes.co.jp

 

cr. https://edition.cnn.com

 

โดยผู้สืบทอดราชบัลลังก์เป็นสมเด็จพระจักรพรรดิของญี่ปุ่นองค์ที่ 126 คือ เจ้าชายนารุฮิโตะ พระราชโอรสในสมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตะ และ สมเด็จพระจักรพรรดินีมิจิโกะ โดยเจ้าชายนารุฮิโตะจะเถลิงยศขึ้นเป็น สมเด็จพระจักรพรรดินารุฮิโตะ แห่งยุคเรวะต่อไป และสมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตะ จะดำรงตำแหน่ง “โจโค” หรือที่เรียกว่า สมเด็จพระจักรพรรดิพระเจ้าหลวง ต่อไป

 

สมเด็จพระจักพรรดินารุฮิโตะทรงมีมีพระปฐมบรมราชโองการ ความว่า

“ข้าพเจ้าให้คำมั่นว่า ข้าพเจ้าจะระลึกถึงประชาชนอยู่เสมอ พร้อมกันกับการยืนหยัดเคียงข้างพวกเขาและปฏิบัติหน้าที่ใน
ฐานะสัญลักษณ์ของประเทศญี่ปุ่นและความเป็นเอกภาพของประชาชนญี่ปุ่นตามที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ”

 

cr. https://edition.cnn.com

 

นายโยชิฮิเดะ ซูงะ เลขาธิการรัฐมรตรีณี่ปุ่น ได้ออกมาอธิบายความหมายของชื่อรัชสมัยใหม่ โดยคำว่า “เร” มีความหมายถึง ความรุ่งเรืองหรือคำสั่ง ส่วนคำว่า “วะ” หมายถึง สันติภาพหรือความสามัคคี

 

นอกเหนือจากปิติยินดีในการเริ่มยุคใหม่แห่งประเทศญี่ปุ่นแล้ว พิธีการที่สำคัญที่สุด คือ การถวายเครื่องราชกกุธภัณฑ์ (Kenji-to-Shokei-no-gi) หรือเครื่องใช้สำหรับองค์จักรพรรดิ โดยประเทศญี่ปุ่นมีเครื่องราชกกุธภัณฑ์ประจำราชวงศ์ 3ชิ้นด้วยกัน ซึ่งมีการส่งต่อกันมายาวนานตั้งแต่เริ่มราชวงศ์เลยทีเดียว

 

เครื่องราชกกุธภัณฑ์

เครื่องราชกกุธภัณฑ์ถือว่ามีความสำคัญอย่างยิ่งต่อราชบัลลังก์ต่าง ๆ ทั่วโลก เป็นสัญลักษณ์แสดงถึงพระราชอำนาจของกษัตริย์ จักรพรรดิ หรือประมุขของประเทศ โดยเครื่องราชกกุธภัณฑ์แห่งราชบัลลังก์ญี่ปุ่นประกอบไปด้วยราชกกุธภัณฑ์ 3 องค์ ได้แก่ 1. ดาบศักดิ์สิทธิ์คุซานางิ (Kusanagi no Tsurugi) 2. กระจกศักดิ์สิทธิ์ยาตะ (Yata no Kagami)  3. อัญมณีศักดิ์สิทธิ์ยาซาคานิ (Yasakani no Magatama) โดยทั้งสามชิ้นนี้จะได้รับการเก็บรักษาไว้ยังสถานที่ 3 แห่งแตกต่างกันออกไป

 

cr. https://allombradelmontefuji.wordpress.com

 

กระจกศักดิ์สิทธิ์ยาตะ (Yata no Kagami)

กระจกศักดิ์สิทธิ์ยาตะ เป็นสัญลักษณ์แสดงถึง ‘ปัญญา’ ขององค์พระจักรพรรดิ เชื่อกันว่าองค์กระจกทำจากสำริด ซึ่งอาจมีอายุมากกว่า 1,000 ปี ถูกเก็บรักษาไว้ที่ศาลเจ้าอิเสะ เป็นศาสนสถานที่ศักดิ์สิทธิ์และสำคัญที่สุดในศาสนาชินโต โดยตั้งอยู่ที่เมืองอิเสะ ในจังหวัดมิเอะ สร้างขึ้นเพื่อถวายความเคารพแด่เทพีอามาเทราสึ

 

โดยตามการเปิดเผยของ นายชินสุเกะ ทาเคนากะ จากสถาบันศีลธรรมวิทยา (Moralogy) กระจกยาตะ ถือเป็นสมบัติที่ล้ำค่าที่สุดในบรรดาเครื่องราชกกุธภัณฑ์ทั้งสาม โดยเป็นสมบัติชิ้นเดียวที่ไม่ถูกนำมาแสดงในพิธีสืบราชบัลลังก์ของจักรพรรดิอากิฮิโตะและจักรพรรดินารุฮิโตะ

 

cr. https://allombradelmontefuji.wordpress.com

cr.http://blog.sina.cn/

หยกศักดิ์สิทธิ์ยาซาคานิ (Yasakani no Magatama)

หยกศักดิ์สิทธิ์ยาซาคานิเป็นลูกปัดรูปทรงคล้ายครึ่งหนึ่งของหยินหยาง หรือเครื่องหมายจุลภาค ทำจากหยกสีเขียว ซึ่งเริ่มผลิตในญี่ปุ่นช่วง 1,000 ปีก่อนคริสตกาล และหยกศักดิ์สิทธิ์ยาซาคานิ เป็นสัญลักษณ์แสดงถึง ‘เมตตากรุณา’ ขององค์พระจักรพรรดิ

 

ซึ่งในงานสืบทอดราชบัลลังก์ในครั้งนี้ หยกศักดิ์สิทธิ์ยาซาคานิ เป็นเครื่องราชกกุธภัณฑ์เพียงชนิดเดียวที่ได้เห็นออกสู่สายตาของชาวโลก

 

cr. https://allombradelmontefuji.wordpress.com

 

ดาบศักดิ์สิทธิ์คุซานางิ (Kusanagi no Tsurugi)

คุซานางิ หรือ ดาบตัดหญ้า โดยมีอีกชื่อที่ถูกเรียกขานว่า อาเมโนะมุราคุโม (Amenomurakumo-no-Tsurugi) แปลว่า ดาบเมฆสวรรค์ชุมนุม เป็นสัญลักษณ์แทนความกล้าหาญในองค์สมเด็จพระจักรพรรดิญี่ปุ่น ถูกเก็บรักษาไว้เป็นอย่างดีในกล่องไม้ ที่ศาลเจ้าอัตสึตะ ในเมืองนาโกย่า เมืองเอกของจังหวัดไอจิ จากบันทึกประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่นระบุว่า กล่องที่บรรจุดาบคุซานางิถูกเปิดครั้งสุดท้ายในสงครามช่วงศตวรรษที่ 12 เพื่อตรวจสอบข้อสงสัยที่ว่าดาบได้หายไป และหลังจากนั้นกล่องและดาบก็ถูกเก็บรักษาและไม่มีใครได้เห็นดาบคุซานางิอีกเลย

 

cr. https://allombradelmontefuji.wordpress.com

 

cr. https://anngle.org/th

 

นอกจากนี้ดาบคุซานางิก็ยังมีประวัติความเป็นมาและความเชื่อที่น่าสนใจต่อจักรพรรดิญี่ปุ่นอีกด้วย

 

เทพซูซาโนโอะ กับ ดาบตัดหญ้า

 

เทพซูซาโนโอะ

cr. anngle.org

 

การกำเนิดดาบคุซานางิตามตำนานเล่าว่า เทพซูซาโนโอะ (เทพเจ้าแห่งทะเลและพายุในศาสนาชินโต) เนื่องจากเทพซูซาโนโอะได้รับมอบหมายให้ดูแลทะเล แต่ด้วยความดื้อรั้นเทพเจ้าซูซาโนโอะที่ส่งพายุไปทำลายแผ่นดิน และทำให้แผ่นดินถูกปกคลุมด้วยท้องฟ้ามือดำ จึงเป็นเหตุให้ถูกเนรเทศลงมายังโลกมนุษย์

 

ครั้นถูกเนรเทศลงมายังโลกมนุษย์เทพซูซาโนโอะก็ได้เข้าช่วยเหลือหญิงสาวจาก งูยักษ์ 8 หัว (Yamata-no-Orochi) และเมื่อปราบงูยักษ์ได้สำเร็จ ก็เกิดแสงที่ปลายหางของงูยักษ์ เทพซูซาโนโอะจึงผ่าหางของงูยักษ์และพบกับดาบคุซานางิ จึงได้นำดาบคุซานางิไปถวายแด่เทพีอามาเทราสุ (Amaterasu : เทพีแห่งดวงอาทิตย์) โดยความเชื่อที่ว่าเทพีอามาเทราสุ คือ ต้นตระกูลของจักรรรดิญี่ปุ่น ‘ดาบคุซานางิ’ จึงตกทอดมาสู่จักรพรรดิญี่ปุ่นเรื่อยมาจากรุ่นสู่รุ่น

 

ดาบตัดหญ้า

cr. anngle.org

 

ตามตำนานเล่าว่าในยุคสมัยของจักรพรรดิเคโก จักรพรรดิญี่ปุ่นองค์ที่ 12 มีพระราชองค์การให้พระโอรส เจ้าชายทาเครุ ไปปราบชนเผาเอมิชิ ครั้งเมื่อเดินทัพมาถึงแคว้นซาคามิ หัวหน้าแคว้นซาคามิได้วางอุบายหลอกเจ้าชายทาเครุว่าในทุ่งหญ้ารอบ ๆ มีปีศาจร้ายซ้อนตัวอยู่ ด้วยความเป็นห่วงประชาชนเจ้าชายทาเครุจึงมุ่งหน้าไปยังทุ่งหญ้าเพียงลำพังเพื่อหวังกำจัดปีศาจร้าย หัวหน้าแคว้นจึงสบโอกาสสั่งจุดไฟรอบทุ่งหญ้าหวังปลิดชีพเจ้าชายทาเครุ เมื่อเห็นเช่นนั้น เจ้าชายทาเครุ จึงชักดาบคุซานางิออกจากฝัก ทันใดนั้นพลังของดาบคุซานางิก็ตัดหญ้าและต้นไม้บริเวณนั้นที่ขวางรัศมีของดาบออกเป็นหน้ากอง จึงเป็นที่มาของชื่อ ‘ดาบตัดหญ้าคุซานางิ’

 

cr. https://edition.cnn.com/

 

ถือเป็นเดือนแห่งมหามงคลอย่างแท้จริงที่ทั้งประเทศไทย และประเทศญี่ปุ่นมีการเฉลิมฉลองอันน่าปลื้มปีติยินดีเช่นนี้

 

อย่างไรก็ตามนับว่าเป็น ‘อรุณรุ่งสีทองแห่งแดนอาทิตย์อุทัย’ ที่จะเปลี่ยนแปลงยุคสมัยไปอีกหนึ่งสมัยที่ผู้คนเฝ้าจับตาและรอคอยความเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ที่กำลังจะเกิดขึ้นต่อมา เรื่องราวทั้งหมดนี้ก็เป็นเรื่องราวที่น่าค้นหาเกี่ยวกับราชบัลลังก์ และวัฒนธรรมเก่าแก่ของญี่ปุ่น ที่นำมาให้ทุกท่านได้อ่านกันอย่างเพลิดเพลิน และเชื่อว่าการเริ่มต้นใหม่นี้คงจะต้องมีเรื่องราว
ดี ๆ กำลังรออยู่อีกมากมายให้เราได้ติดตามกันต่อไปค่ะ

 

 

ขอขอบคุณข้อมูลจาก
edition.cnn.com
thairath.co.th
thestandard.co
thestandard.co
bangkokbiznews.com
anngle.org