DESTINATIONS

 

มีคำกล่าวว่า “ชีวิตคือการเดินทางที่ไม่มีที่สิ้นสุด” จะดีไหมถ้าได้มีโอกาสเดินทางไปยังสถานที่แสนพิเศษ ที่เต็มไปด้วยเรื่องราวมากมาย มีความเป็นมาอันน่าหลงใหล หรือมีประวัติศาสตร์ความเป็นมาที่ส่งผลต่อปัจจุบัน ก็คงจะทำให้สถานที่เหล่านั้นน่าหลงไหลและเติมเต็มช่องว่างของการเดินทางได้มากขึ้นเลยทีเดียว วันนี้ผม “เฉพาะกิจ” จะขอพาทุกท่านคลายร้อน เดินทางไปพักผ่อนยังสถานที่ต่าง ๆ ที่มีเรื่องราวและความเป็นมาที่น่าสนใจ จะเป็นทีไหนบ้าง เชิญชมได้เลยครับ

 

น้ำพุเทรวี่ Trevi Fountain

 

Cr. travelingwithjc.com

 

น้ำพุเทรวี่ (Trevi Fountain) ตั้งอยู่ที่ จตุรัสเทรวี่ (Piazza di Trevi) กรุงโรม ประเทศอิตาลี ซึ่งน้ำพุเทรวี่มีความสูงอยู่ที่ 25.9 เมตร และกว้าง 19.8 เมตร เริ่มก่อสร้างในปี ค.ศ. 1732 โดยคำสั่งของพระสันตะปาปา คลีแมน ที่ 12 ซึ่งรูปแบบการก่อสร้างเป็นศิลปะแบบบาโรก ซึ่งจะสะท้อนให้เห็นถึงอารมณ์ที่รุนแรง ท่าทาง แสงสี สะเทือนอารมณ์ แต่เติมเต็มไปด้วยความหรูหรา โออ่า

 

Cr. zhivartour.com

 

โดยความขัดแย้งของศิลปะแบบบาโรกถูกทรอดแทรกไว้ในน้ำพุเทรวี่อย่างลงตัว โดยจะเห็นความขัดแย้งจากมนุษย์เงือก (ครึ่งบนเป็นคน ครึ่งล่างเป็นปลา) 2ตน ตนหนึ่งจับม้าพยศ ส่วนอีกตนใช้มือจับม้าได้อย่างง่ายดาย

 

น้ำพุเทรวี่ นับว่าเป็นน้ำพุที่เก่าแก่ที่สุดของกรุงโรม โดยใช้เวลาในการสร้างยาวนานถึง 32 ปี ซึ่งวัสดุส่วนใหญ่ที่ใช้ในการสร้างน้ำพุเทรวี่นั้น ใช้วัสดุเช่นเดียวกันกับโคลอสเซียม (Colosseum) โดยที่วัสดุนั้นก็คือ หินทราเวอทีน (Travertine) ได้ทำการขนย้ายจากเมือง ทิโวลิ (Tivoli) ซึ่งอยู่ห่างจากกรุงโรมออกไป 30 กิโลเมตร เพื่อนำมาใช้ก่อสร้างน้ำพุเทรวี่นั่นเอง

 

Cr. es.aleteia.org

 

ในอดีตน้ำพุเทรวี่นับว่าเป็นแหล่งน้ำจืดที่ใช้ในการอุปโภคและบริโภคที่สำคัญแห่งหนึ่งของกรุ่งโรม ด้วยว่าในแต่ละวันน้ำพุจะมีปริมาณน้ำไหลเวียนออกมาโดยเฉลี่ย 2.8 ล้าน ลูกบาศก์ฟุตต่อวัน แต่ในปัจจุบันการดื่มน้ำจากน้ำพุเทรวี่ถือเป็นเรื่องผิดกฎหมายแล้วนะครับ แต่ใช่ว่าจะไม่มีกิจกรรมอื่น ๆ ให้ทำ นอกจากเยียมชมความสวยงามของนำพุเทรวี่

 

มีความเชื่อที่ว่า หากคุณหันหลังแล้วโยนเหรียญข้ามไหล่ซ้ายลงไปสู่น้ำพุเทรวี่ จะทำให้คุณได้กลับมายังน้ำพุเทรวี่อีกครั้ง ซึ่งการกระทำดั่งกล่าวของนักท่องเที่ยว ทำให้ในหนึ่งวันมีเหรียญถูกโยนลงไปในน้ำพุเทรวี่ราวๆ 3,000 ยูโรต่อวัน ซึ่งเงินในส่วนนี้จะถูกมอบให้แก่มูลนิธิการกุศล Caritas ซึ่งช่วยเหลือผู้ขัดสนของทางกรุงโรมต่อไปครับ

 

DOLE PlANTATION PINEAPPLE MAZE

 

Cr. reddit.com

 

เขาวงกตรูปสับปะรดแห่งไร่โดล (Dole Plantation) ตั้งอยู่ที่ ฮาโนลูลู หมู่เกาะฮาวาย ซึ่งความพิเศษของเขาวงกตแห่งนี้คือ สร้างขึ้นจากพันธ์ไม้เขตร้อนมากกว่า 14,000 ต้น ผสมผสานออกมาเป็นเขาวงตกที่แสนพิเศษนี้ภายใต้เนื้อที่กว่า 3 เอเคอร์ (ประมาณ 7.6 ไร่) และมีระยะทางรวมในเขาวงกตประมาณ 2.5 ไมล์ (ราว ๆ 4 กิโลเมตร) โดยในปี 2008 กินเนสบุ๊ค (Guinness Book of World Records) ประกาศให้เขาวงกตแห่งนี้ เป็นเขาวงกตที่ใหญ่ที่สุดในโลกอีกด้วยครับ

 

Cr. worldkings.org

 

ความพิเศษของเขาวงกตสับปะรดแห่งไร่โดลนี้ถูกรังสรรค์โดยเจมส์ โดล (Jame Dole) ชายผู้ถูกขนานนามว่าเป็น “ราชาแห่งสับปะรด (The Pineapple King)” เจมส์โดวเกิดเมื่อวันที่ 27 กันยายน 1877 ในเมสซานชูเซต และจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด (Havard University) ภาควิชาเกษตร ก่อนจะใช้เงินเก็บทั้งหมดของเขาเดินทางมายัง ฮาโนลูลู ในปี 1899 และก่อตั้งไร่สับปะรดขนาด 20,000 เอเคอร์ (ประมาณ 50,600 ไร่) สร้างการจ้างงานเป็นวงกว้างในหมู่เกาะฮาวาย ทำให้สับปะรดเป็นพืชเศรษฐกิจ และเป็นสัญลักษณ์ของหมู่เกาะฮาวายจนถึงทุกวันนี้

 

Cr. bootsintheoven.com

Cr. deviatingthenorm.com

Cr. deviatingthenorm.com

 

นอกเหนือจากเขาวงกต และประวัติศาสตร์อันยาวนานของไร่แห่งนี้แล้ว อาหาร กิจกรรม และของที่ระลึก ทุกอย่างล้วนแล้วแต่เกี่ยวข้องกับสับปะรดทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นไอศกรีมรสสับปะรดที่ขึ้นชื่อ การเที่ยวชมไร่สับปะรดโดยการนั่งรถไฟสายพิเศษ Pineapple express หรือกระทั่งของฝาก ล้วนแล้วแต่เต็มไปด้วยสับปะรด คนรักสับปะรดควรหาโอกาสสักครั้งในชีวิตไปเที่ยวชมไร่โดลแห่งนี้ ที่มีประวัติเกี่ยวกับสับปะรดอันยาวนานนี้ รับรองไม่ผิดหวังแน่นอนครับ

 

เขาอู่ตัง WUDANG MOUNTAIN

 

Cr. bloggang.com

 

เขาอู่ตัง หรือที่คนไทยรู้จักในอีกชื่อว่า “เขาบู๊ตึ้ง” ตั้งอยู่ที่ ด่านเจียงโขว่ (Danjiangkou,丹江口) เมืองฉี่เยี่ยน (Shiyan, 十堰)  โดยในเดือน ธันวาคม ปี ค.ศ. 1994 เขาอู่ตังได้รับเลือกเป็นมรกดโลก ในชื่อ “อาคารโบราณทิวเขาอู่ตัง” ในการประชุมคณะกรรมการมรดกโลกสมัยสามัญ ซึ่งการประชุมดังกล่าวจัดที่จังหวัดภูเก็ต ประเทศไทยของเรานี่เองครับ

 

Cr. th.wikipedia.org

 

จาง ซันเฟิง (ในสำเนียงจีนกลาง) หรือ เตียซำฮง (ในสำเนียงแต้จิ๋ว) คือ นักบวชในสัทธิเต๋า มีชื่อเสียงในการออกเดินทางช่วยเหลือชาวบ้านจากการใช้วิชากำลังภายในรักษาอาการเจ็บป่วย และเป็นผู้ก่อตั้งสำนักอู่ตัง หรือบู๊ตึ้ง ในสำเนียงแต้จิ๋ว นอกจากนี้ยังเป็นผู้คิดค้นวิชามวยไท่เก๊ก ศาสตร์แห่งการออกกลังกายเพื่อสุขภาพอีกด้วย

 

Cr. bloggang.com

Cr. มาเก๊าทัวร์.com

ด้วยลักษณะทางภูมิประเทศของภูเขาอู่ตังที่มีทิวเขาล้อมรอบทุกทิศทาง และมีภูมิอากาศแบบมรสุมกึ่งเขตร้อน และมีความสูง 1,000 – 1,200 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล มีอุณหภูมิเฉลี่ยตลอดทั้งปีอยู่ที่ 7.7 – 10 องศาเซลเซียส ทำให้เหมาะแก่การท่องเที่ยวในทุกฤดู เพราะไม่มีพายะทะเลทราย หรือพายุหิมะในบริเวณดังกล่าวครับ

 

Cr. plodlock.com

 

นอกเหนือจากธรรมชาติที่แสนงดงามแล้ว เขาอู่ตังยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ อาทิเช่น วังจี่อเซียวกง หรือ วังเมฆสีม่วง เป็นสถานที่ที่จำลองสถาปัตยกรรมแบบพระราชวังกู้กง ไม่ว่าจะเป็นกำแพง ตำหนัก บันได โครงสร้างของสถาปัตยกรรม แสดงให้เห็นถึงความรุ่งโรจน์ของราชวงศ์หมิงอีกด้วย

 

Cr. zh.wikipedia.org

 

ตำหนักจวนหวิน หรือ ตำหนักไท่จื่อ เป็นตำหนักที่ถูกออกแบบในลักษณะพิเศษ ไม่เหมือนตำหนักโดยทั่วไป โดยการออกแบบจะออกแบบตัวตำหนักขยายออกทางด้านข้าง (ด้านซ้ายและด้านขวา) ไม่ออกแบบตามลักษณะตำหนักทั่วไปที่จะเน้นการสร้างเป็นแนวตรงลึกเข้าไป นอกจากนี้ตำหนักจวนหวินตั้งอยู่บริเวณไหล่เขา ทางเดินเข้าตำหนักจึงมีลักษณะคดเคี้ยว มีลักษณะเป็นกำแพงเก้าโค้ง คล้ายคลึงกับกำแพงสะท้อนเสียงที่หอบูชาฟ้าดินเถียถานอีกด้วยครับ

 

ป้อมโกเรียวคาคุ FORT GORYOKAKU

 

Cr. japanontour.com

 

ป้อมโกเรียวคาคุ หรือ ป้อมดาวห้าแฉก ตั้งอยู่ที่เมือฮาโกดาเตะ จังหวัดฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น ถูกสร้างขึ้นโดยโชกุนตระกูลโทกุงาวะ และยังเป็นฐานที่มั่นสุดท้ายของทหารโทคุงาวะ (ซามุไร) ซึ่งเป็นยุคสุดท้ายของระบบโชกุน ความพ่ายแพ้ของผู้สำเร็จราชการโทคุงาวะในสงครามดังกล่าว ก่อให้เกิดการจัดตั้งรัฐบาลเมจินั่นเองครับ

 

Cr. hakodate.travel

 

ในปัจจุบันป้อมโกเรียวคาคุถูกดัดแปลงให้กลายเป็นสวนสาธารณะประจำเมือง และจุดชมซากุระที่มีชื่อเสียงเป็นอัดดับต้น ๆ ของฮอกไกโด โดยมีต้นซากุระกว่า 1,600 ต้น หรือจะชมความงามของป้อมโกเรียวคาคุจากมุมสูงก็ย่อมได้ครับ โดยเราสามารถชมความงามของป้อมโกเรียวคาคุได้โดยการชมจาก หอคอยโกเรียวคาคุ (GORYOKAKU TOWER)

 

Cr. great-towers.com

 

หอคอยโกเรียวคาคุ ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของป้อมโรเงียวกาคุ ถูกออกแบบมาให้เป็นจุดชมวิวสำคัญของเมืองฮาโกดาเตะ โดยในส่วนของจุดชมวิวสองชั้นบนสุดของหอคอยมีการออกแบบให้มีลักษณะเป็นทรง 5 เหลียม เพื่อให้มีความสรอดคล้องกับลักษณะของป้อมโกเรียวคาคุ

 

นอกจากนี้หอคอยโกเรียวคาคุยังมีส่วนจัดแสดงที่ให้ความรู้เกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของป้อมโกเรียวคาคุ ระบบโชกุน และเรื่องราวของซามูไรอีกด้วย โดยการเข้าชมหอคอยโกเรียวคาคุมีค่าบริการดังนี้ครับ

 

–      ผู้ใหญ่ 840 เยน  (ประมาณ 240 บาท)

–      นักเรียน 630 เยน  (ประมาณ 180 บาท)

–      เด็ก 420 เยน  (ประมาณ 120 บาท

–      เด็กอายุต่ำกว่า 5 ปีเข้าฟรี

 

ด้วยอัตราค่าบริการนี้ถือว่าคุ้มค่ามาก ๆ ครับ กับการชมความสวยงามของป้อมโกเรียวคาคุ และเมืองฮาโกดาเตะ อีกทั้งยังได้รับความรู้อีกมากมายเลยทีเดียว

 

เป็นอย่างไรบ้างครับกับสถานที่ท่องเที่ยวที่เต็มไปด้วยประวัติและเรื่องราว อีกทั้งยังมีดีไซน์และเอกลักษณ์เฉพาะตัวอีกด้วย หวังว่าจะถูกใจผู้อ่านทุกท่านนะครับ หน้าร้อนนี่ถ้ามีโอกาสก็อยากให้ทุกท่านได้เดินทางไปท่องเที่ยวคลายร้อนให้สบายใจนะครับ สวัสดีครับ 🙂

 

– เฉพาะกิจ-

อ้างอิง

น้ำพุเทรวี่
www.walksofitaly.com
www.romawonder.com
italiannotes.com
www.adequatetravel.com

 

Dole Plantation Pineapple Maze
www.deviatingthenorm.com
www.themodernhonolulu.com
www.jphs.org
worldkings.org

 

เขาอู่ตัง
baike.baidu.com
loloto.pixnet.net
plodlock.com
www.oceansmile.com

 

Fort Goryokaku
www.japan.travel
www.talonjapan.com
www.visit-hokkaido.jp
www.city.hakodate.hokkaido.jp
www.goryokaku-tower.co.jp