ธรรมชาติที่เราต่างโหยหานับวันยิ่งสัมผัสได้ยากมากขึ้น และด้วยไลฟ์สไตล์ของคนในปัจจุบันที่เปลี่ยนไป มีวิถีชีวิตที่เร่งรีบแสวงหาความสะดวกสบาย แถมยังมีจำนวนที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ต้องมีการโยกย้ายที่พักอาศัยเพื่อให้สะดวกต่อการดำเนินชีวิต เช่นการอยู่คอนโด หรือหอพัก ทำให้พื้นที่อาศัยถูกจำกัดและคับแคบลง แล้วจะต้องทำอย่างไรให้ธรรมชาติกลับมาอยู่ใกล้ๆเพียงเอื้อมมือ

      พื้นที่อาศัยที่คับแคบก็เหมือนกับการจำกัดพื้นที่ของธรรมชาติไปด้วย แต่เรายังมีวิธีที่จะคืนความสดชื่นผ่อนคลายให้กับที่พักอาศัยของเรา ด้วยการย่อระบบนิเวศไว้ในพื้นที่ที่เราต้องการ นั่นคือ Terrarium นั่นเอง เจ้า Terrarium นั้นเป็นเหมือนตัวช่วยที่ช่วยย่อธรรมชาติให้เข้ามาใกล้ชิดเราได้ง่ายขึ้น เรียกได้ว่าเป็นสวนที่เราสามารถปลูกได้ด้วยตัวเอง ดูแลเอง และยังสามารถเคลื่อนย้ายหรือมอบเป็นของขวัญได้อีกด้วย เชื่อว่าแฟนๆชาวบาริโอเริ่มจะสนใจเจ้า Terrarium มากขึ้นแล้วใช่ไหมคะ? และถ้ายิ่งได้รู้จักจะต้องยิ่งตกหลุมรักจนต้องพรรณนาเพ้อหา Terrarium ที่รักอย่างแน่นอนค่ะ

 

 

      Terrarium เป็นภาษาทางวิทยาศาสตร์ แปลว่า ระบบนิเวศในภาชนะใส ซึ่งไม่จำเป็นจะต้องเป็นแค่แก้ว แต่สามารถเป็นภาชนะชนิดใดก็ได้ที่มีคุณสมบัติใส สาเหตุที่ต้องเป็นภาชนะใส เนื่องจากระบบนิเวศที่เราจะทำการใส่เข้าไปในพื้นที่ที่เรากำหนดไว้ จะมีทั้ง ดิน อากาศ และต้นไม้ ต้นไม้มีความจำเป็นที่จะต้องสังเคราะห์แสง ถ้าเป็นภาชนะที่มีความทึบ ส่งผลให้การสังเคราะห์แสงผิดเพี้ยนและจะทำให้ต้นเจริญเติบโตผิดปกติหรือไม่โตเลยก็เป็นได้ค่ะ

 

 

      Terrarium เกิดขึ้นมานาน 200-300 ปีก่อน ประมาณยุคโรแมนติก โดยนักวิทยาศาสตร์ชาวยุโรปคนหนึ่ง ที่ต้องการจะศึกษาการเจริญเติบโตของผีเสื้อกลางคืนในแถบบ้านเราทั้งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมไปถึงแอฟริกา โดยยการเก็บตัวอย่างผีเสื้อใส่ไว้ในขวดแก้ว แล้วด้วยในสมัยอดีตที่การเดินทางข้ามทวีปจะต้องเดินทางด้วยเรือในเวลาหลายเดือน เมื่อกลับมาถึงยุโรปนอกจากจะได้พบว่าผีเสื้อกลางคืนยังไม่ตาย นอกจากนั้นยังมีต้นไม้หรือวัชพืชที่ติดมาก็ยังไม่ตายแถมยังเจริญเจิมโตอีกด้วย ทำให้เขาเริ่มสังเกตุภายในขวดโหลมีละอองน้ำเกาะอยู่ จึงได้เป็นข้อสรุปว่าจริงๆแล้วภายในขวดโหลนั้นมีระบบนิเวศเป็นของตัวเองจนเป็นจุดเริ่มต้นของ Terrarium และยังมีการพัฒนาในขนาดที่ใหญ่ขึ้นมาเป็น Glass House ในเวลาต่อมา แต่ด้วยยุคสมัยที่เปลี่ยนไปทำให้ปัจจุบันคนเราอาศัยในพื้นที่ที่จำกัดกันมากขึ้น ห่างไกลธรรมชาติมากขึ้น จึงทำให้ Terrarium กลับมานิยมอีกครั้ง

ระบบของ Terrarium

      ระบบปิด (Closed Terrarium) เป็นสวนที่จัดในภาชนะแล้วปิดทิ้งไว้ 1-2 เดือนโดยไม่ต้องรดน้ำต้นไม้ ต้นไม้จะได้รับน้ำจากความชื้นที่กลั่นตัวเป็นไอน้ำ ทำให้เกิดความชุ่มชื้นภายในภาชนะอยู่ตลอดเวลา ต้นไม้ที่เหมาะกับระบบนี้ได้แก่ เฟิร์น มอส พรมออสเตรเลีย ริบบิ้นเขียว เป็นต้น

 

 

      ระบบเปิด (Open Terrarium) เป็นสวนที่จัดในภาชนะที่เปิดฝาทิ้งไว้  สวนระบบนี้ต้องให้น้ำถี่กว่าระบบปิด  ต้นไม้ที่เหมาะกับระบบนี้ได้แก่กระบองเพชร  ไม้อวบน้ำต่างๆ เช่นกุหลาบหิน  คุณนายตื่นสายญี่ปุ่น เป็นต้นโดยสิ่งที่เป็นตัวจำกัดระบบทั้ง 2 รูปแบบ คือ ต้นไม้ที่ใช้ปลูกภายในโดมแก้วว่าเป็นต้นไม้แบบที่ต้องการความชื้นในการเจริญเติบโตมาก หรือต้นไม้ที่ต้องการความชื้นในการเจริญเติบโตน้อย

 

 

 

     ในบทความ Terrarium ที่รักนี้ มีความพิเศษมามอบให้แฟนๆชาวบาริโอ โดยทางเราได้มีโอกาสสัมภาษณ์คุณจี๊ด ธัญญานันท์ ศรีชัยวรรณ อดีตกองบรรณาธิการนิตยสาร room, นิตยสารบ้านและสวน ณ สตูดิโอของคุณจี๊ดเอง ที่ได้ก่อตั้งเป็น บริษัท จี๊ดวันเดอร์ จำกัด  จังหวัดนครปฐม บรรยากาศล้อมรอบด้วยสวน อบอวลไปด้วยความร่มรื่น และยังมีการสาธิต การทำ D.I.Y. Terrarium จากคุณจี๊ดไว้อย่างเข้าใจได้ง่ายมาให้ชมกันอีกด้วยค่ะ

 

 

เตรียมอุปกรณ์

 

 

 

      และยังมีสิ่งที่สำคัญอีกหนึ่งอย่างในการทำนั่นก็คือ มอส มอสมี 3 ชนิดคือ มอสน้ำ มอสไม้ และมอสดิน ส่วนมอสที่เหมาะสมในการใช้ทำ Terrarium คือมอสไม้ เนื่องจากมอสไม้ต้องการพื้นที่ที่มีความชื้นและแสงไม่แรงมาก

 

 

ขั้นตอนการทำ Terrarium

      1.เริ่มจากการใส่ก้อนกรวดหรือก้อนหินที่เตรียมไว้ลงไปในชั้นแรก โดยใส่ให้เต็มก้นแก้วแต่ไม่ต้องสูงมาก เพื่อไม่ให้เปลืองพื้นที่อากาศภายในโหล

 

 

 

      2.ใส่ถ่านโดยใช้วิธีเดิม โดยใส่ลงไปแล้วไม่ให้เห็นก้อนกรวดและไม่ควรเขย่า

 

 

 

      3.ใส่ขี้เลื่อยต่อจากชั้นของถ่าน โดยใช้เทคนิคเดียวกันโรยขี้เลื่อยให้ทั่วจนมองไม่เห็นถ่าน และในขั้นตอนนี้สังเกตุได้ว่าจะเริ่มมองเห็นเป็นชั้นๆ

 

 

 

      4.ใส่ดิน ในขั้นตอนของการใส่ดินควรใส่ในปริมาณที่มากกว่าสามชั้นที่ผ่านมา โดยความสูงไม่ควรต่ำกว่าประมาณ 2 เซนติเมตร – 1นิ้ว และการใส่ดินสามารถออกแบบการใส่ได้ไม่จำเป็นต้องใส่เป็นชั้นเรียบๆ สามารถใส่ดินเป็นเนินหรือแนวราบได้ตามต้องการ

 

 

      5.เลือก sculpture เพื่อวาง เหมือนการเช็ค landscape เวลาจัดสวนว่าเราต้องการจะวางอะไรไว้ตรงไหน และหลังจากนั้นให้ใช้แท่งทดลองหรือตะเกียบเจาะช่องดินให้เป็นลักษณะกลม

 

 

      6. ใส่ต้นไม้ลงไปในช่องที่เจาะไว้ โดยวิธีการดึงต้นไม้ออกจากกระถาง ต้องมีการบีบนวดกระถางให้ดินร่อนออกมาด้วยเพื่อไม่ทำให้รากเสียหาย และเลือกหย่อนต้นไม้ลงไปในหลุม มีข้อแนะนำว่าควรใส่ต้นไม้ไปเพียงต้นเดียวก็เพียงพอเพราะจะทำให้ไม่รกจนเกินไป และต้นไม้จะไม่แย่งการเจริญเติบโตอีกด้วย

 

 

      เมื่อนำต้นไม้ใส่ไว้ในหลุมให้นำช้อนกดที่ดินเพื่อให้รากลงดิน และสิ่งสำคัญในการทำ Terrarium ก็คือความชิ้น ให้ใช้กระบอกฉีดน้ำฉีดให้น้ำโดยใช้วิธีฉีดไปที่ด้านข้างของโหลแก้วให้ทั่วเพื่อเป็นการทำความสะอาดรอบๆโหลแก้วไปในตัว และให้สังเกตุดินว่าต้องมีความฉ่ำและยังเป็นตัวสังเกตุได้ว่า Terrarium จะอยู่ได้รอดหรือไม่ คือความชุ่มชื้นของดินจะต้องฉ่ำอยู่ตลอดเวลา

      8.ใส่มอสลงไปปกคลุมดินและใช้แท่งทดลองหรือตะเกียบกดลงไป คุณสมบัติของมอสนอกจากช่วยให้สวยงามแล้วยังช่วยชะลอการระเหยของน้ำบนผิวดิน

 

 

      9.โรยหินกรวดเพื่อตกแต่งและยังมีคุณสมบัติช่วยกันความชื้นในผิวดินเช่นเดียวกับมอส และตามด้วยการฉีดน้ำอีกรอบเพื่อล้างเศษที่ติดตามข้างโหล และใช้ทิชชู่เช็กทำความสะอาดอีกครั้งนอกจจากจะทำให้ขวดเราใสแล้วทำให้เราสามารถสังเกตุละอองน้ำที่เกิดมาใหม่ได้ง่ายขึ้น

 

 

 

 

      10.ตกแต่งตามความต้องการ

 

 

ปิดฝาก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อยแล้วค่ะ  ไม่ยากเลยใช่ไหมคะ

 

 

 

การเลือกที่วางเทอราเรียม

      สวนเทอราเรียมก็เหมือนรูปปั้นหรือภาพวาด คือมีคุณสมบัติที่จะช่วยเพิ่มความเป็นศิลปะให้กับห้องต่างๆ เพราะฉะนั้นการเลือกที่วางสวนเทอราเรียมนั้น อาจจะเป็นบริเวณที่มีคนเดินผ่านไปมา และเป็นบริเวณที่มีคนสนใจ

      การเลือกสถานที่วางนั้นจะต้องคำนึงถึงความต้องการของต้นไม้ภายในเทอราเรียม เทอราเรียมจะชอบสถานที่ที่มีแสงส่องรำไร ที่สำคัญที่สุดคือต้องการแค่มีแสงสว่างที่เพียงพอที่จะสังเคราะห์แสงเพื่อสร้างอาหารและพลังงานแก่ต้นพืช หน้าต่างหรือประตูทางด้านทิศเหนือของห้องจะเป็นที่ที่เหมาะสมที่สุดที่จะได้แสงสว่างในร่ม ถ้าหากแสงแดดส่องโดยตรงไปยังเทอราเรียมจะทำให้เกิดการเพิ่มความร้อนในภาชนะขึ้นอย่างรวดเร็ว และจะทำให้พืชได้รับอันตรายได้

      ไอเดียการวาง Terrarium

 

 

 

 

      เชื่อว่าหลายๆท่านคงจะต้องตกหลุมรัก Terrarium กันไปเต็มๆอย่างแน่นอน มาคืนธรรมชาติให้กับตัวเราเองกันดีกว่าค่ะ ถ้าใครมีเวลาว่างๆลองฝึกทำ Terrarium ตามบทความนี้ดูบ้างก็ได้นะคะ หรือจะลองชวนคนในครอบครัวมาทำร่วมกันเป็นกิจกรรมสานสัมพันธ์ในครอบครัวได้อย่างดีเลยล่ะค่ะ

ขอขอบคุณข้อมูลและรูปภาพ
jeedwonder Co.,Ltd.
www.jeedwonder.com
www.houzz.com