กว่า 70 ปีที่คนไทยมีชีวิตร่มเย็นเป็นสุขอยู่ภายใต้ร่มพระบารมีของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 มากกว่า 65 ล้านดวงใจมีความจงรักภักดีต่อพระองค์ท่าน กษัตริย์ผู้ทรงอุตสาหะ และยอมลำบากทำทุกวิถีทางเพื่อให้ปวงชนชาวไทยอยู่ดีกินดีมาจนถึงทุกวันนี้ แม้ในปัจจุบันพระองค์จะเสด็จสวรรคตไปแล้ว แต่คุณงามความดีของพระองค์ท่าน “ธ สถิตในดวงใจไทยนิรันดร์”

      และเพื่อเป็นการน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) จึงได้จัดโครงการประกวดภาพประทับใจที่มีต่อในหลวง ภายใต้ชื่อ นิทรรศการศิลปกรรมช้างเผือก “ความสุขของคนไทย ใต้ร่มพระบารมี 70 ปี แห่งการครองราชย์

      ซึ่งนิทรรศการศิลปกรรมช้างเผือก “ความสุขของคนไทย ใต้ร่มพระบารมี 70 ปี แห่งการครองราชย์” จัดขึ้นโดยบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) นำเสนอผลงานจิตรกรรม ประติมากรรม ภาพพิมพ์และสื่อผสม ในรูปแบบเหมือนจริง ที่ได้รับรางวัลจากการประกวดศิลปกรรมช้างเผือก ครั้งที่ 6 ประจำปี พ.ศ. 2560 มีจำนวนผลงานที่ได้รับรางวัล 21 ชิ้นและผลงานร่วมแสดง 40 ชิ้น รวมจำนวนผลงานที่จัดแสดงในนิทรรศการทั้งสิ้น 61 ชิ้นงานจะถูกนำไปจัดแสดงที่ ที่หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร ณ ห้องแสดงงานชั้น 7 เริ่มตั้งแต่วันที่ 6 เมษายนที่ผ่านมา ไปจนถึง 2 กรกฎาคม 2560  และจะมีพิธีเปิดงานอย่างเป็นทางการในวันที่ 14 มิถุนายน นี้ ซึ่งได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีจะเสด็จพระราชดำเนินมาพระราชทานรางวัลและทรงเป็นประธานในการเปิดนิทรรศการค่ะ

 

      และวันนี้ Karuntee ก็มีโอกาสได้พาแฟนๆ บาริโอ ไปเที่ยวชมนิทรรศการในครั้งนี้ ขอบอกเลยว่าอิ่มเอมใจและเต็มไปด้วยความสุขที่ได้เห็นความรักของศิลปินทุกคนผ่านงานศิลปะที่เสมือนกับว่าพระองค์ท่านยังอยู่คู่กับคนไทยเสมอมา

      ครั้นไปถึงหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร ใครที่มีสำภาระติดตัวต้องนำไปฝากไว้ที่เคาน์เตอร์ก่อนนะจ้ะ เพื่อความสะดวกและสบายตัวของผู้เข้าชมงานจ้า….

 

      เมื่อขึ้นไปถึงชั้น 7 ณ ห้องจัดแสดง รูปภาพทั้งหลายได้จัดเรียงกันอย่างเป็นระเบียบเพื่อให้ผู้เข้าชม ดูง่ายสบายตา (ต้องขอย้ำนะคะว่า…..!!!  ขอความร่วมมือกับทุกคน งานนี้เน้นใช้ตาดู มืออย่าต้องนะคะ เอาไว้ให้คนที่มาชมทีหลัง เขาได้ดูผลงานที่สมบูรณ์ เหมือนที่ตอนที่เราดูเนอะ…^^ ) ซึ่งได้แบ่งโซนผลงานที่ได้รับรางวัลและส่วนของผลงานร่วมแสดงไล่เรียงกันตามลำดับ ภาพบรรยากาศภายในงานต้องบอกเลยว่าอบอวลไปด้วยความรักและความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 จากปวงชนชาวไทยที่มีตั้งแต่เด็กเล็กตัวน้อยๆ นักเรียน นักศึกษา บุคคลทั่วไป

 

 

      รวมไปถึงชาวต่างชาติไม่ว่าจะเป็นเชื้อสายเอเชีย เช่น จีน เกาหลี ฯลฯ หรือสัญชาติตะวันตก อเมริกา ฝรั่งเศส ต่างก็ทยอยเข้ามาชมกันอย่างไม่ขาดสายกับผลงานที่สะท้อนให้เห็นถึงพระปรีชาสามารถและพระราชกรณียกิจที่พระองค์ทรงทำเพื่อคนไทยมาโดยตลอด ซึ่งนักท่องเที่ยวหลายๆ คนที่เข้ามาชมงานบอกกับนักเขียนว่า “ชื่นชมในความรักของคนไทยที่มีต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 และศรัทธาต่อพระองค์ที่ทำเพื่อคนไทยได้มากมาย

 

 

      และนี่คือ ผลงานจากรางวัลช้างเผือก ที่สื่อถึงความรู้สึกคนไทยได้มากที่สุด ซึ่งเป็นภาพผลงานศิลปะเทคนิคเย็บปักชื่อ“ ยิ้มสยาม”  ของ นางสาวนิลยา บรรดาศักดิ์

 

 

      ยิ้มสยาม

      “ข้าพเจ้าได้รับแรงบันดาลใจจากภาพความทรงจำที่สำคัญที่สุดในประวัติศาสตร์ชาติไทยเมื่อประชาชนชาวไทยพร้อมใจสวมชุดสีเหลืองเพื่อเฝ้ารอรับเสด็จพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชรัชกาลที่ 9 เพื่อน้อมแสดงถึงความจงรักภักดีต่อพระองค์เหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้ข้าพเจ้ารู้สึกประทับใจเป็นอย่างมากจึงนำความทรงจำดังกล่าวมาสร้างสรรค์เป็นผลงานศิลปะผ่านเทคนิคการเย็บปักด้วยด้ายเพื่อน้อมแสดงถึงการผสานดวงใจของประชาชนชาวไทยเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันจารึกไว้เพื่อพระมหากษัตริย์ผู้ทรงเป็นที่รักยิ่งและพระองค์จะยังคงประทับอยู่ในดวงจิตของปวงชนชาวไทยตราบนิจนิรันดร์เพียงพระองค์แย้มสรวลปวงชนก็มีความสุข

      ส่วนชิ้นนี้เป็นรางวัล CEO Awards เป็นภาพที่ใช้วิธีการลงหมึกดำและสีอะคริลิคบนผ้าใบ ของ เด็กชายวชิรวิทย์ สามารถ  จัดได้ว่าเป็นผลงานระดับมืออาชีพแต่มีวัยวุฒิเป็นเพียงแค่เด็กอายุ 10 ขวบเท่านั้นเอง น้องเก่งมากจริงๆ ค่ะ เรียกว่าฝีมือขั้นเทพเลยก็ว่าได้

 

 

      พระราชาของเด็ก 10 ขวบ

      ในหลวงทรงงานหนักเพื่อให้ประชาชนของท่านมีความสุข อยู่ดีกินดี โดยโครงการในพระราชดำริของพระองค์จะอยู่คู่กับประชาชนตลอดไป ประชาชนของท่านจึงมีความสุข ในหลวงจะทอดพระเนตรเห็นความสุขของประชาชนจากสรวงสวรรค์ ในหลวงจะอยู่ในใจของผมตลอดไป ผมรักในหลวงครับ

      และรางวัลชนะเลิศ กับผลงานที่ชื่อ “ในดวงใจนิรันดร์” ของ นายจักรี คงแก้ว

 

 

      ในดวงใจนิรันดร์

      ผลงานภาพพิมพ์แกะไม้ภาพพระบรมฉายาสาทิสลักษณ์พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชพระมหากษัตริย์รัชกาลที่ 9 ผู้ทรงเป็นที่รักยิ่งของปวงชนชาวไทยโดยอัญเชิญชื่อบทเพลงพระราชนิพนธ์ลำดับที่ 37 ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ทรงพระราชนิพนธ์คำร้องภาษาอังกฤษด้วยพระองค์เองเป็นเพลงแรกมาเป็นชื่อผลงานเพื่อสื่อแสดงถึงการน้อมรำลึกถึงพระองค์ท่านผู้ทรงสถิตในดวงใจชาวไทยตราบนิจนิรันดร์

 

      รวมถึงผลงานรองชนะเลิศและชมเชยอื่นๆอีกมากมาย

รางวัลรองชนะเลิศ

นายณรงค์ชัย สิทธิวัฒนาพร

เทคนิค: สีอะคริลิคบนผ้าใบ

พระผู้ทรงทำให้พสกนิกรเป็นสุขทั่วหล้า

      “ตลอดระยะเวลาที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงครองราชย์ ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจนานัปการ เพื่อความอยู่ดีกินดีของพสกนิกร จวบจนปัจจุบัน พสกนิกรทุกหมู่เหล่าต่างสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้

รางวัลรองชนะเลิศ

นายชัยรัตน์แสงทอง

เทคนิค: สีอะคริลิคบนผ้าใบ

เมล็ดพันธุ์ของพ่อ

       “รัชกาลที่ 9 ทรงเป็นต้นแบบและให้หลักปรัชญาในการดำรงชีวิตตามวิถีเกษตรกรสู่ความพอเพียงอย่างลงตัวกับสภาพแวดล้อมของสังคมไทยซึ่งกลายเป็นเมล็ดพันธุ์ที่ดีงามแห่งการดำเนินชีวิตอันจะถ่ายทอดสู่พสกนิกรของท่านต่อไปไม่มีที่สิ้นสุดในภาพคุณตากับหลานชายคุณตามีรูปร่างอ้วนใหญ่ให้ความรู้สึกถึงความสมบูรณ์และหลานในชุดนักเรียนก็เป็นสัญลักษณ์ของการเรียนรู้ที่ได้แสดงออกถึงความจงรักภักดีด้วยการนำธงสัญลักษณ์มาปักการเก็บเมล็ดพันธุ์เพื่อเป็นต้นทุนของชีวิตในฤดูกาลใหม่ที่จะนำพาไปสู่ความสุขโดยมีหลานที่เปรียบเสมือนเมล็ดพันธุ์ของคุณตาร่วมเรียนรู้เรื่องราวของชีวิตและสร้างจิตสำนึกแห่งความกตัญญูแด่พระองค์ท่านด้วยเช่นกัน

รางวัลรองชนะเลิศ

นายสวัสดิ์สุวรรณปักษ์

เทคนิค: สีน้ำมันบนผ้าลินิน

ใกล้รุ่ง

      ข้าพเจ้าต้องการแสดงให้เห็นถึงหัวใจที่เป็นหนึ่งเดียวกันในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่มีมิตรภาพที่ดีต่อกันอย่างจริงใจการอยู่ร่วมกันของชาวไทยพุทธชาวไทยมุสลิมชาวไทยเชื้อสายจีนที่ยังคงดำเนินชีวิตและปฏิบัติภารกิจประจำวันตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงและช่วยเหลือซึ่งกันและกันถึงแม้จะเกิดสถานการณ์ความรุนแรงแต่คนไทยในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ยังคงไว้ซึ่งมิตรไมตรีมีจิตใจเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่มีความรักใคร่ความสามัคคีในหมู่คณะและในชาติเพราะเราอยู่บนผืนแผ่นดินไทยเดียวกันมีพระมหากษัตริย์ผู้ทรงเป็นศูนย์รวมจิตใจพระองค์เดียวกันที่ช่วยให้บ้านเมืองอยู่รอดเป็นอิสระและมั่นคงมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน

รางวัลรองชนะเลิศ

นายนันทพงศ์สินสวัสดิ์

เทคนิค: ริบบิ้นผ้า

สุขที่เปลี่ยนทุกข์ความทรงจำแห่งแผ่นดินธรรมที่ ๙

     “ภาพที่จารึกอยู่ในห้วงความทรงจำตลอดระยะเวลา 70 ปีแห่งรัชสมัยรัตนโกสินทร์ที่ 9 คือพระราชาและพระราชินีที่ทุ่มเทพระวรกายและพระราชหฤทัยบำเพ็ญพระราชกรณียกิจเพื่อดับทุกข์ในจดหมายฎีการ้องทุกข์ที่ท้วมท้นมหาศาลจากราษฎรทรงทำให้ทุกอณูของแผ่นดินได้เรียนรู้ถึงการให้และความเมตตาซึ่งกันและกันเพื่อประโยชน์สุขอันยั่งยืนแห่งเหล่ามหาชน

 

รางวัลรองชนะเลิศ

นายเทพพงษ์หงษ์ศรีเมือง

เทคนิค: ภาพพิมพ์แกะไม้

 

      ประชาชนของพระราชา

      “ทำไมคนไทยทุกคนถึงรักในหลวงเพราะคนไทยถือว่าสถาบันพระมหากษัตริย์มีความสำคัญที่สุดในหลวงพระราชทานหลักในการทรงงานให้แก่ประชาชนคนไทยทุกหมู่เหล่าแม้แต่ผู้คนใช้แรงงานในระดับรากหญ้าก็สามารถนำหลักคำสอนของพระองค์มาปรับใช้ให้สอดคล้องกับวิถีชีวิตได้ส่งผลดีต่อการแก้ไขปัญหาความยากจนของประชาชนให้ประชาชนสามารถพึ่งพาตนเองได้พร้อมที่จะยกระดับชีวิตของตนเองให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นข้าพเจ้าจึงนำวิถีชีวิตของประชาชนรากหญ้ามาถ่ายทอดให้เห็นถึงความรักที่ประชาชนมีต่อพระองค์แสดงให้เห็นว่าประชาชนทุกหมู่เหล่ารักพระองค์และมุ่งมั่นที่จะดำเนินรอยตามพระราชดำริของพระองค์ทุกประการ

 

      ผลงานร่วมแสดงกับผลงานที่มีชื่อว่า:คู่มือพัฒนาความยากจน, พลังศรัทธา, กษัตริย์ผู้สร้างลมสร้างฝน, สุขสงบร่มเย็นใต้ร่มพระบรมโพธิสมภาร, 2512 – 2559 ดอยสะอื้นหมายเลข 2, ส่งความสุข, แสงจากพ่อ, ต้นแบบแห่งความดี, ในหลวงในกลางใจราษฎร์, ความอุดมสมบูรณ์แห่งความพอเพียง,ถึง…พ่อและยังมีผลงานจากศิลปินท่านอื่นๆอีกมากหน้าหลายตาที่ต่างส่งต่อความสุขของคนไทย ใต้ร่มพระบารมี 70 ปี แห่งการครองราชย์ด้วยเทคนิคงานศิลป์แขนงต่างๆ

 

 

      นับเป็นผลงานฝีมือคนไทยที่ถ่ายทอดความรู้สึกออกมาเป็นภาพวาดได้เป็นอย่างดี และแต่ละภาพที่จัดแสดงนั้นเราเชื่อว่ามันเต็มไปด้วยจิตวิญญาณของความรักภักดี ที่ผู้วาดสื่อแทนคนไทยทั้งประเทศผ่านลายเส้นและสีน้ำมันเหล่านั้น ทำให้คนมองเข้าใจภาพวาดได้อย่างลึกซึ้งเช่นกัน

      นิทรรศการศิลปกรรมช้างเผือกครั้งที่ 6 จะจัดแสดงณห้องแสดงงานชั้น 7 หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร ตั้งแต่วันที่ 6 เมษายน – 2 กรกฎาคม 2560 เวลา 10.00 – 21.00 น.

      สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
กรุณาติดต่อ  0-2422-2092 (ปิดวันจันทร์)

 

 

 

ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพเพิ่มเติมจาก

หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร

https://www.facebook.com/TheWhiteElephantArtAward