สวัสดีเดือนสิงหาคมคะทุกๆท่าน New Project กลับมาพบแฟนๆชาวบาริโอกันอีกเช่นเคย ถ้าใครที่ได้ติดตามเรื่องราวงานออกแบบของทางบาริโอมาอยู่ตลอด คงจะเต็มอิ่มกับงานออกแบบในสไลต์คลาสสิคสุดหรูและอบอวลไปด้วยบรรยากาศสุดโรแมนติก ต่อเนื่องกันมาถึง 2 เดือนเลยทีเดียว

      New Project ประจำเดือนสิงหาคมนี้ ขอเปลี่ยนบรรยากาศจากสไตล์คลาสสิคสุดหรู มาสู่บ้านแสนรักแสนอบอุ่นกันบ้างนะคะ บ้านแสนรักหลังนี้ เป็นบ้านของผู้บริหารธนาคารเพื่อเป็นที่พักอาศัยสำหรับคู่สามี-ภรรยา ซึ่งทั้งคู่ชื่นชอบงานออกแบบที่ดูเรียบร้อยแต่เท่ เปี่ยมไปด้วยลูกเล่นและประโยชน์ใช้สอยแฝงอยู่อย่างครบครัน

 

 

      เมื่อได้ก้าวเข้ามาในตัวบ้านจะพบกับบรรยากาศแสนอบอุ่น มาพร้อมกับดีไซน์ที่เก๋ไก๋พร้อมฟังก์ชั่นต่างๆ ที่ซ่อนอยู่ในทุกส่วน เริ่มจากผนังส่วนนี้เป็น Multi-Function Cabinet ที่แบ่งสัดส่วนตามความยาวตู้ เริ่มจากมุมด้านใน ที่เป็นทั้งตู้เก็บรองเท้าและตู้โชว์ที่ด้านบน แถมบริเวณนี้ยังเปรียบเสมือนมุมต้อนรับของบ้าน เป็นมุมแรกที่ผู้มาเยือนจะได้พบหลังจากก้าวผ่านประตูเข้ามา  มุมนี้มิใช่เพียงมุมใช้สอยที่ธรรมดา เพราะถูกสร้างสรรค์ด้วยความใส่ใจในประโยชน์ของการใช้งานที่หลากหลาย ควบคู่ไปพร้อมๆกับความสวยงาม เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ของเจ้าของบ้านได้เป็นอย่างดี ใช้กระจกเงาติดผนังยาวจนรับกับมุมของบ้าน และยังเป็นจุดดึงสายตาด้วย Graphic Design อันเป็นเอกลักษณ์อย่างหนึ่งของทีมออกแบบของ Bareo โดยใช้วงกลมโปร่งสลับทึบเรียงต่อกันเป็นแถว สลับด้วยสีขาวและทองอย่างมีชีวิตชีวา นอกจากนี้ กระจกเงาบานใหญ่ยังใช้ในการตรวจความเรียบร้อยของการแต่งตัว ก่อนออกจากบ้านได้อีกด้วย

 

 

      ถัดมาทางขวามือจะพบกับห้องรับแขก ซึ่งสไตล์งานตกแต่งส่วนของห้องรับแขกนี้ เป็นแบบ Modern Chic เน้นความเรียบง่ายแต่ซ่อนความเก๋ของงาน Design ไว้อย่างลงตัว โดยส่วนของผนัง TV ถือเป็นจุดโชว์ของบ้านนี้ ออกแบบโดยใช้เส้นสายที่บางเบา เรียบง่าย สร้างความพิเศษด้วยการเพิ่มลูกเล่นต่างๆ ไว้มากมาย เช่น ผนัง TV ที่ Design ให้ยุบตัวลง ต่างระดับกัน ภายในช่องทำสีม่วง (ตามสีของธนาคารที่เจ้าของบ้านทำงานอยู่) ตัดกับคิ้วสแตนเลสที่ติดรอบกรอบโทรทัศน์ ทำให้ดูหรูหรายิ่งขึ้น ผนังกระจกเงา Design เพื่อเพิ่มมิติของบ้านให้ดูกว้างขึ้น รวมไปถึงเพิ่ม detail ลายกราฟิคที่มีกลิ่นอายของ Art Deco

      ยังไม่หมดเพียงเท่านั้น เพราะยังมีไอเดียความสร้างสรรค์ของดีไซน์เนอร์ที่มีมาให้อย่างจัดเต็ม ทางด้านซ้ายมือของตู้จะเป็นชั้นโชว์ และหิ้งพระที่มีฟังก์ชันในการซ่อนถาดไม้ที่สามารถเลื่อนเข้า – ออกมาได้ เพื่อถวายของบูชาในเวลาที่ต้องการไหว้พระ ในขณะที่ทางด้านขวามือเป็นชั้นวางของที่เพิ่มความมีระดับโดยการพ่นสีทอง แต่งเติมด้วยการติดสแตนเลสเป็นกรอบรอบชั้นวางของ กลายเป็นลูกเล่นที่แปลกตาในงานออกแบบชิ้นนี้

 

 

      ถัดมาจากห้องรับแขกจะเป็นส่วนของห้องรับประทานอาหาร ซึ่งจัดสรรพื้นที่โดยใช้ตู้โชว์โปร่ง กั้นแยกออกจากโซนรับแขก โดยจะเน้นการออกแบบที่ใช้เส้นสายที่เรียบง่าย โปร่งสบาย ภายใต้กรอบสี่เหลี่ยมสีทอง เพื่อใช้วางประติมากรรมชิ้นเอกของบ้าน และมีชั้นกระจกใสด้านข้างเพื่อวางของสะสมอย่างละเล็กอย่างละน้อย ในขณะที่ตู้ส่วนล่าง จะออกแบบให้มีช่องสำหรับวางหนังสือ เวลาที่นอนเล่นบนโซฟาจะสามารถหยิบมาอ่านได้ง่าย

      ส่วนมุมของห้องรับประทานอาหารตรงมุมนั้น ถือเป็นจุดที่สวยที่สุดของบ้านเลยก็ว่าได้ เพราะด้วยองค์ประกอบจากงานดีไซน์และจากธรรมชาติ ที่ช่วยเกื้อหนุนกันจนทำให้มุมนี้เกิดความสวยงามอย่างหลากหลาย เมื่อมองออกไปทางหน้าต่างด้านขวาที่เปิดกว้างจะสามารถมองเห็นสวนสวยๆ โดย Designer จะจัดเป็นชุดม้านั่งยาว พร้อมเบาะหุ้มหนังลายผ้าไหมสีครีม เพื่อให้เป็นจุดสังสรรค์ยามมีแขกมาเยือนได้อย่างสบาย และใต้ม้านั่งยังออกแบบให้เป็นลิ้นชักเพื่อใช้เก็บของทั่วไปได้โดยสะดวก พร้อมเติมความโดดเด่นด้วยคิ้วสแตนเลสคาดยาวใต้เบาะที่นั่ง รับกับชุดโต๊ะรับประทานอาหารแบบ Scandinavia

 

 

 

      มาถึงส่วนของ Pantry ซึ่งจะถูกกั้นแบ่งอย่างเป็นสัดส่วน ต่อกับส่วนทานอาหาร โดยด้านนอกผนังส่วนนี้จะเป็นส่วนของมุมต้อนรับที่ได้กล่าวไปข้างต้น ในขณะที่ตู้กลางจะกลายเป็นตู้เก็บ Stock อาหารแห้งหรือเครื่องปรุง เพื่อตอบรับกับชีวิตสมัยใหม่ ที่ไม่จำเป็นต้องออกไปจ่ายตลาดทุกวัน และยังมีเป็นพื้นที่สำหรับวางตู้เย็นขนาดใหญ่ได้อีกด้วย

      ภายใน Pantry ยังคงความ Chic ด้วยการเล่นสีส้มแมนดาริน (MANDARIN ORANGE) และลวดลายทรงเรขาคณิต เล่นสลับสีกันอย่างสวยงาม เพื่อส่งเสริมตู้ครัวแบบ Full Function ภายใต้โทนสีขาว – ครีมลายไม้

 

 

 

      ห้องสุดท้ายของชั้นล่างคือห้องนอนคุณยาย ที่ทางครอบครัวแสนรักนี้ยังคงไว้ซึ่งเอกลักษณ์ที่ทรงคุณค่าของวัฒนธรรมไทยที่เป็นครอบครัวขยายและอยู่ร่วมกันถึง 3 Generations โดยห้องนอนคุณยายนี้จะถูกออกแบบให้เป็นห้องที่อยู่ชั้นล่าง เพื่อให้สะดวกสำหรับผู้สูงอายุ

 

 

      ห้องนอนห้องนี้ จะใช้โทนสีเขียวเย็นตาเป็นสีหลัก และออกแบบตัวที่นอนให้เลียนแบบลักษณะของตั่งในสมัยก่อน ที่สามารถใช้งานได้ทั้งนั่งและนอน พรั่งพร้อมไปด้วยประโยชน์ใช้สอยครบถ้วน ตั้งแต่ตู้เสื้อผ้าที่มีชั้นโชว์ด้านข้าง, โต๊ะอ่านหนังสือที่ปรับเป็นโต๊ะแต่งตัวได้ และชั้นวางของติดผนังที่มีพื้นหลังเป็นลายเหรียญทองแบบจีน เพื่อเป็นศิริมงคลอีกด้วย

 

 

      พักเดินขึ้นบันไดมาชมชั้น 2 ของบ้านกันบ้างค่ะ ภายในชั้นบนของตัวบ้าน จะพบกับ Master Bedroom ห้องนอนใหญ่ ออกแบบด้วยโครงสีม่วง – ขาว อันเป็นสีโปรดของเจ้าของบ้านหญิง และทำให้ห้องดูสว่าง กว้าง สบายตา โดยผนังหัวเตียงได้ออกแบบภายใต้แนวคิดใหม่ ที่ต้องการให้ Headboard นอกจากจะใช้เป็นผนังหัวเตียงแล้ว ยังจะเป็นงานศิลปะสมัยใหม่ ที่ดูโดดเด่นสะดุดตา

      นอกจากนี้แล้ว Designer ยังได้เพิ่มลูกเล่น โดยการเชื่อมต่อผนังหัวเตียง และตู้โทรทัศน์ปลายเตียงด้วยแถบเส้นสีทองบนฝ้าเพดาน ทำให้เกิดมิติที่ต่อเนื่องกันภายในห้อง และเนื่องจาก Headboard มีส่วนที่ยื่นเกินจากผนังออกมาเล็กน้อย ทาง Designer จึงได้จัดให้มีชั้นโชว์กระจกใสบางๆ ไว้สำหรับวางของสะสมชิ้นน้อยได้อีกด้วย

 

 

      ผนังส่วน โทรทัศน์จะถูกออกแบบให้เป็นรูปคล้ายตัว C เพื่อทำให้ห้องดูยาว และเพิ่มประโยชน์ใช้สอยให้กับชิ้นงาน ภายใต้สีม่วงขาวที่สะอาดตา และขับให้ตู้ดูลอยเด่นออกมาด้วยแสงไฟ LED ที่ซ่อนอยู่ด้านหลังของตู้อย่างกลมกลืน

 

 

      สลับมาอีกด้านของ Master Bedroom จะเป็นมุมแต่งตัว และ Walk-in Closet เป็นมุมที่ Designer พิถีพิถันมากอีกมุมหนึ่ง โดยจะออกแบบให้เป็นตู้เสื้อผ้ารูปตัวแอล โดยตู้ด้านยาวจะออกแบบให้เป็น 3 ตอน สำหรับเจ้าของบ้านหญิงและชายแยกกันเพื่อการใช้งานที่สะดวก ในขณะที่ตู้บานเลื่อนที่อยู่ตรงกลาง จะใช้เป็นตู้เก็บกระเป๋า, ของมีค่า และลิ้นชักสำหรับเก็บของใช้ต่างๆ

      การออกแบบให้เป็นตู้ที่มีบานแบบผสมนี้ เป็นแนวความคิดที่แปลกใหม่ โดยมีจุดประสงค์เพื่อให้เจ้าของบ้านทั้งสอง สามารถใช้งานตู้ได้พร้อมกันเสมอ ไม่ว่าจะเปิดบานชุดไหน เจ้าของบ้านอีกท่านหนึ่ง ก็สามารถเปิดบานในส่วนตู้กลาง หรือตู้ของตนเองได้ตลอดเวลา

 

 

      ถัดจากตู้ชุดยาว จะเป็นบริเวณของโต๊ะแต่งตัวที่ทำมุมเป็นตัวแอล ออกแบบให้มีช่องโล่งสำหรับแขวนเสื้อผ้าที่ต้องการใช้ซ้ำ เช่น ยีนส์ หรือชุดออกงานกลางคืน โดยไม่ปะปนกับเสื้อผ้าใหม่ภายในตู้ ซึ่งโต๊ะแต่งตัวเป็นตู้ที่ออกแบบไปพร้อมกับ Partition ที่มีลายเป็นวงกลมสีทองหลายขนาดวางซ้อนกัน เรียงเป็นผนังกั้นโปร่ง ซึ่งนอกจากมีประโยชน์ทางด้านการตกแต่งแล้ว ยังใช้แก้ฮวงจุ้ยของมุมห้องน้ำที่เกิดขึ้นจากงานสถาปัตยกรรมอีกด้วย

 

 

      ปิดท้ายด้วยห้องที่เปี่ยมไปด้วยความมีชีวิตชีวาของบ้านแสนรักสุดอบอุ่น ห้องนอนของลูกชายวัย 6 ขวบ เจ้าของบ้านทั้งสองท่าน ตั้งใจจะให้เป็นห้องที่เติบโตไปพร้อมๆกับลูกชายวัยซนได้ ดังนั้นงานออกแบบจึงต้องจัดแบ่ง Zoning และ Planning เพื่อรองรับการใช้งานในอนาคตได้อย่างลงตัว และเนื่องจากเด็กวัยนี้ ยังเป็นวัยช่างฝัน ดังนั้น งานออกแบบจึงมาใน Theme ของโจรสลัด ตู้และเฟอร์นิเจอร์ภายในห้อง จึงต้องดึงเอาอารมณ์ของเรือกัปตันฮุค โจรสลัดคนดังมาใส่ไว้ในห้องนี้ เพื่อให้กลมกลืนและการตกแต่งไปในทิศทางเดียวกัน ในส่วนต่างๆภายในห้องก็จะเป็น Theme เดียวกันทั้งหมด

 

 

      และยังเน้นการจัดสรรพื้นที่เพื่อให้ตอบสนองต่อประโยชน์การใช้สอยต่างๆ ตั้งแต่ ตู้เสื้อผ้า, ตู้ลิ้นชักทรงเรือ ที่พ่วงความพิเศษด้วยเชือกตาข่าย สำหรับปีนป่าย, ตู้วางโทรทัศน์ที่ใช้แบ่งห้องให้ด้านหลังกลายเป็นเบาะสำหรับนั่งเล่น หรือนอนเล่นได้ พร้อมทั้งช่องสำหรับมุดลอด ที่จะกลายเป็นโต๊ะเขียนหนังสือในอนาคตเมื่อโตขึ้น แถมด้วยแผนที่เกาะมหาสมบัติขนาดใหญ่ภายในห้อง ช่วยเสริมสร้างจินตนาการให้ก้าวไกล

 

 

      และช่องสำหรับมุดลอดบริเวณตู้ทีวีที่พามาพบกับดินแดนส่วนตัวทางด้านหลัง เลือกที่จะใช้เบาะที่มีความนิ่มวางปูแทนพื้นโล่งเพื่อรองรับขณะนั่งหรือนอนเล่นได้ กลายเป็นมุมแห่งการเรียนรู้ ที่จะปล่อยให้ความคิดตามจินตนาการของเด็กน้อยโลดแล่นได้อย่างเต็มที่ และเนื่องจากเป็นมุมที่แสงส่องผ่านได้อย่างดีทำให้มุมนี้ไม่เกิดความอึดอัด สามารถนั่งเล่นได้อย่างสนุกสนานทั้งวัน

      เรียกได้ว่าสมกับเป็นบ้านแสนรักจริงๆค่ะ มีหลากหลายบรรยากาศรวมอยู่ในบ้านหลังเดียวกัน หวังว่าทุกท่านที่ได้เข้ามาอ่านแล้ว จะรู้สึกได้ถึงความอบอุ่นใจที่มีอยู่ในบ้านหลังนี้ และต้องทึ่งกับการจัดสรรพื้นที่ของดีไซน์เนอร์ ที่สามารถจัดการแบ่งพื้นที่ที่มีอยู่อย่างจำกัด ให้ใช้ประโยชน์ได้หลากหลายมากกว่าที่คิดและลงตัวสุดๆ ในเดือนต่อไปจะพบกับเรื่องราวงานออกแบบในลักษณะใดอย่าลืมติดตามกันนะคะ แล้วพบกันใหม่ในเดือนหน้า สวัสดีคะ ….