สวัสดีค่ะแฟนๆบาริโอที่น่ารักของ Sprite ไม่เจอกันตั้งเดือนนึงคิดถึงกันบ้างรึป่าวคะ? ส่วนตัว Sprite เลยขอบอกเลยว่าคิดถึงแฟนๆ บาริโอที่สุดเลย อยากพาไปเที่ยวใจจะขาดอยู่แล้ว..นั่นแน่!! อยากรู้แล้วใช่มั้ยล่ะคะ ว่ากลับมาคราวนี้ Sprite จะพาแฟนๆบาริโอไปเที่ยวที่ไหน? ถ้าอยากรู้ รีบหยิบกระเป๋าคู่ใจ แล้วตามมาแล้วจ้า... ครั้งที่แล้วเราได้พาแฟนๆบาริโอไปเที่ยวชมบ้านคุณจิม ทอมป์สัน ซึ่งเป็นบ้านทรงไทยที่อยู่ใจกลางกรุงเทพฯกันแล้ว ครั้งนี้ก็ยังขอคงคอนเซปต์เดิมอยู่ค่ะ แต่ที่ที่ Sprite จะพาไปในวันนี้นั้น ขอบอกเลยค่ะ ว่าความเป็นมาของสถานที่นั้นไม่ธรรมดาจริงๆค่ะ เพราะเป็นวังเก่าแก่ที่ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 เลยล่ะค่ะ แค่พูดอย่างเดียวคงจะไม่เห็นภาพกันใช้มั้ยคะ ถ้าอย่างนั้น Sprite ขออนุญาตพาไปศึกษาประวัติความเป็นมาคร่าวๆกันเลยดีกว่าค่ะ...
|
|
วังสวนผักกาดแห่งนี้เคยเป็นที่ประทับของพลตรี พระเจ้าวรวงศ์ พระองค์เจ้าจุมภฏพงษ์บริพัตร กรมหมื่นนครสวรรค์ศักดิพินิต หรือเสด็จในกรมฯ พระราชนัดดา (หลาน) ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5) และพระชายา คือ ม.ร.ว.พันธุ์ทิพย์ บริพัตร หรือ “คุณท่าน” ค่ะ ต่อมาภายหลังจากท่านตัดสินพระทัยว่าจะย้ายเข้ามาพักอาศัยในวังนี้ จึงสร้างตำหนักและย้ายมาอยู่เป็นการถาวรในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยวังนี้ได้ชื่อว่า “วังสวนผักกาด” เนื่องจากเดิมพื้นที่แห่งนี้เคยเป็นสวนผักกาดของคนจีนมาก่อนค่ะ “เสด็จในกรมฯ” ใช้เรือนไทยที่ได้รับเป็นมรดกตกทอดมาจากบรรพบุรุษที่มีอายุมากกว่า 100 ปี เป็นสถานที่ที่ใช้รับรองแขกและจัดแสดงของสะสมที่มีความสวยงามบางชิ้นได้รับเป็นมรดกตกทอดมาจากพระบิดา คือ จอมพลเรือ จอมพลสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธ์ กรมพระนครสวรรค์วรพินิต หรือ ทูลกระหม่อมบริพัตรฯ พระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5) และสมเด็จพระนางเจ้าสุขุมาลมารศรี พระอัครราชเทวี และบางชิ้นก็ได้สะสมเพิ่มเติมกันมาเป็นลำดับค่ะ ต่อมา “คุณท่าน” เปิดโอกาสให้บุคคลภายนอกเข้าเยี่ยมชมบ้านของท่านได้ อาจกล่าวได้ว่าเป็นบ้านแห่งแรกที่เปิดให้ผู้อื่นเข้าชมบ้านขณะที่เจ้าของบ้านยังใช้เป็นที่พักอาศัยอยู่ก็ว่าได้ค่ะ โดย “คุณท่าน” เชื่อว่าโบราณวัตถุที่ท่านสะสมนั้นไม่ได้เป็นแค่ทรัพย์สินของท่านแต่ยังถือว่าโบราณวัตถุเหล่านี้เป็นมรดกตกทอดของมนุษยชาติ ท่านจึงไม่ควรเก็บไว้ชมคนเดียว และเปิดโอกาสให้ผู้อื่นสามารถเข้ามาศึกษาและชมโบราณวัตถุในบ้านของท่านได้ นี่คือความเป็นมาของพิพิธภัณฑ์วังสวนผักกาดค่ะ ซึ่งจนทุกวันนี้วังสวนผักกาดยังคงมีลักษณะการจัดแสดงและตกแต่งเหมือนบ้านมากกว่าเป็นพิพิธภัณฑ์ ปัจจุบันวังสวนผักกาดได้อยู่ในความดูแลของมูลนิธิจุมภฏ-พันธุ์ทิพย์ ซึ่งเป็นองค์กรการกุศลที่ “คุณท่าน” ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ. 2511 เพื่อส่งเสริมในด้านการศึกษา การอนุรักษ์ด้านศิลปวัฒนธรรมค่ะ วังสวนผักกาดแต่เดิมมีสิ่งปลูกสร้าง ได้แก่ เรือนไทยหลังที่ 1-4 , หอเขียน , ตำหนัก และเรือนสำหรับผู้รับใช้พระองค์ท่าน ต่อมามีการปลูกเพิ่มเติม ได้แก่ เรือนไทยหลังที่ 5-8 และศิลปาคารจุมภฏ-พันธุ์ทิพย์ ซึ่งเปิดใช้ในปี พ.ศ. 2539 พื้นที่บริเวณชั้น 2 จัดแสดงโบราณวัตถุในวัฒนธรรมบ้านเชียงและห้องศิลปนิทรรศมารศรี ส่วนชั้น 3 และ 4 เป็นสำนักงานของมูลนิธิจุมภฏ-พันธุ์ทิพย์ค่ะ |
เรือนไทยหลังที่1
|
||
เรือนไทยหลังที่ 2
|
||
เรือนไทยหลังที่ 3
ใช้จัดแสดงเครื่องถ้วยเบญจรงค์ ซึ่งมีทั้งในส่วนที่ทำในประเทศไทยและสั่งทำจากจีนซึ่งคนไทยเป็นผู้ออกแบบ นอกจากนี้แล้วยังมีเครื่องถมเงินถมทอง ภาพเขียนเป็นภาพคนไทยและชาวต่างชาติ มีอายุอยู่ในช่วงสมัยอยุธยาตอนปลาย ราวพุทธศตวรรษที่ 23 อีกทั้งยังมีเสลี่ยนคานหามและฉัตร สำหรับเจ้านายชั้นสูงใช้เท่านั้นค่ะ |
||
เรือนไทยหลังที่ 4
เรือนไทยหลังที่ 4 ปัจจุบันยังคงมีการใช้งานในโอกาสต่างๆ ในอดีตเคยใช้เป็นพื้นที่สำหรับต้อนรับและรับประทานอาหารค่ำหน้าห้องพระมีหนังสือพระธรรมใบลาน ส่วนพื้นทีภายในห้องเป็นห้องพระประกอบใบด้วยพระพุทธรูปสมัยต่างๆ ของไทย นอกจากนี้ยังมีภาพพระบฏ ผนังด้านนอกห้องจัดแสดงบานประตูฝังมุก สมัยอยุธยาตอนปลายค่ะ |
||
เรือนไทยหลังที่ 5
ชั้นบนของเรือนไทยหลังที่ 5 จัดแสดงโบราณวัตถุวัฒนธรรมบ้านเชียงสมัยก่อนประวัติศาสตร์ ส่วนด้านล่างของเรือนจัดแสดงหินและแร่ รวมถึงหอยและฟอสซิลปลา |
|
||
เรือนไทยหลังที่ 6
เรือนไทยหลังนี้ เรียกว่า พิพิธภัณฑ์โขน “โขน” เป็นการแสดงประกอบเรื่องรามเกียรติ์ที่มีมาตั้งแต่สมัยโบราณของไทยโดยแสดงใส่หัวโขนเป็นตัวละครต่างๆในเรื่อง นอกจากนี้ภายในห้องยังจัดแสดงชฎา หุ่นละครเล็ก และหัวโขนขนาดเท่าของจริงซึ่งมีเพียงตัวละครหลักเท่านั้น ส่วนด้านล่างของเรือนใช้จัดแสดงตุ๊กตาดินเหนียวเรื่องรามเกียรติ์ตอนต่างๆและกองทัพตุ๊กตาตอนศึกกุมภกรรณ |
เรือนไทยหลังที่ 7
เรือนไทยหลังนี้ใช้จัดแสดงเครื่องชามสังคโลกสมัยสุโขทัย เครื่องถ้วยจีน เครื่องเคลือบสีเขียว ศิลปะพม่า และตุ๊กตาเสียกบาลด้านนอกเรือนไทยจัดแสดงเครื่องมือหินและเครื่องปั้นดินเผาสมัยก่อนประวัติศาสตร์ เครื่องปั้นดินเผาจากแหล่งเตาต่างๆ ทางภาคเหนือ เช่น เตาเวียงกาหลง จังหวัดเชียงราย เป็นต้น |
เรือนไทยหลังที่ 8
เรือนไทยหลังนี้จัดแสดงเครื่องใช้ส่วนพระองค์ทั้งที่เป็นเครื่องแก้วลายทอง เครื่องแก้วคริสตัล เครื่องเงินและเครื่องลายคราม ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งทูลกระหม่อมบริพัตรฯ และเสด็จในกรมฯ ทรงสะสมไว้ นอกจากนี้ยังมีแจกันรูปผักกาด ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของวังสวนผักกาดแห่งนี้ด้วยค่ะ |
หอเขียน หอเขียนตั้งอยู่บนสนามหญ้าทางทิศใต้ของวังสวนผักกาด หอเขียนหลังจากนี้อายุอยู่ในช่วงสมัยอยุธยาตอนปลาย เสด็จในกรมฯได้ผาติกรรมมาจากวัดบ้านกลิ้ง จ.พระนครศรีอยุธยา ในปี พ.ศ.2501 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่ออนุรักษ์ให้สถาปัตยกรรมของไทยคงอยู่ภายหลังการซ่อมแซมและอนุรักษ์เสร็จเรียบร้อย หอเขียนหลังนี้ถือเป็นสถาปัตยกรรมชิ้นเอกของพิพิธภัณฑ์วังสวนผักกาดและเป็นมรดกทางวัฒนธรรมของชาติที่ยังคงหลงเหลือไว้ให้คนรุ่นหลังได้ศึกษาต่อไป ภายในหอเขียนประกอบ ไปด้วยภาพลายรดน้ำ 2 เรื่องหลักๆ ได้แก่ เรื่องพุทธประวัติและรามเกียรติ์ค่ะ |
เรือพระที่นั่งเก้ากึ่งพยาม เรือพระที่นั่งเก้ากึ่งพยาม เป็นเรือที่พระบามสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระราชทานแก่ทูลกระหม่อมบริพัตรฯ ซึ่งเป็นพระบิดาของเสด็จในกรมฯ เจ้าของวัง เพื่อใช้เป็นขบวนเรือตามเสด็จประพาสต้น ตัวเรือทำด้วยไม้ตะเคียนทอง ส่วนเก๋งเรือและหลังคาทำด้วยไม้สักทองสวยงามมากเลยค่ะ
ห้องบ้านเชียง ตั้งอยู่บริเวณชั้น 2 ของศิลปาคารจุมภฏ-พันธุ์ทิพย์ โบราณวัตถุในวัฒนธรรมบ้านเชียง จัดอยู่ในสมัยก่อนประวัติศาสตร์ มีอายุประมาณ 1,800-5,600 ปีมาแล้ว เป็นวัฒนธรรมที่มีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักกันเป็นอย่างดีทั่วโลกในเรื่องของงานโลหะกรรมและภาชนะดินเผาลายเขียนสี โบราณวัตถุที่จัดแสดง ได้แก่ ภาชนะดินเผาลายเขียนสี ภาชนะดินเผาลายเชือกทาบผสมลายขูดขีด อาวุธและเครื่องมือเครื่องใช้ที่ทำจากสำริด หินสีที่มีค่าต่างๆ ลูกปัดแก้วที่ใช้ทำเครื่องประดับค่ะ
ห้องศิลปนิทรรศมารศรี ห้องศิลปนิทรรศมารศรีอยู่บริเวณชั้น 2 ของศิลปาคาร สำหรับห้องศิลปนิทรรศมารศรีนี้มีการจัดกิจกรรมและนิทรรศการศิลปะแขนงต่างๆ หมุนเวียนตลอดทั้งปี เพื่อเป็นการส่งเสริมและเปิดโอกาสให้ศิลปินรุ่นใหม่สามารถนำผลงานออกมาแสดงมากขึ้นค่ะ |
|
|
นอกจากวังสวนผักกาดจะเป็นแหล่งรวบรวมโบราณวัตถุและศิลปวัตถุอันทรงคุณค่าทางศิลปวัฒนธรรมแล้ว วังสวนผักกาดยังมีสวนซึ่งประกอบไปด้วยพรรณไม้หายากทั้งของไทยและต่างประเทศจำนวนมาก ทำให้วังแห่งนี้มีความสวยงามและน่าสนใจทั้งในส่วนของบรรยากาศและผลงานด้านศิลปวัฒนธรรมสร้างความประทับใจแก่ผู้มาเยี่ยมเยียนไม่รู้ลืมเลยล่ะค่ะ เป็นอย่างไรบ้างคะ สถานที่ที่ Sprite พามาชมในวันนี้สวย สนุก ถูกใจแฟนๆบาริโอกันบ้านมั้ยเอ่ย? ถ้าถามSprite นะคะ ก็ต้องขอบอกเลยว่าคุ้มค่าที่สุดเลย เพราะนอกจากจะได้เที่ยวชมของสะสมและโบราณวัตถุต่างๆแล้ว ยังได้เรียนรู้เรื่องราวในประวัติศาสตร์เพิ่มขึ้นด้วยค่ะ อย่างนี้สินะ ที่คุณครูเคยบอกว่า “ความรู้ ไม่ได้อยู่แค่ในห้องเรียน” เพิ่งจะรู้ซึ้งก็วันนี้นี่เอง ^^ ... และแล้วก็ถึงเวลาที่เราจะต้องโบกมือลากันอีกแล้ว แหม่!! เวลาช่างเดินรวดเร็วอะไรปานนี้ (บ่น บ่น)ส่วนคราวหน้า Spriteจะพาแฟนๆบาริโอไปเที่ยวที่ไหนนั้นอันนี้ต้องขออุบไว้ก่อน แต่รับรองว่าต้องสวย สนุก ถูกใจ ไม่แพ้ครั้งแน่นอนจ้า...ส่วนตอนนี้ Spriteแซ่บซ่า ต้องลาไปก่อนแล้ว สวัสดีจ้า ^________^
ค่าเข้าชม : คนไทย 50 บาท
|