Palladian Style

งานออกแบบสไตล์ปัลลาดิโอ

Palladian หรือ สไตล์ปัลลาดิโอ เป็นหนึ่งในสามรูปแบบที่ได้รับความนิยมมากที่สุดของยุค Neoclassic โดยสไตล์ Neoclassic นี้กลับมามีบทบาทอีกครั้งช่วงศตวรรษที่ 17 จากนั้นก็เริ่มแพร่หลายเป็นที่นิยมช่วงกลางศตวรรษที่ 18 ในประเทศแถบยุโรปโดยเฉพาะประเทศอิตาลี ฝรั่งเศสและอังกฤษ ไปจนถึงปลายศตวรรษที่ 19 ที่สไตล์นี้เดินทางไปถึงทวีปอเมริกาเหนือ
สไตล์ Neoclassic ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากงานออกแบบและสถาปัตยกรรมกรีกโรมัน จะแบ่งออกเป็น 3 สไตล์ย่อย ได้แก่ Classical block style, Temple Style และ Palladian Style โดยมีรายละเอียดของงานแต่ละสไตล์ดังต่อไปนี้

1. Classic Block Style

Bareo Interior Design Palladian Style Knowledge
Credit : Caleb Maxwell on Unsplash
Classic Block Style หรือรู้จักกันในนาม Beaux-Arts style (สไตล์โบซาร์) ถูกพัฒนาโดย École des Beaux-Arts (เอกอล เด โบซาร์) หรือโรงเรียนสอนศิลปะวิจิตรศิลป์ในประเทศฝรั่งเศส โดยเอกลักษณ์ของสไตล์นี้ คือ การยกพื้นชั้นล่างให้สูงขึ้นมาเพื่อสร้างบันไดโอ่อ่าขึ้นไปยังตัวอาคาร วัสดุที่ใช้เน้นการใช้หินเป็นหลัก ให้ความสำคัญกับการออกแบบที่เป็นสมมาตร เน้นการเสาและหน้าจั่ว รวมไปถึงการใช้รูปปั้นต่างๆ มาตกแต่งสถานที่ เช่น The Palais Garnier (Opéra National de Paris) หนึ่งในโรงละครแห่งชาติของประเทศฝรั่งเศส ที่ตั้งอยู่ ณ กรุงปารีส

2. Temple Style

Bareo Interior Design Palladian Style Knowledge
Credit : Bastien Nvs on Unsplash
Temple Style เป็นสไตล์ของงานที่สร้างขึ้นมาเลียนแบบงานสถาปัตยกรรมโบราณของกรีกโรมัน โดยมีการออกแบบแต่งเติมเสริมจินตนาการของนักออกแบบแต่ละท่านเข้าไปในแต่ละงาน เนื่องจากซากโบราณสถานที่หลงเหลือมาจากยุคกรีกโรมัน พอมาถึงยุคนี้ก็ไม่สมบูรณ์ทั้งหมด แต่เอกลักษณ์สำคัญของสไตล์นี้คือการวางเสาต่อเนื่องเป็นจังหวะเท่าๆ กัน ล้อมตัวอาคารหรือลานในอาคาร เรียกว่า Peristyle, การสร้างให้อาคารใหญ่ Over-scale มากๆ และงานออกแบบที่เน้นการใช้รูปทรงเรขาคณิต เช่น มหาวิหาร Panthéon ที่ตั้งอยู่ในปรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส

3. Palladian Style

Bareo Interior Design Palladian Style Knowledge
Credit : commons.wikimedia
งานออกแบบสไตล์ปัลลาดิโอทั้งหมดนั้น จะเป็นงานออกแบบที่ได้รับแรงบันดาลใจหรือนำลักษณะงานออกแบบมาจาก แอนเดรีย ปัลลาดิโอ (Andrea Palladio) ซึ่งเป็นสถาปนิกชาวอิตาลีที่อาศัยอยู่ในกรุงเวนิส (Venice) โดยเอกลักษณ์ของงานออกแบบสไตล์นี้ก็คือ ความสมมาตร, สัดส่วนของอาคารที่ดูลงตัว, มีกลิ่นอายของงานสถาปัตยกรรมโบราณของกรีกโรมัน ผสานเข้ากับแนวคิดของสไตล์ของยุค Mannerism รวมทั้งการใช้หน้าต่าง Palladian Window, โครงสร้างที่ดูเพรียวบาง และการใช้รูปปั้นต่างๆ มาตกแต่งในปริมาณที่เหมาะสม อาทิเช่น Villa Rotonda ที่ตั้งอยู่ในกรุงเวนิส ประเทศอิตาลี
Bareo Interior Design Palladian Style Knowledge
Credit : thoughtco .com
หน้าต่างสไตล์ปัลลาดิโอ เชื่อกันว่ามีมาตั้งแต่ก่อนกำเนิดสไตล์ปัลลาดิโอ แต่แอนเดรีย ปัลลาดิโอเป็นผู้หยิบมาใช้งานงานออกแบบและทำให้กลายเป็นที่นิยม โดยเอกลักษณ์ของหน้าต่างแบบนี้ คือ การมีหน้าต่างสามบานติดกัน โดยหน้าต่างบานกลางจะมีขนาดใหญ่ที่สุดและมีจั่วหรือโค้งอยู่ด้านบน มีกรอบหน้าต่างเป็นเสาสไตล์คลาสสิก (pilasters) และในกรุงเวนิส หน้าต่างแบบนี้จะถูกเรียกว่า Venetian Window
Bareo Interior Design Palladian Style Knowledge
Credit : en.wikipedia
ที่บอกว่าได้รับแรงบัลดาลใจนั้นเป็นเพราะว่าในช่วงปีที่ แอนเดรีย ปัลลาดิโอ มีชีวิตอยู่นั้น (ค.ศ.1508 – 1580) สไตล์ของเขายังไม่ได้รับความนิยมเท่าไหร่นัก เนื่องเป็นยุคที่สถาปัตยกรรมแบบเรเนซองค์ (Renaissance) ถือกำเนิดและเป็นที่นิยมถึงขีดสุด (ต้นศตวรรษที่ 14 – ปลายศตวรรษที่ 16) และกว่าสไตล์ปัลลาดิโอจะถูกหยิบยกขึ้นมาเป็นต้นแบบงานออกแบบและเผยแพร่ไปทั่วทั้งยุโรป (โดยเฉพาะในประเทศอังกฤษ) นั้นก็เป็นช่วงต้นๆ ของศตวรรษที่ 17 แล้วนั่นเอง โดยอ้างอิงสไตล์การออกแบบมาจากหนังสือ “The Four Books of Architecture” หรือ I Quattro Libri dell’Architettura’ ที่เขียนโดยปัลลาดิโอและตีพิมพ์ในปี ค.ศ.1570
Bareo Interior Design Palladian Style Knowledge
Credit : historichouses .org
อินดิโก โจนส์ (Indigo Jones; ค.ศ.1573 -1652) เป็นสถาปนิกชาวอังกฤษที่ได้เดินทางมายังประเทศอิตาลีในช่วง ค.ศ.1606 และประทับใจงานออกแบบสไตล์ปัลลาดิโอมาก จึงได้ทำการศึกษาจากหนังสือ “The Four Books of Architecture” และนำสถาปัตยกรรมสไตล์นี้กลับไปที่ประเทศอังกฤษ ใช้เป็นสไตล์ในการออกแบบคฤหาสน์พักอาศัยของ พระราชินีแอนแห่งเดนมาร์ก (Queen Anne of Denmark) ในรัชสมัยของพระราชาเจมส์ที่ 1 (King James I) ทำให้สไตล์ปัลลาดิโอเป็นที่รู้จักให้คนรุ่นหลังในประเทศอังกฤษได้เรียนรู้และศึกษาต่อไปในฐานะอาคารสไตล์ Classic หลังแรกในประเทศอังกฤษ
Bareo Interior Design Palladian Style Knowledge
Credit : britannica .com
สถาปนิกชาวสก็อตแลนด์ โรเบิร์ต อดัม (Robert Adam; ค.ศ.1727 -1792) ถูกขนานนามว่าเป็นผู้ที่นำเอาสไตล์ปัลลาดิโอมาตีความและออกแบบได้ดีและมีชื่อเสียงโด่งดังมากที่สุด และทำให้เกิดสถาปัตยกรรมแนวปัลลาดิโอมากมายในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เช่น Kedleston Hall จนภายหลังถูกพัฒนาผสมผสานกับสไตล์งานออกแบบเฉพาะตัวของเขา และถูกเรียกว่า Adam Style
Bareo Interior Design Palladian Style Knowledge
Credit : chiswickhouseandgardens .org.uk
นอกจากนี้ยังมีงานสถาปัยกรรมอื่นๆ ที่น่าสนใจและได้รับแรงบันดาลใจจากสไตล์ Palladio อีก เช่น Chiswick House ที่เป็นสไตล์ neo-palladian หรือสไตล์ปัลลาดิโอประยุกต์ ออกแบบโดย ริชาร์ด บอยล์ (Richard Boyle) สถาปนิกเจ้าของคฤหาสน์ ผู้เป็นท่านเอิร์ลรุ่นที่ 3 แห่ง Burlington ร่วมกับ วิลเลียม เคนท์ (William Kent) ผู้เป็นทั้งนักออกแบบ, ศิลปิน และผู้ออกแบบสวนให้กับคฤหาสน์แห่งนี้

สไตล์ปัลลาดิโอ ในงานตกแต่งภายใน

บริษัท บาริโอ จำกัดเคยมีผลงาน ออกแบบและตกแต่งภายใน ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากสไตล์ปัลลาดิโอเช่นกัน โปรเจคนั้นก็คือ Palladian Consistensy อัญมณีแห่งศตวรรษที่ 17 นั่นเอง โดยจะเป็นงานออกแบบที่นำเอกลักษณ์ของสไตล์นี้ อย่างการนำเส้นสายของกรีกโรมันมาใช้ตกแต่งในงาน ลวดลายส่วนใหญ่ก็ได้รับแรงบันดาลใจมาจากเสา Doric, Ionic และ Corinthian ผสมผสานเข้ากับความเรียบหรูของสไตล์ Modern ให้เกิดเส้นสายที่เป็นระเบียบและเรียบง่ายทว่ามีสเน่ห์ด้วยกลิ่นอายของงานสถาปัตยกรรมในยุครุ่งเรืองของอารยธรรม

Lobby Hall

Bareo Interior Design Palladian Style Knowledge
Credit : Bareo Company Limited
เมื่อเข้ามาในโซน Foyer ก็จะได้รับการต้อนรับโดยโถงบันได Double Volume ที่หรูหราโอ่อ่า มีการเอาเอกลักษณ์ของหัวเสา Ionic มาลดทอนและใส่เป็นลวดลายของราวบันไดที่ดูเพรียวบาง เน้นการออกแบบให้ดูสมมาตรโดยที่ยังสามารถใช้งานฟังก์ชันได้อย่างครบครัน
อ่านเพิ่มเติมได้ที่ Part 1

Master Bedroom

Bareo Interior Design Palladian Style Knowledge
Credit : Bareo Company Limited
ในส่วนห้องนอนนั้น แฝงทีวีของ Master Bedroom ถูกออกแบบโดยใช้รูปทรงเรขาคณิตมาลดทอนดีเทลแบบปัลลดิโอลง โดยการเลียนเสาสองข้างของแฝงทีวีให้มีกลิ่นอายของงานสถาปัตยกรรมโบราณของกรีกโรมัน รวมทั้งยังดีไซน์กล่องม่านบริเวณหน้าต่างเป็นทรงโค้งเพื่อให้เกิดกลิ่นอายแบบหน้าต่างสไตล์ปัลลาดิโอ
อ่านเพิ่มเติมได้ที่ Part 2

Powder Room

Credit : Bareo Company Limited
และห้อง Powder Room เอง นอกจากการออกแบบให้ดูมีความสมมาตร ลงตัวแล้ว ก็มีการออกแบบผนังโมเสคให้มีลวดลายคล้ายประติมากรรมตกแต่งของสไตล์กรีกโรมันโบราณ โดยจะเป็นลายธรรมชาติ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของลวดลายที่นิยมในยุค Mannerism นั่นเอง
อ่านเพิ่มเติมได้ที่ ส่วนห้องน้ำ Private Sanctuary
เป็นอย่างไรกันบ้างคะกับสไตล์ปัลลาดิโอที่เราได้นำมาฝากทุกท่านกันในวันนี้ หวังว่าทุกท่านจะได้รับความรู้เพิ่มเติมไปไม่มากก็น้อยนะคะ หากสนใจบทความอื่นๆ เกี่ยวกับสไตล์ Neoclassic สามารถอ่านบทความอื่นๆ ของเว็บไซต์ในเดือนนี้ได้ที่หน้า Home หรือ Back Issue ฉบับที่ 194
หรือหากสนใจบทความน่าสนใจหลายๆ เรื่องสามารถติดตามเว็บไซต์ของเราได้ทุกวันที่ 5 และ 20 ในทุกๆ เดือนนะคะ
สามารถติดตามผลงานต่าง ๆ ของทาง Bareo ได้ที่ช่องทางเว็บไซต์ของ Bareo หรือทาง Facebook : Design by Bareo ที่จะคอยอัพเดทข่าวสาร งานดีไซน์ และผลงานการออกแบบตกแต่งภายในมากมาย ให้ท่านผู้อ่านได้รับความรู้ และความสนุกตลอดทั้งปี
หรือหากสนใจจะออกแบบตกแต่งภายในกับทาง Bareo ทางเราก็มีบริการออกแบบภายในครบวงจร โดยสามารถอ่านรายละเอียดการให้บริการของเราได้ที่นี่ คลิ๊ก
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
wikipedia .org
architecture .com
architecture .org
britannica .com
essenziale-hd .com
essential-humanities .net
chiswickhouseandgardens .org .uk
historichouses .org
rmg .co .uk
thoughtco .com

CONTENT RELATED

NEW CONTENT

PORTFOLIO