กาลครั้งหนึ่ง…… เมื่อเริ่มต้นประโยคนี้ เด็กๆ จะเริ่มใจจดใจจ่อนอนรอฟังเรื่องเล่าสนุกๆ จากผู้ปกครองโดยมีตัวละครเอก และมักมีตัวร้ายเป็น “แม่มด” เพิ่มอรรถรสให้เรื่องเล่าสนุกและดูน่าตื่นเต้นมากขึ้น

“ แม่มด ” เป็นตัวละครในนิทานในตำนานที่เล่าขานกันมาว่ามีความร้ายกาจ ใจร้าย ชอบหลอกลวงเด็กๆ มีลักษณะเป็นหญิงชรา ใส่หมวก และมีปลายจมูกแหลม ใส่ชุดดำทั้งตัว ดูถมึงทึงและน่ากลัว ซึ่งตัวละคร แม่มดในนิทานก็นำมาจากเรื่องเล่าในชีวิตจริงนั่นเอง

Credit : natalia y on Unsplash

ความเชื่อเกี่ยวกับแม่มดมีมาตั้งแต่สมัยโรมันและกรีกโบราณ โดยเชื่อกันว่าแม่มดและเวทมนตร์คาถามีจริง ตามหลักฐานภาพเขียนฝาผนังรูปควายไบซัน ซึ่งเป็นมนุษย์ที่มีศีรษะเป็นสัตว์ ที่ปรากฏเมื่อ 1,500 ปี และภาพเหล่านี้คือสิ่งที่นำไปประกอบพิธีกรรมตามความเชื่อต่างๆ ชาวโรมันและกรีกโบราณเชื่อกันว่าเวทมนตร์มีทั้งเวทมนตร์ดำ คือเวทมนตร์ที่ใช้ในด้านไม่ดี ทำให้เกิดความเสียหาย และเวทมนตร์ขาว คือ เวทมนตร์ที่ใช้ในด้านดี เช่น ใช้ในการรักษาความเจ็บป่วย เป็นต้น

เมื่อนานวันเข้าความเชื่อเกี่ยวกับแม่มดก็กลายเป็นวัฒนธรรมในยุคกรีกโบราณ และเมื่อศาสนาคริสต์เริ่มเข้ามามีบทบาทในกรีกโรมัน จนกลายเป็นศาสนาหลักของยุค และเห็นว่าแม่มดขัดแย้งกับทางศาสนา จึงต้องจำกัดออกไป หลายๆ ครั้งจึงเกิดการล่าแม่มด และลงโทษผู้ที่คิดว่าใช้เวทมนตร์ดำเป็นจำนวนหลายพันชีวิต แต่เมื่อเวลาเดินทางถึงยุคศตวรรษที่ 18 ผู้คนเริ่มมีเหตุผลมากขึ้น การล่าแม่มดจึงลดลง และหลายๆ แห่งได้ยกเลิกกฎหมายเกี่ยวกับการลงโทษแม่มดออกไป

เวทมนตร์คาถาคืออะไร ?

Credit : awesomeon20 .com

คำว่า คาถา มีความหมายที่ดีและไม่ดีในวัฒนธรรมที่แตกต่างกันทั่วโลก คำจำกัดความทั่วไปของคาถาคือการเปลี่ยนแปลงเหตุการณ์ในชีวิตประจำวันโดยใช้ พลัง เหนือธรรมชาติหรือเวทมนตร์

เวทมนตร์มักจะเกี่ยวข้องกับพลังของธรรมชาติ เช่น พืชสมุนไพรและพืชมีพิษ หรือฝนและน้ำท่วม กล่าวกันว่าผู้ที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นเวทมนตร์คาถาสามารถควบคุมเหตุการณ์ทางธรรมชาติ เช่น พายุหรือภัยแล้ง เป็นต้น

Credit : naturesfragrance .com

การปรุงยาก็เป็นอีกศาสตร์หนึ่งที่ “แม่มด” ใช้ประกอบกับเวทมนตร์คาถา การเรียนรู้ที่จะปรุงยาเป็นทักษะที่สำคัญไม่เพียงแต่ในด้านการใช้เวทมนตร์เท่านั้น แต่ยังรวมถึงการสร้างวิธีการรักษาสำหรับความเจ็บป่วยและโรคต่างๆ ได้ โดยเชื่อกันว่ายาวิเศษจะถูกนำมาใช้หรือรักษาคนป่วย เพื่อเปลี่ยนรูปลักษณ์ของใครบางคน หรือเพื่อชักจูงให้ผู้คนตกหลุมรัก เพื่อเงินทอง เป็นต้น

เพราะการแพทย์ในยุคก่อนไม่ได้สะดวกสบายและง่ายเหมือนในปัจจุบัน การปรุงยาจากสมุนไพรจึงมีส่วนสำคัญเป็นอย่างมากในการบำรุงรักษาต่างๆ โดยสมุนไพรที่มักถูกนำมาใช้ในการปรุงยาของแม่มด มักจะเป็นสมุนไพรและวัตถุดิบจากธรรมชาติ ดอกไม้ เป็นต้น เช่น ชีส ข้าวบาร์เลย์ ขิง น้ำผึ้ง ไวน์ น้ำมะนาว ฯลฯ รวมไปถึงสมุนไพรชื่อแปลกๆ อย่าง ขาจิ้งจก ฟันหมาป่า ปีกของนกเค้าแมว และต้นแมนเดรก หรือ “แมนดราโกรา” (Mandragora) สมุนไพรแฟนตาซีที่เชื่อกันว่ากรีดร้องได้ ซึ่งหากถูกถอนออกมาอย่างถูกวิธีก็จะไม่กรีดร้อง อาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ เป็นต้น

ส่วนประกอบสำคัญในการปรุงยา อื่นๆ เช่น…

– ราที่ขึ้นอยู่บนหลุมศพ : แม่มดจะนำมาผสมน้ำ แล้วให้คนขี้บ่นดื่ม เพื่อให้ว่านอนสอนง่าย สงบปากสงบคำมากขึ้น
– ชิ้นส่วนต่างๆ ของมัมมี่ : แม่มดจะนำส่วนที่คิดว่าดีที่สุด คือ ขนอวัยวะ มาทำเสน่ห์ เพื่อให้คนรัก คนหลง
– พุ่มไม้รู : เป็นสมุนไพรชนิดหนึ่ง ที่แม่หมดนำมาต้มเพื่อให้คนกินตาสว่าง มองเห็นอีกภพภูมิได้
– วอร์บีนา : เป็นพืชชนิดหนึ่ง ที่นำมาต้มทานเพื่อให้สุขภาพแข็งแรง
– แมงมุม : อีกหนึ่งส่วนผสมในการปรุงยาที่เชื่อว่าจะทำให้ร่างกายแข็งแรง และเปล่งปลั่ง
– คางคก : ยางของคางคกจะถูกนำมาทำเป็นยาพิษและยาหลอนประสาท และเครื่องรางเสริมเสน่ห์และพลังเวทย์ เป็นต้น

สมุนไพรเหล่านี้มักจะผสมลงในเครื่องดื่มหรือสตูว์เนื้อนุ่มในชามหรือหม้อขนาดใหญ่ท่ามกลางแสงจันทร์ และบางครั้งมีการใช้ไม้กายสิทธิ์คนของเหลวหรือยาสมุนไพรเพื่อส่งหรือกระตุ้นให้การปรุงยามีความวิเศษและทำให้สามารถบรรลุความปรารถนาได้จริง ซึ่งการปรุงยาของแม่มดก็จะมีหลายรูปแบบ เช่น ยาแบบผงเพื่อให้เก็บได้นาน มีทั้งสำหรับใช้ต้มกับน้เพื่อดื่ม และนำผงมาเทจุดเป็นกำยานให้ได้กลิ่นหอม รวมไปถึงยาสูตรน้ำ (Potions) เป็นต้น

มีเรื่องเล่าเกี่ยวกับการปรุงยาของแม่มดในอดีตว่า ครั้งหนึ่ง “โฮเมอร์ ไซซี” ลูกสาวของเฮลิออส เทพแห่งดวงอาทิตย์ ผู้ที่ถูกเรียกว่าเป็นแม่มดคนแรกในวรรณกรรมคลาสสิก เธอเป็นเทพธิดาผู้เยาว์ที่สวยงามและเย้ายวนใจ ทำงานอาชีพทอผ้าเหมือนผู้หญิงทั่วไปในยุคนั้น วันหนึ่งเธอเกิดตกหลุมรัก โอดิสซิอุส แต่เมื่อความรักที่เธอมีต่อโอดิสซิอุสถูกปฎิเสธ เธอจึงได้ผสมยา ( Pharmaka ) ลงในยารสอ่อน ( Sitos ) ด้วยชีส ข้าวบาร์เลย์ น้ำผึ้ง และไวน์ จากนั้นจึงใช้ไม้กายสิทธิ์ของเธอเคาะและคนทำให้กลายเป็นคำสาป เพื่อเสกให้โอดิสซิอุส กลายเป็นนกด้วยความพยาบาท และเปลี่ยนเหล่าบริวารของโอดิสซิอุสเป็นสัตว์ต่างๆ เช่น หมู หมาป่าและสัตว์อื่นๆ

ส่วนในความเป็นจริงนั้น ก็เชื่อว่าจริงๆ แล้วชื่อส่วนผสมแปลกๆ เหล่านี้เป็นสมุนไพรต่างๆ นั่นล่ะ เพียงแต่ใช้ชื่อเป็นรหัสลับที่รู้กันเฉพาะกลุ่มเพื่อป้องกันการรั่วไหลของสูตร

สูตรปรุงยาของแม่มด ไม่ได้นำไปใช้เฉพาะสิ่งที่ไม่ดีเท่านั้น บางสูตรก็สามารถทำได้ง่ายๆ เพียงนำสมุนไพรมาต้มกับน้ำ และสูตรปรุงยาที่ดีก็นำมาใช้ในการรักษาคนได้มากเช่นกัน ซึ่งมีบางสูตรที่ยังใช้มาจนถึงปัจจุบันก็มี

สูตรปรุงยาจากสมุนไพร เพื่อสุขภาพ

Credit : spells8 .com

วิธีธรรมชาติเพื่อส่งเสริมสุขภาพที่ดี สูตรปรุงยานี้เป็นชาน้ำผึ้งและขิง ทำง่าย อร่อยและครบเครื่อง สามารถบรรเทาอาการไอ บรรเทาอาการกล่องเสียงอักเสบ หรือลดอาการปวดประจำเดือน และต้านการอักเสบและลดอาการปวดกล้ามเนื้อ

วัตถุดิบที่ใช้ ได้แก่
– รากขิง
– น้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ
– น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำก็ง่ายๆ เพียงต้มน้ำร้อน แล้วนำขิงมาหั่นเป็นชิ้นๆ ใส่ลงไปในแก้ว ประมาณ 4-5 ชิ้น หรือแล้วแต่ความชอบ เมื่อน้ำร้อนแล้วให้เทน้ำลงในแก้วประมาณ ¾ จากนั้นใส่น้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ และน้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะลงไป คนผสมให้เข้ากัน เพียงเท่านี้คุณก็จะได้ชาขิงน้ำผึ้งมะนาวที่ดีต่อสุขภาพแล้ว

เป็นสูตรสมุนไพรที่ทำได้ง่ายในครัวเรือน แต่เพราะในสมัยก่อนการจะเข้าถึงความรู้เรื่องการแพทย์และสมุนไพรศาสตร์ยังไม่แพร่หลาย ทำให้คนมองว่ายาที่ไม่ได้มาจากหมอแต่รักษาคนได้จะต้องมีไม่เวทมนต์ก็อาถรรพ์แน่ๆ

หากใครที่อยากจำลองบรรยากาศแบบแฟนตาซี หรือเวทมนตร์หน่อย ลองจัดโต๊ะพร้อมตกแต่งเชิงเทียนสักเล่ม ก่อนดื่มให้นั่งสมาธิท่องคาถาก่อนดื่ม อาจได้อารมณ์ไปอีกแบบ ตามคลิปด้านล่างนี้

Ginger Tea

เครื่องรางของขลังของแม่มด

Credit : Andreas Wagner on Unsplash

ในส่วนของเครื่องรางของขลังของ แม่มด ที่โด่งดังและรู้จักกันเป็นอย่างดี หนึ่งในนั้น คือ เครื่องรางดักฝันหรือตาข่ายดักฝันนั่นเอง

ตาข่ายดักฝันคือห่วงวิลโลว์ทำมือ ซึ่งใช้สานตาข่ายหรือใยแมงมุม อาจประดับด้วยของมงคล เช่น ขนนกหรือลูกปัด ตามเนื้อผ้า ตาข่ายดักฝันจะถูกแขวนไว้เหนือเปลหรือเตียงเพื่อป้องกันตัว ใช้ดักจับฝันร้ายและพลังงานด้านลบ ขณะที่นอนหลับอยู่

ตาข่ายดักฝันมีบทบาทในวัฒนธรรม ชนพื้นเมืองอเมริกันมาช้านาน และถือเป็นเครื่องรางของขลังและเครื่องรางที่ป้องกันพลังงานที่ไม่ดี วัฒนธรรมที่แตกต่างกันก็อาจมีความหมายที่แตกต่างกันเล็กน้อย แต่องค์ประกอบทั้งหมดของตาข่ายดักฝันมีบทบาทและมีความหมายเหมือนกันในการป้องกันอิทธิพลชั่วร้าย

ปัจจุบันหลายวัฒนธรรมพบว่ากรอบวงกลม ขนนก และรายละเอียดการตกแต่งเป็นสิ่งที่คุ้นเคย ตาข่ายดักฝันอาจมีรูปแบบแตกต่างกันไป แต่ทั้งหมดมีลักษณะคล้ายคลึงกัน และแต่ละรูปแบบมีความหมายเฉพาะตัว ตาข่ายดักฝันมักจะมีกรอบวงกลมหรือห่วงไม้ที่มีด้ายอยู่ตรงกลาง อาจประดับด้วยลูกปัด ขนนก และรายละเอียดอื่นๆ จะค่อนข้างเรียบง่าย แต่ในปัจจุบันจะพบตาข่ายดักฝันในเฉดสีรุ้งที่หลากหลายและมีรายละเอียดพิเศษมากมาย

ความหมายของตาข่ายดักฝัน

– กรอบ หรือห่วงของตาข่ายดักฝัน : จะเป็นวงกลมเสมอ ซึ่งแสดงถึงวงจรชีวิตและเป็นสัญลักษณ์ของความสามัคคี นอกจากนี้ยังเป็นตัวแทนของดวงจันทร์และดวงอาทิตย์ เป็นวงกลมที่ไม่มีที่สิ้นสุด ต่อเนื่องและเป็นศูนย์กลางของทุกสิ่ง

– ใย : เป็นอีกส่วนสำคัญของตาข่ายดักฝัน ใยถูกถักทอในลักษณะที่สื่อถึงใยแมงมุมและมีวัตถุประสงค์คล้ายกันคือเพื่อดักจับสิ่งที่ไม่ต้องการโดยมีวงกลมตรงกลางเพื่อให้ความดีผ่านเข้าไปได้

– ลูกปัด : ความหมายของลูกปัดที่ถักทอในการออกแบบเครื่องดักฝันสามารถเปลี่ยนแปลงได้ขึ้นอยู่กับการตีความที่แตกต่างกันจากชนเผ่าทางวัฒนธรรม บางคนเชื่อว่าจำนวนของลูกปัดมีความสำคัญ ลูกปัดเดี่ยวสามารถแสดงความเคารพต่อ ‘แมงมุม’ ที่หมุนใย ในขณะที่ลูกปัดหลายตัวในใยเป็นตัวแทนทางกายภาพของความฝันที่ดี และเสน่ห์อันศักดิ์สิทธิ์

– ขนนก : นอกจากขนนกจะให้ภาพที่สวยงาม ยังเชื่อว่าขนนกยาวที่เบาจะช่วยให้ฝันดีค่อย ๆ เลื่อนลงมาและเข้าสู่จิตใจของผู้นอน

วิธีการทำตาข่ายดักฝันด้วยตนเอง

อุปกรณ์ที่ใช้ ได้แก่
– ลวดหนา
– คีมตัดลวด
– เทปที่แข็งแรง เช่น เทปพันสายไฟ
– เส้นด้าย เชือก หรือสายป่าน (สีใดก็ได้ตามที่คุณต้องการ)
– ขนนก (อเมซอน)
– ปืนกาว

1. สร้างห่วง
ในการเริ่มต้น ให้ตัดลวดตามขนาดที่ต้องการ จากนั้นจัดรูปร่างลวดให้เป็นวงกลมและติดปลายเข้าด้วยกันด้วยเทปที่แข็งแรงชิ้นเล็ก ๆ นำเส้นด้ายมัดเป็นปมรอบๆ ลวด เริ่มพันให้แน่นรอบ ๆ ลวด ตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้ครอบคลุมลวดทั้งหมดแล้ว เมื่อครบแล้วให้มัดเป็นปมรอบตัวเองแล้วตัดออก

2. สร้างจุดศูนย์รวมตาข่ายดักฝัน
ถัดไปให้ใช้เส้นด้ายหรือเชือกที่บางกว่า ผูกปมรอบห่วง ตัดปลายหลวมออก ใช้ปลายด้านยาวของเส้นด้ายด้านใดด้านหนึ่งยืดไปตามห่วงเพื่อให้ถึงประมาณ 1/6 ของเส้นผ่านศูนย์กลางของห่วง นำเส้นด้ายมาพันรอบห่วงและผ่านรูที่เพิ่งสร้างด้วยเส้นด้าย สร้างห่วงที่แน่นรอบห่วง ทำขั้นตอนนี้ต่อไปรอบๆ ห่วง โดยสร้างห่วงสุดท้ายจะเป็นที่จุดเดียวกับที่จุดเริ่ม หากเริ่มทำห่วง 1 ใน 6 ของห่วง ก็ควรจะจบด้วยเส้นด้าย 6 เส้น

3. จากนั้นเมื่อจะทำห่วงต่อไป แต่แทนที่จะทำบนห่วง ให้ทำมันบนเส้นด้ายเส้นใหม่ที่เพิ่งทำขึ้นมา พันเส้นด้ายตรงกลางของเส้นด้ายที่ใกล้ที่สุดที่ยืดข้ามห่วง ทำซ้ำขั้นตอนเดียวกันนี้กับเส้นเส้นด้ายที่เหลือที่ทำไว้ก่อนหน้านี้

4. เมื่อทำแถวนั้นเสร็จแล้ว จะสังเกตเห็นว่าได้สร้างเส้นชุดใหม่ด้วยเส้นด้าย ดังนั้นให้พันตรงกลางเส้นเหล่านี้ต่อไป ในที่สุดเส้นจะเล็กมากจนไม่สามารถหาจุดกึ่งกลางที่ดีในการวนซ้ำได้ ณ จุดนี้สามารถหยุดและผูกเส้นด้ายเป็นปมแล้วตัดออก เป็นอันเสร็จสิ้น

คลิปวิธีการทำตาข่ายดักฝัน Dream Catcher

เป็นไงกันบ้างคะกับเรื่องราวของ แม่มด ที่เรานำมาฝากกัน หวังว่าทุกคนจะเพลินเพลิดและได้สาระความรู้ไม่มากก็น้อยนะคะ ไว้มีเรื่องราวดีๆ แบบนี้ จะรีบนำมาฝากทุกคนอีกนะคะ

สามารถติดตามผลงานต่าง ๆ ของทาง Bareo ได้ที่ช่องทางเว็บไซต์ของ Bareo หรือทาง Facebook : Design by Bareo ที่จะคอยอัพเดทข่าวสาร งานดีไซน์ และผลงานการออกแบบตกแต่งภายในมากมาย ให้ท่านผู้อ่านได้รับความรู้ และความสนุกตลอดทั้งปี

หรือหากสนใจจะออกแบบตกแต่งภายในกับทาง Bareo ทางเราก็มีบริการออกแบบภายในครบวงจร โดยสามารถอ่านรายละเอียดการให้บริการของเราได้ที่นี่ คลิ๊ก

ขอขอบคุณข้อมูลจาก
suggest .com
academia-edu .com
brewminate .com