อเึ
White Architecture
สถาปัตยกรรมสีขาว
องค์ประกอบในงานออกแบบที่จะช่วยสร้างความสมบูรณ์แบบให้กับงานสถาปัตยกรรมได้นั้นมีอยู่มากมาย หนึ่งในนั้นก็คือการเลือกใช้สี เพราะไม่ใช่เพียงเรื่องของความสวยงามเพียงอย่างเดียว แต่ยังส่งผลในเรื่องของจิตวิทยา ความรู้สึกที่แสดงออก และเรามักจะได้เห็นสีขาวเป็นสีที่สถาปนิกเลือกใช้เป็นองค์ประกอบหลักในการออกแบบอยู่บ่อยครั้ง เนื่องจากสีขาวมีพลังที่สื่อถึงความสมบูรณ์แบบนั่นเอง บทความนี้จะพาผู้อ่านทุกท่านมาพบกับ “สถาปัตยกรรมสีขาว” ที่สวยงามและน่าประทับใจกันค่ะ
Reggio Emilia AV Mediopadana
Cr. aestheticamagazine
สถานี Reggio Emilia AV Mediopadana เป็นสถานีรถไฟความเร็วสูงในเมืองเรจจิโอ เอมิเลีย (Reggio Emilia) ในประเทศอิตาลี (Italy) สถานีรถไฟความเร็วสูงแห่งนี้เป็นศูนย์กลางการขนส่งอย่างแท้จริง ที่เชื่อมต่อเมืองเรจจิโอ เอมิเลีย กับเมืองอื่น ๆ ในอิตาลี และประเทศต่าง ๆ ทั่วยุโรป โดยสถานี Reggio Emilia AV Mediopadana แห่งนี้ไ ด้รับการออกแบบโดย Santiago Calatrava ผู้ซึ่งเป็นทั้งสถาปนิก และวิศวกรโครงสร้าง ชาวสเปน ซึ่งเป็นที่รู้จักจากผลของเขาเอง ทีนำรูปทรงการเคลื่อนไหวไปใช้กับรูปแบบของอาคาร และโครงสร้างต่าง ๆ ที่เขาออกแบบ โดยสถานี Reggio Emilia AV Mediopadana เปิดให้บริการครั้งแรกในวันที่ 15 ธันวาคม 2013
Cr. parametric-architecture
Cr. parametric-architecture
โครงสร้างตัวอาคาร Reggio Emilia AV Mediopadana มีการออกแบบให้มีลักษณะคล้ายคลื่นที่พริ้วไหว เพื่อต้องการให้สื่อถึงความเคลื่อนไหว และทำให้ตัวอาคารมีรูปแบบที่แตกต่างจากสถาปัตยกรรมทั่วไปจนกลายเป็นเอกลักษณ์ รวมไปถึงการเลือกใช้สีขาวทั่วทั้งตัวอาคารเพื่อให้เกิดความโปร่งโล่ง และเป็นสิ่งที่ส่งเสริมให้สถาปัตยกรรมแห่งนี้โดดเด่นเป็นที่น่าจดจำ นอกจากนี้ตัวโครงสร้างยังทำมาจากเหล็ก เพื่อใช้เป็นตัวป้องกันองค์ประกอบต่างๆ อย่างแผ่นกระจกใสที่อยู่ระหว่างชิ้นส่วนเหล็กไม่ให้เกิดความเสียหายนั่นเองค่ะ
Taj Mahal
Cr. agra.nic
ทัชมาฮาล (Taj Mahal) อีกหนึ่งสถาปัตยกรรมที่ผู้คนต้องรู้จักเป็นอย่างดี จากตำนานอนุสรณ์แห่งความรักที่พระเจ้าชาห์ จาฮาน มีต่อพระมเหสีผู้เป็นที่รัก มุมตัซ มาฮาล หลังจากที่ทรงสิ้นพระชนม์ โดยได้รับการออกแบบจากสถาปนิกชาวอินเดีย ตุรกี และเปอร์เซีย ที่ได้มาร่วมทีมเพื่อออกแบบสร้างสรรค์อนุสรณ์สถานแทนความรักที่นิรันดร์ และทัชมาฮาลยังได้ขึ้นชื่อว่าถูกสร้างในบริเวณที่มีทัศนภาพสวยงามสมบูรณ์แบบที่สุดอีกด้วย จนถูกยกยกโดยองค์กร UNESCO ให้เป็นมรดกโลกในปี ค.ศ. 1983
Cr. worldmeander
การออกแบบตกแต่งทั้งภายใน และภายนอกนั้นเป็นไปอย่างวิจิตร ปราณีต และสวยงามเป็นอย่างมาก ตัวอาคารถูกออกแบบให้เป็นทรงโดมสีขาว ซึ่งการก่อสร้างใช้วัสดุที่เป็นหินอ่อนสีขาวทั้งหมด เพื่อให้สื่อถึงความรู้สึกราวกับสรวงสวรรค์ ความพิเศษของตัวอาคารนอกจากงานออกแบบแล้วนั่นก็คือการเลือกใช้วัสดุที่มาจากแหล่งที่ดีที่สุด เช่น หินอ่อนสีขาวที่มาจากเมืองมาครานา ซึ่งได้รับการขนานนามและเป็นที่ยอมรับว่าเป็นหินอ่อนที่มีคุณภาพดีที่สุดในโลก มากไปกว่านั้นคือตัวอาคารมีการตกแต่งอย่างละเอียดด้วยการสลักหินชิ้นต่อชิ้นจากช่างฝีมือทั่วทั้งตัวอาคาร ความสำเร็จของทัชมาฮาลจึงแลกมาด้วยความเหน็ดเหนื่อยของหลาย ๆ ชีวิต แต่ผลที่ได้มานั้นคือความงดงามที่ตราตรึงและโด่งดังไปทั่วโลกเลยทีเดียว
British Museum
Cr. museonazionaleromano
British Museum พิพิธภัณฑ์แห่งอังกฤษ เป็นพิพิธภัณฑ์ที่รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับธรรมชาติของมนุษย์ที่มีความสำคัญระดับโลก มีการรวบรวมเอาไว้ซึ่งประวัติศาสตร์ต่าง ๆ จนเรียกได้ว่ารวบรวมเอาเรื่องราวของมนุษยชาติทั้งโลกเอาไว้ในที่เดียวเลยก็ว่าได้ โดย British Museum ก่อตั้งขึ้นในปี 1753 ในช่วงปีนั้นผลงานที่ใช้ในการจัดแสดง ส่วนใหญ่จะเป็นของสะสมของท่านเซอร์ ฮานส์ สโลน นายแพทย์และนักวิทยาศาสตร์ชาวอังกฤษ ต่อมาของสะสมเหล่านี้ได้ถูกถวายเพื่อเป็นสมบัติของประเทศอังกฤษเพื่อให้อนุชนรุ่นหลังได้ศึกษานั่นเองค่ะ
Cr. acanvasoflight
ในส่วนของการออกแบบ British Museum ออกแบบโดย Sir Robert Smirke สถาปนิกชาวอังกฤษ ตัวอาคารด้านนอกถูกออกแบบในสไตล์ Greek Revival ซึ่งเป็นการเลียนแบบสถาปัตยกรรมกรีกคลาสสิก รูปแบบของเสาได้รับแรงบันดาลใจมาจากวิหารในกรีก ส่วนด้านในแกนกลางตัวอาคารได้รับการออกแบบในศตวรรษที่ 19 มีการพัฒนาสถาปัตยกรรมที่มีความทันสมัยผสมผสานกันได้เป็นอย่างดี เช่นห้องอ่านหนังสือทรงกลม ถึงแม้จะผ่านกาลเวลามาอย่างยาวนานจนสีของอาคารที่เคยเป็นสีขาวเริ่มเลือนลาง แต่ความสวยงามของสถาปัตยกรรมก็ยังคงสวยงามไม่เปลี่ยนไป
นอกจากนี้ British Museum ยังเปิดให้เข้าชมออนไลน์อีกด้วย สามารถเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ออนไลน์ British Museum ได้ที่ คลิ๊ก
The Italian Pavilion
Cr. archdaily
สถาปัตยกรรมสีขาว แห่งนี้มีชื่อว่า The Italian Pavilion ที่ตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่ที่เมือง Derby ประเทศสหรัฐอเมริกา โดย The Italian Pavilion แห่งนี้ถูกออกแบบโดยบริษัทสถาปนิก Nemesi ซึ่งเป็นผลงานการออกแบบที่ชนะรางวัลจากการแข่งขันการออกแบบระดับนานาชาติ Milan Expo โดย The Italy Pavilion แห่งนี้เป็นอาคารขนาด 6 ชั้น บนพื้นที่กว่า 14,000 ตารางเมตร อีกทั้งยังเป็นความท้าทายทางสถาปัตยกรรมและการสร้างสรรค์ ด้วยความซับซ้อนและนวัตกรรมในการออกแบบ วัสดุและเทคโนโลยีที่เลือกใช้ นอกจากนี้ตัวอาคารได้รับการออกแบบอย่างยั่งยืนด้วยการใช้กระจกโซลาร์เซลล์บนหลังคาเพื่อให้พลังงานแกตัวอาคารอีกด้วย
Cr. inhabitat