
Pointillism
“ จุด ” สิ่งเล็กๆที่สามารถสร้างสรรค์เป็นผลงาน ศิลปะได้อย่างคาดไม่ถึง และหนึ่งในรูปแบบงานศิลปะอย่าง Pointillism ก็ได้ทำให้เกิดเป็นผลงาน Master Piece ของศิลปินระดับโลกหลากหลายคนเลยทีเดียว และเทคนิคการเพ้นท์ที่ใช้จุดประกอบกันออกมากลายเป็นภาพหนึ่งภาพนี้เอง ได้กลายเป็นเสน่ห์สุดประทับใจสำหรับใครหลายๆ คน
ศิลปะที่สร้างจากจุด

Credit : finearttutorials .com
Pointillism หรือศิลปะที่สร้างจากจุด ในการสร้างสรรค์ผลงานภาพวาดแบบฉบับ Pointillism จะไม่ใช้วิธีเพ้นท์ลากพู่กัน สร้างพื้นสีของภาพแบบทั่วไป แต่จะเป็นการใช้การพู่กันมาจุดสีทีละจุดแทนการวาด จุดสีหลายๆ จุด เมื่อมาอยู่ใกล้ๆ กันเป็นกลุ่มก็จะทำให้เกิดเป็นงานศิลป์ที่งดงามออกมา สิ่งที่น่าแปลกยิ่งกว่าหากมองงานศิลป์ออกมาจากระยะไกล สายตาจะคอยทำหน้าที่ในการมองจุดสีเหล่านี้ผสมผสานกันออกมาเป็นภาพหนึ่งภาพ ซึ่ง Pointillism นั้นใช้วิทยาศาสตร์เป็นหลักการณ์ในการเพ้นท์ การสร้างสีจากจุดเล็กๆ จำนวนมาก ที่วางอยู่ใกล้กันจนเบลอเป็นภาพที่ตาเห็น โดยวิธีการนี้เป็นวิธีเดียวกับการทำงานของหน้าจอคอมพิวเตอร์ในปัจจุบันนั่นเอง
ที่มาของ Pointillism

Georges Seurat (จอร์จ เซอรา)
Credit : metmuseum
Pointillism เป็นที่นิยมจนถึงจุดที่ศิลปินมากมายพยายามสร้างภาพวาดทั้งหมดจากจุดสีเล็กๆ เหล่านี้เพื่อสร้างเอกลักษณ์ให้กับตนเอง แต่กระนั้นสิ่งที่ดูเหมือนง่ายก็ไม่ได้ง่ายดายอย่างที่วาดฝันเอาไว้ การใช้จุดสีมาสร้างภาพ ทั้งตำแหน่งของการจุด ขนาด และสีที่เลือกใช้ว่าจะให้กลมกลืนหรือโดดเด่นกลับยากกว่าการสร้างงานศิลปะแบบทั่วไปมาก
ยิ่งศิลปะแบบ Pointilism นี้เกิดขึ้นในยุคของศิลปะแบบ Impressionism ที่เน้นให้ภาพดูเบลอ คลุมเครือและโรแมนติกเป็นสไตล์ของงานศิลปะที่กำลังเป็นที่นิยม รวมถึงเป็นช่วงเวลาที่ศิลปินมากมายพยายามสร้างสไตล์งานศิลปะแบบใหม่กันขึ้นมา ดังนั้น Pointilism ที่ยากต่อการสร้างสรรค์ผลงานจึงไม่เป็นที่แพร่หลายเท่าไรนัก
สามารถดูงานศิลปะแบบ Impressionism ได้ที่บทความ Claude Monet ศิลปะยุค Impressionism

Credit : artincontext .org
แม้จะเกิดในยุค Impressionism แต่ Pointillism ก็ถูกมองว่าเป็นส่วนหนึ่งของ Post-Impressionist เนื่องจากเริ่มได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นระหว่างทศวรรษที่ 1880 ถึง 1890 ซึ่งเป็นปีหลังจาก Impressionist สิ้นสุดลงแล้ว โดยลัทธิ Pointillism มีศิลปินที่มีชื่อเสียงในช่วงเวลานั้นหลากลายคน นอกจาก Georges Seurat แล้วยังมี Paul Signac และศิลปินชาวฝรั่งเศส เบลเยียม และอิตาลีที่มีชื่อเสียงอีกหลายคนเป็นสมาชิกชั้นนำของกลุ่ม Pointillist รวมถึงยังมีศิลปินคนอื่น ๆที่ได้ทดลองใช้สไตล์ Pointillist ในช่วงเวลาสั้น ๆ ในอาชีพของพวกเขาเช่น Vincent van Gogh และ Pablo Picasso ซึ่งหลังจากปี 1890 เมื่อ Pointillism ถึงจุดสูงสุด มันก็ได้สิ้นสุดและนำไปสู่การพัฒนาขบวนการศิลปะ Fauvist art ในเวลาต่อมา
ศิลปินที่มีชื่อเสียงด้วยผลงานแบบ Pointillism
Georges Seurat- A Sunday Afternoon on the Island of La Grande Jatte

Credit : wikipedia
A Sunday Afternoon on the Island of La Grande Jatte เป็นภาพวาดโดย Georges Seurat มีขนาด 2×3 เมตร เปิดตัวที่นิทรรศการ Impressionist ในปี 1886 เป็นภาพวาดชาวปารีสในยามว่างบนเกาะในแม่น้ำ Seine (สถาบันศิลปะแห่งชิคาโก) ศิลปินใช้เม็ดสีที่ตัดกันและใช้การจุดที่เล็กและถี่ราวกับผ้าที่ถูกถักทอ ภาพวาดนี้ได้รับการพิจารณาอย่างกว้างขวางว่าเป็นผลงานสำคัญของศิลปะแบบ Pointillism ศิลปินใช้เวลาสองปีในการทำงานชิ้นนี้ ซึ่งเป็นภาพที่แสดงให้เห็นชีวิตประจำวันของผู้คนที่เพลิดเพลินกับบ่ายวันอาทิตย์ในสวนสาธารณะริมฝั่งแม่น้ำ Seine
ด้วยความประทับใจในรูปแบบใหม่ของภาพวาดนี้ ทำให้ศิลปินชาวเบลเยียมอย่าง Henry van de Velde, William Alfred Finch และคนอื่นๆ ได้หลุดพ้นจากลัทธิ Impressionist ในชั่วข้ามคืน พวกเขาเริ่มลดลวดลายในการสร้างงานของเขาลง และปรับเป็นรูปทรงนามธรรมมากขึ้น มีการจัดองค์ประกอบง่ายขึ้นเช่นเป็นโครงสร้างทางเรขาคณิต เรียกได้ว่าภาพวาด A Sunday Afternoon on the Island of La Grande Jatte นี้มีอิทธิพลอย่างมากในช่วงเวลานั้น
Paul Signac – Venice, The Pink Cloud

Credit : wikimedia
ภาพวาดนี้ถูกสร้างสรรค์ขึ้นในปี 1909 โดย Paul Signac ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของ Georges Seurat แม้จะใช้เทคนิคการวาดภาพแบบเดียวกัน แต่เขาก็มีจุดมุ่งหมายที่แตกต่างกัน ในขณะที่ Georges Seurat สร้างภาพวาดที่มีพื้นผิวภาพที่เป็นเนื้อเดียวกันโดยใช้สีที่สัมพันธ์กันและเน้นที่จังหวะของจุดและเส้น แต่ Paul Signac จะพยายามทำให้ภาพมีการผสมผสานระหว่างสีที่ตัดกัน อย่างสีที่สดใสและสีที่เข้มขรึม นอกจากนี้ Paul Signac ยังสร้างภาพวาดด้วยการแบ่งเป็นรูปทรงเรขาคณิต ก่อนจะใช้การจุดเป็นลวดลายที่แสดงออกอย่างเป็นธรรมชาติ จนทำให้ภาพของเขาได้รับคำขนานนามว่าเป็นรูปภาพที่มีความกลมกลืนและลงตัวของโทนสี

Antibes. Petit Port de Bacon (1917)
Credit : wikidata
ภาพวาด Antibes. Petit Port de Bacon ในปี1917 วาดโดย Paul Signac เป็นอีกหนึ่งภาพที่ตอกย้ำในชื่อเสียงด้านการใช้โทนสีที่ Paul Signac ใช้ในการสร้างผลงานของเขา
Vincent Van Gogh – The Sower (Sower with Setting Sun)

Credit : wikimedia
The Sower (Sower with Setting Sun) เป็นภาพวาดที่วาดโดย Vincent Van Gogh เป็นจิตรกรแนว Post-Impressionist ชาวดัตช์ เป็นหนึ่งในบุคคลที่มีชื่อเสียงและมีอิทธิพลมากที่สุดในประวัติศาสตร์ศิลปะตะวันตก Van Gogh นั้นถือได้ว่าเป็นสาวกของ Pointillism ในช่วงแรกเขาได้ทดลองวาดภาพด้วยการนำแนวคิดของ Georges Seurat มาใช้ด้วยความกระตือรือร้น แต่ก็ได้พบกับปัญหามากมายในการสร้างงาน จนในที่สุดเขาก็ได้พบแนวทางของตัวเองด้วยการนำรูปแบบการแสดงออกที่เป็นอิสระ ซึ่งเรียกได้ว่าเข้ากับธรรมชาติของเขามากขึ้น โดยรูปแบบของเส้นสายที่อิสระนี้ยังคงทำงานร่วมกับจุดและองค์ประกอบที่คล้ายกัน จึงเกิดเป็นภาพ The Sower (Sower with Setting Sun) ที่จะเห็นได้ว่าศิลปินไม่ได้ใช้เพียงแค่จุดในการสร้างงานเท่านั้น แต่ยังใช้รูปแบบที่อิสระเข้ามาผสมผสานไปด้วยกัน
Henri-Edmond Cross – The Iles d’Or

Credit : wikiart
Henri-Edmond Cross – The Iles d’Or สร้างสรรค์ขึ้นโดย Henri-Edmond Cross จิตรกรและช่างพิมพ์ชาวฝรั่งเศสมีบทบาทสำคัญในการพัฒนา Neo-Impressionism เขาเป็นที่รู้จักดีที่สุดจากวิธีการใช้สีและองค์ประกอบที่เป็นนวัตกรรมใหม่ของเขา ในปี 1884 เขาได้พบกับ Georges Seurat ซึ่งแนะนำให้เขารู้จักกับสไตล์การวาดภาพแบบ pointillist จึงทำให้เขาเริ่มนำจุดเข้ามาใช้กับงานของตนเอง
Henri-Edmond Cross เป็นศิลปินที่เป็นที่รู้จักดีที่สุดในการวาดภาพแบบ Divisionist style หรือการวาดแบบแบ่งแยก อย่างในภาพวาด The Iles d’Or ภาพนี้ก็เป็นภาพที่มีสไตล์การวาดแบบแบ่งแยกเช่นกัน โดยสามารถมองเห็นองค์ปประกอบได้อย่างชัดเจนเป็นสัดส่วน นอกจากนี้ผลงานของ Henri-Edmond Cross ยังโดดเด่นด้วยสีที่เปล่งประกาย ฝีแปรงที่จัดจ้าน และการใช้ศิลปะแบบจุด เขามักจะนำเสนอภาพทิวทัศน์ หุ่นนิ่ง และฉากชีวิตในชนบท
ปรีชา ปั้นกล่ำ – ราตรี ศรีมหานคร








































