เกาะเกาหลี
เกาหลี นอกจากเป็นศูนย์รวมของแหล่งช้อปปิ้ง มีสังคมเมืองที่ทันสมัยและน่าอยู่แล้ว ยังเป็นหนึ่งในประเทศที่มีหมู่เกาะสวยงามมากมาย ซึ่งแต่ละเกาะเต็มไปด้วยธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์และเงียบสงบ แถมยังมีกิจกรรมต่างๆ ให้นักท่องเที่ยวได้ร่วมสนุกกันอย่างหลากหลายเลยทีเดียว
หากใครมีโอกาสได้ดูซีรีส์เกาหลีบ่อยๆ อาจจะเคยเห็นทะเลของประเทศเกาหลีผ่านตามาบ้าง ซึ่งต้องบอกเลยว่าทะเลเกาหลีนั้นคนละฟิลกับทะเลไทยเลย แต่ว่าความสวยงามและความสนุกสนานกิจกกรมต่างๆ ไม่แพ้กันเลยทีเดียว และถ้าบอกว่าเกาะไหนในเกาหลีที่ดังที่สุด คนไทยคงพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า “เกาะนามิ” เพราะเป็นโลเคชั่นหลักของซีรีส์ที่โด่งดังอย่าง “Winter Love Song หรือ เพลงรักในสายลมหนาว”

เกาะนามิ

เกาะนามิ ถือเป็นเกาะที่มีธรรมชาติสมบูรณ์มากที่สุดแห่งหนึ่งในเกาหลี เต็มไปต้นไม้สูงตระหง่านหลากหลายพันธุ์ โดยเฉพาะต้นสนและทุ่งหญ้ากว้างใหญ่อันเขียวคละขจี ได้บรรยากาศสุดแสนโรแมนติกเหลือเกิน และเมื่อความสวยงามถูกถ่ายทอดผ่านซีรีส์เรื่องดัง ยิ่งตอกย้ำให้เกาะนามิ เป็นจุดมุ่งหมายหลักของเหล่านักท่องเที่ยวหลายเชื้อชาติ

Cr. klook

เกาะนามิ หรือ นามิชอม (Nami, Namiseom) เป็นเกาะที่ลอยตัวอยู่กลางแม่น้ำฮัน บนทะเลสาบชองเพียง ในจังหวัดคังวอน มีพื้นที่กว่า 290 ไร่ ตัวเกาะมีลักษณะคล้ายกับรูปทรงของใบไม้ที่กำลังลอยน้ำอยู่ เกาะนามิห่างจากกรุงโซลประมาณ 63 กิโลเมตร แต่ระยะทางก็ไม่ใช่อุปสรรคในการท่องเที่ยวของที่นี่ เพราะด้วยธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ที่ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวให้มาท่องเที่ยวตลอดทั้งปี ภายในเกาะยังมีกิจกรรมต่างๆ ให้ได้ร่วมสนุกกันมากมาย โดยเฉพาะการถ่ายรูปกับรูปปั้นของ “แบยองจุนและแชงจีอู ” พระนางซีรีส์เรื่อง Winter Love Song ซึ่งถือเป็นแลนด์มาร์คของเกาะเลยก็ว่าได้ อีกทั้งยังมีมุมให้ได้ถ่ายรูปมากมาย ไม่ว่าจะเป็น มุมอุโมงค์ต้นแปะก๊วย มุมอุโมงค์ต้นสน

Cr. klook

ส่วนใครที่ถ่ายรูปกับธรรมชาติพร้อมอัปโซเซียลกันอย่างเต็มที่แล้ว บนเกาะนามิยังมีกิจกรรมอื่นให้ร่วมสนุกมากมาย เช่น การโหนสลิงสูงข้ามเกาะ เล่นสวนน้ำ ตะลุยเครื่องเล่นที่สวนสนุก เหนื่อยๆ ก็พักเติมพลังที่ร้านอาหาร แต่ถ้าอยากพักชิลๆ ก็มีคาเฟ่มากมายให้เลือก

Cr. kkday

ซึ่งในแต่ละฤดูกาลจะได้บรรยากาศที่แตกต่างกันไป ช่วงฤดูหนาวบนเกาะแห่งนี้จะถูกปกคลุมด้วยหิมะขาวโพลน สามารถเล่นปั้นหิมะกันอย่างสนุกสนาน ถ้าเป็นฤดูร้อนใบไม้จะเขียวชอุ่ม และมีดอกไม้นานาพันธุ์ให้ได้ชม เช่น ดอกมูกุงฮวา ดอกไม้ประจำประเทศเกาหลี ที่กำลังชูช่ออกดอกเบ่งบานเต็มที่ ส่วนปลายฤดูหนาวไปจนถึงฤดูใบไม้ผลิยิ่งไม่ต้องพูดถึง ดอกซากุระเบ่งบานดึงดูดนักท่องเที่ยวได้อย่างแน่นหนา ในขณะที่เมื่อถึงฤดูใบไม้ร่วงทุกคนต่างอยากมาเยี่ยมชมความงามของใบไม้เหลืองอร่าม ตัดสลับกับบางโซนที่เป็นต้นเมเปิ้ลใบไม้เฉดแดงสีสันสดใสกว่า 300 ต้น สวยงามตัดกันอย่างกันอย่างกับภาพวาด เรียกได้ว่าบรรยากาศคุ้มค่าแก่การเยือนมากๆ

เกาะฮงโด (hongdo)

Cr. rootlessroamer

จุดเด่นของเกาะฮงโดคือหน้าผาหินสูงของชายฝั่งที่มีลักษณะเรียงรายแปลกตาเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวอยู่ทั่วเกาะ ให้นักปีนเขาได้ผจญภัย ที่สำคัญเกาะแห่งนี้ยังมีจุดชมวิวกว่าง 33 แห่ง ท้องทะเลสีฟ้าครามถูกโอบล้อมด้วยป่าไม้ธรรมชาติมากมายจากพืชพรรณกว่า 270 ชนิด สัตว์ป่ากว่า 170 สายพันธุ์ ทำให้นักเดินป่าทั้งหลายสุดฟิน และท้องทะเลอันอุดมสมบูรณ์ที่มีสัตว์แหวกว่ายมากมาย ดำน้ำดูปลาก็เป็นอีกกิจกรรมยอดฮิต ความอุดมสมบูรณ์นี้ทำให้เกาะแห่งฮงโดถูกยกให้เป็นเขตพื้นที่อนุรักษ์ธรรมชาติเมื่อปี ค.ศ. 1965 ก่อนจะได้รับการแต่งตั้งให้เป็นอุทยานแห่งชาติทางทะเลในปี ค.ศ. 1981

เกาะจินโด (Jindo)

Cr. lovesouthkorea.tumblr

คนรักทะเลและรักสัตว์ต้องมาเกาะนี้ “เกาะจินโด” เป็นเกาะที่มีพื้นที่ขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ของประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งนอกจากความสวยงามของทะเล ยังมีปรากฎการณ์ทางธรรมชาติที่น่าทึ่ง เรียกกันว่า Moses Miracle จะคล้ายๆ กับทะเลแหวกในเมืองไทย ที่เกิดขึ้นเพียงปีละครั้ง และอย่างน้อย 4 วัน ระหว่างช่วงกุมภาพันธ์ถึงมิถุนายนเท่านั้น!! เป็นปรากฎการณ์ที่ระดับน้ำทะเลลด จนสามารถมองเห็นทางเดินกลางทะเลที่มีความกว้างกว่า 35 เมตร ยาวกว่า 2.8 กิโลเมตร ซึ่งเกิดขึ้นบริเวณจุดเชื่อมระหว่างเกาะจินโดและเกาะโมโด ปรากฎนานนับชั่วโมง และเมื่อใดที่จะเกิดปรากฎการณ์ Moses Miracle ขึ้น ทางเกาะจะจัดงานเฉลิมฉลองอย่างยิ่งใหญ่ ซึ่งสามารถดึงดูดให้นักท่องเที่ยวที่ต้องการเดินข้ามเกาะที่เกาะจินโดได้อย่างล้นหลาม

Cr. animalsbreeds

สำหรับใครที่รักสุนัขบนเกาะแห่งนี้ยังเต็มไปด้วยน้องหมาพันธุ์ Jindo สุนัขพันธุ์ท้องถิ่นที่โด่งดังและได้รับความนิยมมากที่สุดในเกาหลี และขึ้นชื่อในเรื่องความซื่อสัตย์และจงรักภักดี นักเที่ยวสามารถแวะเล่นกับน้องๆ ได้ ไม่ดุ ไม่กัด เพราะทุกตัวได้รับการเลี้ยงดูและฝึกความเชื่องมาอย่างดี

เกาะคอเจ

Cr. kendallstuart.wixsite

เกาะคอเจ (Geoje) ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของเกาหลี ซึ่งประกอบไปด้วยเกาะน้อยใหญ่กว่า 400 เกาะ จนกลายเป็นเกาะที่มีขนาดใหญ่อันดับ 2 ของประเทศ มีวิวทะเลและชายหาดที่สวยงาม ท่ามกลางพื้นที่ป่าเขียวชอุ่มปกคลุมหน้าผาสูงให้บรรยากาศแสนสงบและน่าพักผ่อน โดยเฉพาะหาด Hill of the Wind ซึ่งโดดเด่นจนทำให้เกาะคอเจได้รับกล่าวขานเรื่องความสวยงาม เนื่องจากชายหาดเต็มไปด้วยก้อนกรวดสีดำ เมื่อโดนคลื่นสาดซัดกระทบชายฝั่งจะเกิดเสียงกังวาลไพเราะดั่งทำนองของเพลง

Cr. koreatraveleasy

ผู้คนทั่วไปที่เดินทางมาท่องเที่ยวเกาะคอเจส่วนใหญ่นอกจากการเล่นน้ำ ตกปลา เดินกินลมชมวิวริมชายหาดแล้ว ยังมีเส้นทางเดินป่าให้ร่วมผจญภัย มีถ้ำสวยงามรอบเกาะ ซึ่งถ้าใครอยากทัวร์ให้ครบ บนเกาะก็มีจุดให้เช่าจักรยานหรือรถจักรยานยนต์ขับบนถนนชมวิว ลุยถ้ำได้อย่างสบายใจ ส่วนใครที่มาใช่ช่วงฤดูใบไม้ผลิขอบอกว่าบนเกาะคอเจอากาศดีมากๆ เพราะอุณหภูมิอยู่ที่ 14-20 อาศาโดยประมาณ แถมทั่วทั้งเกาะยังเต็มไปด้วยดอกซากุระที่เบ่งบานสดใสอย่างเต็มที่ และยังมีดอกทิวลิป ดอกคามิลเลีย และดอกไม้อื่นๆ ให้ได้เชยชมมากมาย

เกาะเชจู

Cr. reservations4u2

เชจู (Cheju) ตั้งอยู่บนช่องแคบเกาหลีทางตะวันตกเฉียงใต้ เป็นเกาะที่ถูกล้อมรอบด้วยธรรมชาติที่แสนงดงาม การก่อตัวของหินริมหาดที่น่าทึ่ง ชายหาดสวย และอากาศที่อบอุ่นสามารถเที่ยวได้ทั้งปี เงียบสงบ เหมาะสำหรับคนอยากพักผ่อนและพักตากอากาศ เพราะเป็นเกาะที่เหมาะสำหรับการผักพ่อน บนเกาะเชจูจึงมีกิจกรรมและทริปผจญภัยให้ร่วมสนุกกันมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ปีนเขา เดินป่า ชมน้ำตก ฯลฯ นอกจากนี้ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวภายในเกาะให้แวะชมกันหลากหลาย ได้แก่

อุทยานแห่งชาติภูเขาฮัลลาซาน

Cr.ttnotes

ที่นี่ถูกขนามนามว่าเป็นอัญมณีมงกุฎแห่งเกาะเชจูของเกาหลีใต้ เนื่องจากเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดของประเทศ ด้วยความสูงถึง 1,950 เมตร จากระดับน้ำทะเล ภูเขาฮัลลาซาน (Hallasan National Park) ขึ้นชื่อว่าเป็นสถานที่ที่มีธรรมชาติสวยงามมากที่สุดของเกาะ และมีพันธุ์ไม้กว่า 1,800 สายพันธุ์ นอกจากเที่ยวชมธรรมชาติแล้วนักท่องเที่ยวยังนิยมมาปีนเขา ซึ่งหลายคนการันตีว่าบนยอกเขาฮัลลาซานมีบรรยากาศวิว 360 องศา ที่สวยงามมาก

หมู่บ้านซองอึบ

Cr. gotravelly

ซองอึบ (Seongeup Folk Village) เป็นหมู่บ้านแบบพื้นเมืองที่ถูกยกให้เป็นเขตอนุรักษ์วัฒนธรรมพื้นเมืองของเกาหลีใต้ เนื่องจากหมู่บ้านแห่งนี้มีลักษณะการออกแบบที่ดูแปลกตา กำแพงบ้านถูกทำขึ้นมาจากหินลาวาภูเขาไฟ ส่วนหลังคาบ้านทำมาจากฟาง แต่โดยรวมแล้วเป็นแบบบ้านของคนเกาหลีในยุคสมัยโบราณ

วัดยักชอนซา

Cr. hamatama.wordpress

ไปไกลถึงเกาะชจู ถ้าใครอยากแวะทำบุญ บนเกาะก็มีวัดยักชอนซา (Yakcheonsa Tample) ให้ไปกราบสักการะกัน ว่ากันว่าวัดแห่งนี้มีมาตั้งแต่ราชวงศ์โซชอน ตั้งอยู่บนพื้นที่ขนาดใหญ่กว่า 3,305 ตารางเมตร จุดเด่นของวัดนี้คือมีพระพุทธรูป 3 องค์ เปรียบดั่งกับอดีต ปัจจุบัน และอนาคต ที่สามารถขอพรให้สุขสมหวังได้

ยอดเขาซองซาน อิลชุบง

Cr. travelgram_korea

ยอดเขาซองซาน อิลชุบง (Seongsan Ilchulbong Peak) ถือเป็นสถานที่ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากเนื่องจากเป็นจุดที่สามารถชมวิวพระอาทิตย์ตกได้สวยที่สุดอีกจุดหนึ่งบนเกาะเชจู

ทุ่งดอกหญ้าพิงค์มูลลี่

Cr. dailymail

สายเที่ยว สายไอจี ต้องไม่พลาดที่นี่ นั่นก็คือทุ่งดอกหญ้าพิงค์มูลลี่ (Pink Muhly Grass) ดอกหญ้าสีชมพูที่ถ่ายรูปออกมายังไงก็สวยชิคอวดคนบนโซเซียลให้อิจฉาเล่นๆ ถ้าใครไม่อยากพลาดทุ่งดอกหญ้าพิงค์มูลลี่แนะนำให้ไปช่วงที่ดอกหญ้าบานในช่วงกันยายนถึงพฤศจิกายนเท่านั้น ไปช่วงอื่นอาจไม่สวยเท่า แต่ยังไงก็ได้บรรยากาศสุดชิล แสนโรแมนติกสุดๆ

พิพิธภัณฑ์คิตตี้แห่งเกาะเชจู

Cr. embroideredspacemachine

สาวกคิตตี้ต้องไม่พลาดพิพิธภัณฑ์คิตตี้แห่งเกาะเชจู (Hello Kitty Jeju Island) เพราะพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ได้รวบรวมทุกอย่างที่เกี่ยวกับคิตตี้มาไว้ในที่เดียว แถมยังมีกิ๊ฟช้อปเล็กๆ ขายของที่ระลึกจากคิตตี้ และคาเฟ่ให้ได้นั่งชมโลกของคิตตี้ได้อีกด้วย
ถือเป็นอีกหนึ่งประเทศที่มีธรรมชาติและท้องทะเลที่สวยงามและหลากหลายมากเลยนะคะ ถ้าใครอยากเที่ยวทะเลต่างประเทศ เกาหลีก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจมากๆ เลยค่ะ ว่าแล้วก็เก็บกระเป๋าไปกันเลยดีกว่า…..
สามารถติดตามผลงานต่าง ๆ ของทาง Bareo ได้ที่ช่องทางเว็บไซต์ของ Bareo หรือทาง Facebook : Design by Bareo ที่จะคอยอัพเดทข่าวสาร งานดีไซน์ และผลงานการออกแบบตกแต่งภายในมากมาย ให้ท่านผู้อ่านได้รับความรู้ และความสนุกตลอดทั้งปี
ขอขอบคุณข้อมูลบางส่วนจาก
koreatraveleasy
kendallstuart.wixsite
expredia

CONTENT RELATED

NEW CONTENT

PORTFOLIO