Sui Dynasty :
Huanghe & Yangtze

แม่น้ำฮวงโห (Huang He ) และแม่น้ำแยงซีเกียง ( Yangtze) เป็นแม่น้ำสายสำคัญที่หล่อเลี้ยงชีวิตของชาวจีนมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน และยังถือเป็นแหล่งคมนาคมสำคัญที่ทำให้ประเทศจีนเจริญรุ่งเรืองดั่งเช่นทุกวันนี้
โดยแม่น้ำทั้ง 2 สายนี้ ทั้งแม่น้ำฮวงโหและแม่น้ำแยงซีเกียงนั้น เป็นแม่น้ำที่มีความยาวเป็นอันดับ 2 และอันดับ 1 ตามลำดับ ซึ่งต่างมีประวัติและความเป็นมาที่ยาวนานตั้งแต่อดีต วันนี้ บาริโอ จะพาคุณมาทำความรู้จักกับแม่น้ำทั้ง 2 สายนี้ให้มากขึ้นกันค่ะ

แม่น้ำฮวงโห (Huang He)

Credit : ancientrivervalleys .weebly .com
แม่น้ำฮวงโหหรือที่เรารู้จักกันในชื่อ “แม่น้ำเหลือง” (เรียกตามสีของ แม่น้ำ ) เป็นแม่น้ำที่ยาวเป็นอันดับ 2 ของประเทศจีน รองลงมาจากแม่น้ำแยงซี และถือเป็นแม่น้ำที่มีความยาวเป็นอันดับ 6 ของโลก ซึ่งมีความยาวประมาณ 5,464 กิโลเมตร โดยมีต้นกำเนิดที่ภูเขา Bayan Harในมณฑลชิงไห่ ทางตะวันตกของจีน ไหลผ่าน 9 จังหวัด และไหลลงสู่ทะเลโป๋ไห่ใกล้เมืองตงอิ๋งในมณฑลซานตง
สาเหตุที่แม่น้ำฮวงโหว่าแม่น้ำเหลือง เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่มีตะกอนดินทราย ทำให้เป็นน้ำเป็นสีน้ำตาลเหลือง แต่ยังเป็นพื้นที่ที่มีความอุดมสมบูรณ์เหมาะแก่การเพาะปลูกอย่างมากเช่นกัน ซึ่งเหมาะสำหรับการเพาะปลูกจำพวกข้าวฟ่าง ซึ่งเป็นพืชธัญญาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง เป็นต้น และมีปริมาณดินตะกอนที่สูงทำให้ด้านล่างของแม่น้ำเกิดน้ำท่วมได้ง่าย บ่อยครั้งที่เกิดอุทกภัยครั้งยิ่งใหญ่ขึ้น นำมาซึ่งความเสียหายทั้งชีวิตและทรัพย์สิน จนแม่น้ำฮวงโหถูกขานนามว่า “ แม่น้ำ วิปโยค ”
นักประวัติศาสตร์จีนมักจะอ้างถึงฮวงโหว่าเป็นแหล่งกำเนิดของอารยธรรมจีน มีบทบาทสำคัญยิ่งในประวัติศาสตร์จีนมากว่า 3,000 ปี และมีการขุดพบซากฟอสซิลของมนุษย์วานร ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นบรรพบุรุษของชาวจีน ที่มีอายุประมาณ 5-6,000 ปีมาแล้ว ผู้คนอาศัยอยู่ในหมู่บ้านริมฝั่งแม่น้ำเหลืองตอนกลางและทำการเกษตร ในขณะที่ตามต้นน้ำตอนกลางและตอนล่างของระบบอารยธรรมจีนและเกษตรกรรมได้รับการพัฒนาขึ้นเป็นครั้งแรก การควบคุมแม่น้ำและพื้นที่ระบายน้ำทำให้มีธัญพืชเหลือเฟือที่จำเป็นสำหรับการขยายตัวทางทหารและการเมืองของจีนที่เริ่มต้นในราชวงศ์ฉิน (221–207 ปีก่อนคริสตกาล) นับเป็นภูมิภาคที่เจริญรุ่งเรืองที่สุดในประวัติศาสตร์จีนยุคแรก
ในส่วนของการคมนาคมแม่น้ำฮวงโหถือเป็นแม่น้ำสายสำคัญที่ใช้ในการขนส่งและเดินทาง แลกเปลี่ยนสินค้ากัน เพราะในอดีตนั้นการเดินทางทางน้ำรวดเร็วกว่าการเดินทางทางบก และนิยมใช้เรือบรรทุกในการขนส่งสินค้า เนื่องจากมีราคาที่ถูกกว่าการขนส่งทางบกนั่นเอง
และก่อนจะมีสะพานและเรือยนต์ ชาวจีนใช้แพข้ามแม่น้ำ ซึ่งมักจะทำจากหนังหมูและหนังแกะที่ได้รับการดูแลเป็นพิเศษ ที่มีลักษณะพองตัวแล้วนำมามัดเข้าด้วยกันทำให้สามารถลอยตัวบนได้ แพแต่ละลำใช้หนังประมาณ 9 ถึง 12 ผืน ซึ่งมักจะบรรทุกคนได้ไม่เกิน 4-5 คน โดยบางครั้งหนังก็ถูกพาดไปที่โครงไม้เพื่อให้แพลอยน้ำได้มากขึ้น และแพดังกล่าวยังคงใช้อยู่ในมณฑลกานซูชิงไห่และหนิงเซี่ยในปัจจุบัน
นอกจากแม่น้ำฮวงโห จะเป็นแม่น้ำสายประวัติศาสตร์แห่งหนึ่งของประเทศจีนแล้ว พื้นที่ใกล้เคียงยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญอีกด้วย

เมืองเจิ้งโจว

Credit : dziendobry .tvn .pl
ไปถึงแม่น้ำฮวงโหแล้ว อย่าลืมล่องเรือชมเมือง เมืองเจิ้งโจว (Zhengzhou) ที่อยู่ทางฝั่งใต้ของแม่น้ำฮวงโห ซึ่งถือเป็นไฮไลท์เด็ด ที่คุณจะได้ชมเมืองที่เต็มไปด้วยความศิวิไลซ์ ท่ามกลางตึกน้อยใหญ่มากมาย แถมตอนกลางคืนยังเต็มไปด้วยแสงสว่างจากแสงไฟจากทุกหนแห่ง ชวนให้ตื่นตาตื่นใจ หากอยากสัมผัสบรรยากาศแบบนี้ได้อย่างลึกซึ้ง ต้องไม่ควรพลาดเมืองเจิ้งโจวเด็ดขาด
สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญอื่นๆ ในเมืองเจิ้งโจว เช่น เจิ้งโจวกรีนแลนด์เซ็นทรัลพลาซ่า ป่าเจดีย์ที่วัดเส้าหลิน ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเจิ้งโจว ภูเขาซอง อารามเส้าหลิน เป็นต้น

หนิงเซียะ

Credit : cnto .org .au/ningxia
มากันที่ หนิงเซียะหุย (Ningxia Hui) ซึ่งเป็นพื้นที่เขตปกครองตนเองทางตะวันตกเฉียงเหนือของสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยเฉพาะที่รีสอร์ตชาโปโถ Ningxia ที่ถูกล้อมรอบด้วยเนินทรายขนาดมหึมา ถูกยกให้เป็นสถานที่ที่งดงามที่สุดในการชมแม่น้ำฮวงโห แต่เส้นทางส่วนใหญ่จะคดเคี้ยวไปตามที่ราบให้ความงดงามและน่าท้าทายไปอีกแบบ ส่วนไฮไลท์สำคัญของความงามในหนิงเซียะ คือ มีภาพวิวเป็นเส้นขอบฟ้าที่คมราวกับใบมีด ตัดกับทะเลทรายสีน้ำตาลผืนใหญ่ รับกับแม่น้ำฮวงโห ให้ความรู้สึกสวยงามและประทับใจได้ไม่รู้ลืมเลยค่ะ
นอกจากนี้ยังมีสถานที่ชมวิวที่ดีที่สุดอีก 2 แห่ง ในการชมแม่น้ำฮวงโห ได้แก่ จุดชมวิวแม่น้ำฮวงโหในไคเฟิง และจากสวนแม่น้ำฮวงโหนอกเมืองเจิ้งโจว เป็นต้น ใครมีโอกาสมาเยือนก็อย่าลืมแวะไปเที่ยวกันนะคะ

แม่น้ำแยงซีเกียง (Yangtze)

Credit : dinromerohistory .wordpress .com
แม่น้ำแยงซีเกียงเป็นแม่น้ำสายหลักและสายสำคัญของจีนมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน และถือเป็นแม่น้ำที่มีความยาวมากที่สุดในเอเชีย และยาวเป็นอันดับ 3 ของโลก โดยมีความยาวที่ 6,300 กิโลเมตร
จุดเริ่มต้นของแม่น้ำมาจากที่ราบสูงทิเบต ขณะที่ปากแม่น้ำไหลลงสู่ทะเลจีนตะวันออก ตัดผ่านพื้นที่ภูเขาหลายแห่ง ความยาวไหลผ่านกว่า 10 จังหวัดและหลายเมือง
ด้วยขนาดที่กว้างใหญ่ แม่น้ำแยงซีจึงเป็นแหล่งน้ำที่สำคัญมากสำหรับประเทศจีน ดังนั้นแม่น้ำแยงซีจึงไม่เพียงแต่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมเท่านั้น แต่ยังมีความสำคัญทางเศรษฐกิจอีกด้วย จีนอาศัยแม่น้ำสายนี้เป็นทางน้ำหลักในการขนส่งและคมนาคม มาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ในทำนองเดียวกันแม่น้ำสายเล็ก ๆ ที่เชื่อมต่อกับแม่น้ำแยงซีเรียกว่าแควก็มีความสำคัญต่อเศรษฐกิจด้วยเช่นกัน (แควคือลำธารหรือแม่น้ำ ที่ไหลไปสู่ลำธารหรือแม่น้ำที่ใหญ่กว่า)
เมื่อมองย้อนกลับไปในประวัติศาสตร์ของแม่น้ำแยงซี นับเป็นแหล่งน้ำที่มีชีวิต ถูกใช้ประโยชน์เพื่อการชลประทาน เป็นช่องทางตามธรรมชาติในการขนส่ง ทั้งยังช่วยส่งเสริมในเรื่องของการเกษตรจนได้รับการพัฒนาอย่างรวดเร็ว ที่สำคัญสามเหลี่ยมปากแม่น้ำแยงซีได้กลายเป็นยุ้งฉางของประเทศ หรือแหล่งเศรษกิจ เนื่องจากแม่น้ำแยงซีเป็นเส้นทางเดินเรือตามธรรมชาติทั้งจากทางตะวันออก ตะวันตก และแกรนด์คาแนลทางใต้-เหนือ ตัดผ่านในเมืองหยางโจว มณฑลเจียงซู ทำให้การขนส่งทางน้ำสะดวกสบายเป็นอย่างมาก ทั้งสำหรับผู้คนและสิ่งของ จนเศรษฐกิจพัฒนาและเติบโตได้อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งตั้งแต่ราชวงศ์ใต้และราชวงศ์เหนือ (ค.ศ. 420-589) จนถึงขณะนี้ สามเหลี่ยมปากแม่น้ำแยงซียังคงเป็นภูมิภาคที่เจริญรุ่งเรืองที่สุดแห่งหนึ่งของจีน
แม่น้ำแยงซีมีบทบาทสำคัญในประวัติศาสตร์วัฒนธรรมและเศรษฐกิจของจีน เป็นเวลาหลายพันปีที่แม่น้ำแห่งนี้ ถูกใช้เพื่อการชลประทาน การสุขาภิบาล การขนส่ง อุตสาหกรรม การทำเครื่องหมายเขตแดน และสงคราม สามเหลี่ยมปากแม่น้ำแยงซีที่เจริญรุ่งเรืองสร้างรายได้มากถึง 20% ของ GDP ของจีน
และเขื่อน Three Gorges บนแม่น้ำแยงซีเป็นสถานีไฟฟ้าพลังน้ำที่ใหญ่ที่สุดในโลกที่ใช้งานอยู่ ในช่วงกลางปี ​2014 รัฐบาลจีนได้ประกาศว่ากำลังสร้างเครือข่ายการขนส่งหลายชั้น ซึ่งประกอบด้วยทางรถไฟ ถนน รวมถึงสนามบิน เพื่อสร้างแถบเศรษฐกิจใหม่ และให้การคมนาคมในด้านต่างๆ สะดวกสบายมากขึ้น
นอกจากจะเป็นแม่น้ำสายสำคัญในหลายๆ ด้าน แม่น้ำแยงซียังเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญที่เป็นจุดมุ่งหมายของนักท่องเที่ยวหลายล้านคนจากทั่วโลก โดยเฉพาะ The Yangtze Three Gorges ที่สวยงามราวกับภาพวาด

The Yangtze Three Gorges

Credit : chinadiscovery .com
ช่องแคบซานเสีย (The Yangtze Three Gorges) เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่โด่งดังที่สุดในแม่น้ำแยงซี ด้วยเสียงลือเสียงเล่าขานถึงความงดงามของวิวทิวทัศน์ที่สวยงามจนแทบลืมหายใจ และบางคนยกให้วิวของช่องแคบซานเสีย สวยงามราวกับภาพวาดเลยทีเดียว
ลักษณะของช่องแคบซานเสีย เป็นช่องเขาสามช่องที่อยู่ติดกันตามแนวตอนกลางของแม่น้ำแยงซี มีภูมิอากาศแบบมรสุมกึ่งเขตร้อน และเป็นที่รู้จักจากทิวทัศน์ “จุดชมวิวสามโตรก” ที่ได้รับการจัดให้เป็นพื้นที่ชมวิวระดับ AAAAA ซึ่งเป็นระดับสูงสุดของการจัดอันดับ หมายถึงพื้นที่ชมวิวนี้ดีและสวยมาก และอุดมสมบูรณ์น่าเที่ยว (คล้ายๆ กับการจัดระดับโรงแรมโดยให้คะแนนเป็นดาวแบบบ้านเรา เช่น โรงแรมดีมาก จัดอยู่ในระดับ 5 ดาว เป็นต้น) โดยสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งชาติจีน
ช่องแคบซานเสียประกอบด้วย ช่องเขาคูตัง ( Qutang) ช่องเขาหวู่ (Wu) และช่องเขาซีหลิง (Xiling) มีความยาว 193 ไมล์ หรือประมาณ311 กิโลเมตร โดยมีจุดเริ่มต้นที่เมือง Baidi ของฉงชิ่งทางทิศตะวันตกและสิ้นสุดที่ช่องแคบหนานจิง ที่เมือง Yichang มณฑลหูเป่ย์ทางทิศตะวันออก
โดยความงามของช่องแคบซานเสีย เคยถูกบันทึกไว้ในหนังสือ Commentary on the Water Classic ผลงานของ Li Daoyuan นักเขียนและนักภูมิศาสตร์ชาวจีน ซึ่งเขาได้บรรยายไว้ว่า มีภูเขาที่ไร้รอยต่อทั้ง 2 ด้านของ Three Gorges โขดหินที่ทับซ้อนกันเป็นชั้นๆ เป็นเกราะกำบังท้องฟ้าและแสงแดด เพื่อให้มองเห็นดวงอาทิตย์ได้เฉพาะตอนเที่ยงวัน และดวงจันทร์จะปรากฏเฉพาะตอนเที่ยงคืนเท่านั้น ในฤดูร้อนน้ำตกจากภูเขาสูงตกกระทบกับโขดหิน สร้างภาพทิวทัศน์ที่สวยงาม ส่วนฤดูหนาวและฤดูใบไม้ผลิ เงาของหินและไม้จะสะท้อนในผืนน้ำอันแสนสะอาด ประกอบกับต้นไม้งาม ภูเขาสูงตระหง่าน และหญ้าเขียวขจี ให้ภาพวิวแสนสวยงามและสมบูรณ์แบบ

Shennong Stream

Credit : westchinago
ลำธารเสินหนง (Shennong Stream) ตั้งอยู่ในเขต Badong มณฑลหูเป่ย์ ด้วยความยาวโดยรวม 60 กิโลเมตร มีต้นกำเนิดจากทางใต้ของ Shengnongjia (ป่าดึกดำบรรพ์ในหูเป่ย์) และไหลจากเหนือลงใต้และสุดท้ายถึงแม่น้ำแยงซีผ่านช่องเขา Wu จุดเด่นของ Shennong Stream คือทิวทัศน์ธรรมชาติดั้งเดิมและบริสุทธิ์ ประวัติศาสตร์ลึกลับ เรื่องราวและประเพณีพื้นบ้านเกี่ยวกับหน้าผาที่แขวนโลงศพไม้ และวัฒนธรรมผู้ติดตามในท้องถิ่น และวัฒนธรรมชาติพันธุ์ในท้องถิ่นที่น่าสนใจอื่น ๆ
Shennong Stream มีชื่อเสียงในด้านทัศนียภาพอันงดงามและถูกประกาศให้เป็น “สถานที่ท่องเที่ยว AAAAA” หรือสถานที่น่าเที่ยวติดระดับดีมาก โดยได้รับการยกย่องว่าเป็น “ยอดเขาอันดับ 1 ในภาคกลางของจีน” นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นเรือสำปั้นแบบดั้งเดิม ล่องลอยเพื่อชมน้ำตกที่ไหลลดหลั่น หน้าผาสูงชัน ถ้ำหินปูน น้ำพุสามสี และฝูงปลา นก และลิงอันน่าตื่นตาตื่นใจ
ลำธารเซินหนง มีประวัติยาวนานกว่า 2,000 ปี ทั้ง 2 ฝั่งของลำธาร Shennong มีภูเขาสีเขียวมรกตสูงตระหง่านอย่างต่อเนื่องและคดเคี้ยว มีลักษณะที่หลากหลาย งดงาม สง่างาม แปลกประหลาด และสูงชัน ซึ่งก่อตัวเป็นช่องเขาที่แตกต่างกัน 4 ช่อง ได้แก่ ช่องเขา Longchang ช่องเขานกแก้ว ช่องเขา Mianzhu และช่องเขา Shennong
ไฮไลท์ในการท่องเที่ยวชมวิวใน Shennong คือ การล่องบนเรือสำปั้นท้องถิ่น พร้อมชื่นชมโลงศพไม้ที่แขวนไว้ตามบนหน้าผาชัน ซึ่งเป็นพิธีฝังศพของชาวปัวโบราณ บรรพบุรุษของกลุ่มชาติพันธุ์ถู่เจียในท้องถิ่น ว่ากันว่ายิ่งแขวนโลงศพไว้บนหน้าผาสูงเท่าไร ตำแหน่งทางการงานก็จะดีขึ้น และลูกหลานของคนตายก็จะมีชีวิตที่เจริญรุ่งเรือง
ไม่แปลกใจเลยค่ะว่าทำไมประเทศจีนถึงเจริญรุ่งเรือง และเป็นเมืองเศรษฐกิจของโลกมาจนถึงทุกวันนี้ เพราะมี ” แม่น้ำ ” สายสำคัญ ที่หล่อเลี้ยงชีวิตและความเป็นอยู่ของชาวจีน อย่างแม่น้ำฮวงโหและแยงซีนี่เอง
สามารถติดตามผลงานต่าง ๆ ของทาง Bareo ได้ที่ช่องทางเว็บไซต์ของ Bareo หรือทาง Facebook : Design by Bareo ที่จะคอยอัพเดทข่าวสาร งานดีไซน์ และผลงานการออกแบบตกแต่งภายในมากมาย ให้ท่านผู้อ่านได้รับความรู้ และความสนุกตลอดทั้งปี
หรือหากสนใจจะออกแบบตกแต่งภายในกับทาง Bareo ทางเราก็มีบริการออกแบบภายในครบวงจร โดยสามารถอ่านรายละเอียดการให้บริการของเราได้ที่นี่ คลิ๊ก
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
thechinaguide .com
artsandculture.google .com
wikipedia .org
China Travel Books

CONTENT RELATED

NEW CONTENT

PORTFOLIO