Bareo-Isyss รับออกแบบตกแต่งภายใน ออกแบบภายใน ตกแต่งภายใน Interior design Thailand

      Merry Christmas and Happy New Year แฟนๆ บาริโอกันล่วงหน้าค่ะ แหม...ก็บรรยากาศแห่งความสุขลอยฟุ้งมาพร้อมกับอากาศเย็นสบายขนาดนี้ ได้เวลาแห่งการเฉลิมฉลองอย่างเต็มที่แล้วล่ะ สายไหนถนัด Party หรือ Dance on the floor ก็จัดไปให้มันส์สุดๆแต่ถ้าใครชอบแบบชิลล์ชิลล์ ตามองจอ มือหยิบป็อปคอร์น นั่งดูหนังหน้าทีวีในบ้าน เชิญทางนี้เลยค่ะ เพราะ Karunteeได้คัดสรรหนังคริสต์มาสคุณภาพดี หาดูยาก มาไว้ที่นี่ที่เดียว!!

White Christmas (1954)

      White Christmas เป็นภาพยนตร์ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากเพลง “White Christmas” เพลงดังจากภาพยนตร์เรื่อง  Holiday Inn ซึ่งเป็นเรื่องราวของสองคู่หู (รับบทโดย บิงครอสบี้ กับ แดนนี่ เคย์น)ที่เกิดขึ้นในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่ต้องออกไปรบในต่างแดน ซึ่งแต่ละคนต่างเฝ้ารอเวลาที่จะกลับบ้าน โดยเฉพาะในวันคริสต์มาส ความน่ารักของเรื่องนี้นอกจากความรักแบบหนุ่มสาวแล้ว ยังอบอวลและเต็มไปด้วยความอบอุ่นระหว่างเจ้านายกับลูกน้อง ที่พยายามทำทุกวิถีทางเพื่อให้นายพลของพวกเขามีความสุข ยอมลงทุนถึงขั้นป่าวประกาศโดยการ “โฆษณา” ออกทีวี เพราะต้องการรวบรวมเพื่อนพ้องที่เคยรบในช่วงสงครามให้มารวมตัวกันอีกครั้ง นอกจากเป็นหนังที่ดูแล้วมีความสุขและอบอุ่นใจ เพลงที่ใช้ประกอบเรื่องนี้ยังไพเราะ เพราะพริ้ง โดยเฉพาะ “White Christmas” เพลงเอกของเรื่องที่โด่งดังจนนักร้องหลายคนนำมา Cover ใหม่แทบทุกปีเรียกได้ว่าเป็นเพลงคริสต์มาสที่อมตะข้ามศตวรรษกันเลยทีเดียว

The Muppet Christmas carol (1992)

“คุณเคยเห็นหุ่นพูดได้ไหม”
“ถ้าหุ่นพูดได้คุณจะรู้สึกอย่างไร”
“จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อหุ่นไร้ชีวิตกลับมีชีวิตขึ้นมา”คำตอบก็คือ “น่ารัก”มากกว่า “น่ากลัว” น่ะสิ

      The Muppet Christmas carol เป็นภาพยนตร์ที่ดัดแปลงมาจากบทประพันธ์เรื่อง A Christmas Carol (1951) ที่ได้ถูกนำเสนอผ่านหุ่นกระบอกแทบทั้งหมด ผลงานการสร้างสรรค์ของ Jim Henson เจ้าพ่อหุ่นเชิดชื่อดัง ที่ทำให้หุ่นมีชีวิตชีวา การเดินเรื่องของตัวหนังที่มีความเข้มข้นและเรื่องของการผจญภัยที่ทำให้คนดูตื่นเต้นและลุ้นไปกับตัวละคร

Meet Me in St.Louis(1944)

      Meet Me in St.Louis เป็นภาพยนตร์เพลงอีกหนึ่งเรื่องที่แนะนำว่า “ต้องดู” ซึ่งเป็นหนังที่ถูกนำมาฉายซ้ำทุกปีในช่วงคริสต์มาส เพราะอะไร? คุณต้องหาคำตอบด้วยตัวเอง...เรื่องนี้ถือเป็นการเริ่มต้นแจ้งเกิดจูดี้ การ์แลนด์ (Judy Garland) ในฐานะดาราหญิงตำนานอมตะของฮอลลีวูด และเธอเป็นคนแรกที่ร้องเพลง “Have yourself a merry little Christmas”ในฉากที่กำลังปลอบใจและให้กำลังใจน้องสาววัย 5 ขวบของเธอ นับเป็นฉากแห่งความทรงจำที่ทำเอาหลายๆ คนซาบซึ้งประทับใจ และ Have yourself a merry little Christmasก็ได้กลายเป็นเพลงยอดนิยมตลอดกาลของเทศกาลคริสต์มาสมาจนถึงปัจจุบัน

Going My Way (1945)

      Going My Way เป็นผลงานการกำกับของ Leo McCareyนำแสดงโดยBing Crosby และ Barry Fitzgerald ภาพยนตร์แนวคอมเมดี้ดราม่าที่คว้ารางวัล “ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม” บนเวทีออสการ์ครั้งที่ 17 ประจำปี 1945 เรื่องราวของบาทหลวงหนุ่มผู้เคยใช้ชีวิตอันเต็มไปด้วยสีสัน ตัดสินใจนำความรู้ด้านศาสนามาช่วยเหลือเด็กในการแก้ปัญหาชีวิตและระดมทุนและหาเงินมาสร้างโบสถ์ จนสามารถเอาชนะใจบาทหลวงคนอื่นๆ ได้สำเร็จ

The Snowman(1982)

      The Snowman เป็นอีกหนึ่งภาพยนตร์แอนิเมชั่น ที่ความน่ารักของตัวละคร สามารถเข้าไปอยู่ในใจของผู้ชมได้อย่างรวดเร็ว ทำให้กลายเป็นหนังที่สร้างความประทับใจ จนช่องเคเบิลของอังกฤษต้องนำมาฉายในวันคริสต์มาสเป็นประจำทุกปี โดยเล่าความมหัศจรรย์ของเด็กผู้ชาย ที่ได้ปั้นตุ๊กตาหิมะในคืนก่อนวันคริสต์มาส แต่กลับเกิดเรื่องราวที่ไม่คาดคิดขึ้น เมื่อหุ่นหิมะที่เขาปั้น กลับมีชีวิตขึ้นมา และพาเขาผจญภัยไปยังขั้วโลกเหนือ แถมยังนำพาเขาไปเจอซานตาคลอสตัวจริงอีกด้วย

It's a Wonderful Life (1946)

      “รู้ว่ามีอยู่ก็เกือบสายไป” คงเป็นคำพูดที่สื่อถึงภาพยนตร์เรื่องนี้ได้เป็นอย่างดีเลยล่ะ ภาพยนตร์เรื่อง“It’s Wonderful Life” ผลงานของผู้กำกับฝีมือฉมังอย่าง Frank Capra นำแสดงโดยดาราดังแห่งยุค ‘James Stewart’ และ ‘Donna Reed’ เป็นเรื่องราวของจอร์จ เบลีย์นักธุรกิจหนุ่มที่กำลังประสบปัญหาและเกิดความล้มเหลวในชีวิต จนทำให้เขาไม่อยากมีชีวิตต่อไป แต่เพราะความดีที่เขาได้เคยทำไว้ทั้งกับตนเองและคนรอบข้าง พร้อมแรงสวดมนต์และภาวนาของเพื่อนพ้องของจอร์จเทวดาบนสวรรค์จึงได้ลงมาให้ความช่วยเหลือ โดยทำให้เขากลายเป็นคนไร้ตัวตนแต่ยังวนเวียนอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เขาเคยใช้ชีวิต เพราะเหตุนี้เองทำให้จอร์จได้รู้ซึ้งและเข้าใจว่าชีวิตเขามีค่าเช่นไรทำไมคนอื่นค้นพบและมองเห็นความดีในตัวเขา แต่เขากลับมองไม่เห็นคุณค่าของตนเองเลยเรื่องนี้นอกจากความสุขและความประทับใจแล้ว ยังมีข้อคิด เตือนใจและสอนอะไรให้เราได้รู้หลายๆ อย่างอีกด้วย

The Shop Around the Corner (1940)

      The Shop Around the Corner  จากละครเวทีถูกถ่ายทอดสู่แผ่นฟิล์ม เรื่องราวของ “คู่กัด” ที่เปลี่ยนมาเป็น “คู่รัก” กันในที่สุด โดยเล่าเรื่องราวของ “อัลเฟรด คราลิก” ชายหนุ่มผู้ขยันขันแข็ง จนเป็นที่รักของใครหลายๆ คน ยกเว้น “คลาร่า โนแวค” หญิงสาวที่เข้ามาทำงานใหม่ ที่คุยกันทีไรต้องทะเลาะกันทุกที แต่เขากลับหลงรักผู้หญิง “ที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน” เพียงเพราะได้พูดคุยกันทางจดหมายเท่านั้น แล้ววันหนึ่งเขาก็ได้รู้ความจริงว่าคนที่เขาแอบหลงรัก ชอบในทัศนคติและนิสัยใจคอ เธอคือคนๆ เดียวกันกับ “คนที่เขาไม่ชอบ” และชวนทะเลาะกันทุกวัน เมื่อเวลาผ่านไปอัลเฟรดกลับคิดว่าเขาได้หลงรักแม่สาวคลาร่าตัวจริงเสียแล้ว จึงตัดสินใจเข้าไปบอกความจริงกลับเธอว่าเขาคือผู้ชายในจดหมายคนนั้น พร้อมกับเฉลยว่าตนเองได้หลงรักคู่กัดไปเป็นที่เรียบร้อย แต่หนึ่งประโยคสนทนาที่แสนเรียบง่ายแต่กลับตรึงใจคนดูได้ล้นหลามในฉากบอกรักของเรื่องนี้ก็คือ “เธอรู้สึกอย่างไร ที่ได้รู้ความจริงว่าผู้ชายในจดหมายคนนั้นคือฉัน อัลเฟรด คราลิก” และคำตอบของคลาร่าที่ตอบกลับแบบยังงงๆ ว่า “ก็ไม่รู้สึกอย่างไร แต่ก็ไม่ได้รังเกียจ” แค่นี้ล่ะค่ะ เล่นแม่ยกปลื้มปริ่มกันทั้งโรงภาพยนตร์เลยล่ะ หรือถ้าจะพูดให้เข้ายุคสมัยหน่อยก็คงฟินกันตายไปข้างเลยล่ะ  ฮา.........

      เรื่องนี้มีการนำมารีเมคใหม่ โดยใช้ชื่อว่า You’ve Got mail เปลี่ยนชื่อเรื่องแต่ยังใช้เค้าโครงเดิม เพื่อให้หนังดูทันสมัยตามยุค ความสนุกและความประทับใจไม่แพ้กันเลยค่ะ

A Christmas carol(1938)

      จากบทประพันธ์ในนิยายได้โลดเล่นสู่โรงภาพยนตร์ และแอนิเมชั่นสุดตระการตาของ Disney’s จนเป็นที่โด่งดังไปทั่วโลกจนถึงปัจจุบัน A Christmas carol  เรื่องนี้หลายคนคงคุ้นชื่อเป็นอย่างดีเลยค่ะ จริงมั๊ย? ใครเป็นแฟนเรื่องนี้สารภาพมาซะดีๆ ^_^ A Christmas carol เป็นเรื่องราวของชายหนุ่มที่มีชื่อว่า“เอเบเนเซอร์ สครูจ”  (Ebenezer Scrooge)ให้เสียงโดย “จิม แคร์รีย์” นายธนาคารผู้มีนิสัยเห็นแก่ตัว เลือดเย็นละโมบและชอบดูถูกคนอื่นเรื่องราวเริ่มต้นในคืนวันคริสต์มาสอีฟ เขาได้แสดงให้ทุกคนได้เห็นว่าไม่ได้อยากมีความสุขในเทศกาลนี้ จึงได้กลับบ้านมาเพียงลำพัง และได้พบกับวิญญาณของเพื่อนเก่า ที่ตั้งใจมาเตือนให้เขาระวังภูติแห่งเทศกาลคริสต์มาส จำนวน 3 ตน ที่กำลังจะมาเยือน คือ "ภูติแห่งคริสต์มาสในอดีต" (Ghost of Christmas Past) เป็นภาพชีวิตของสครูจในอดีตเมื่อตอนยังยากจนแต่กลับใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขและมีความเอื้ออารีต่อผู้คน ตนที่ 2 คือ "ภูติแห่งคริสต์มาสในปัจจุบัน" (Ghost of Christmas Present) ได้แก่ภาพชีวิตในปัจจุบันของสครูจ ที่มักเบียดเบียนผู้คนอย่างเลือดเย็น จนเป็นที่หวาดเกรงและเกลียดชังจากคนรอบข้าง และตนสุดท้าย "ภูติแห่งคริสต์มาสในอนาคต" (Ghost of Christmas Yet to Come) เป็นภาพของสครูจที่นอนตายอย่างเดียวดายและถูกหัวขโมยเข้ามารุมทึ้งทรัพย์สมบัติและหลุมฝังศพปีศาจทั้ง 3 ตนนี้จะมาเปิดโลกความสะพรึงสู่การผจญภัยสุดอลังการที่จะเปลี่ยนชีวิตของเขาตลอดไป โดยการให้เขาได้เห็นความจริงของชีวิตที่ตาเฒ่าสครูจไม่กล้าเผชิญหน้า เขาจะต้องเปิดใจและเปลี่ยนแปลงชีวิตอันหดหู่ของเขาก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินแก้

      และทั้งหมดเป็นภาพยนตร์วันคริสต์มาสที่ Karuntee ขอแนะนำให้ดูค่ะ แต่ละเรื่องถึงจะเก่าแต่ยังดูคลาสสิก มีเสน่ห์ชวนให้ดูอยู่เสมอเพราะไม่ว่าเวลาจะผ่านมานานขนาดไหน มีหนังที่เกี่ยวกับคริสต์มาสออกมาให้ชมมากมายเท่าไหร่ ก็ไม่อาจทำให้ภาพยนตร์เหล่านี้หายไปจากความทรงจำสุดประทับใจของหลายๆ คนได้ เมื่อถึงเทศกาล Merry x’ mas ทีไร เป็นตกหยิบขึ้นมาดูตลอดเลยค่ะ

รูปภาพประกอบจาก 

Pinterest