ถึงเดือนธันวาคมเมื่อไหร่ เทศกาลแห่งความสุขก็หวนกับมาให้เราได้สนุกสนานกันมากมาย โดยเฉพาะกิจกรรมวันคริสต์มาส ที่หลายคนเฝ้ารออย่างใจจดใจจ่อว่าปีนี้จะมีซานตาครอสเอาของขวัญมาให้หรือเปล่า เพราะเมื่อพูดถึงวันคริสต์มาส หลาย คนจะนึกถึงซานตาครอสที่มาพร้อมกับถุงของขวัญและกวางเรนเดียร์ หิมะสีขาวสะอาด เพลงวันคริสต์มาสที่เปี่ยมด้วย วิญญาณ ทั้งนี้อีกหนึ่งอย่างที่ขาดไม่ได้คือต้นคริสต์มาส ซึ่งน้อยคนนักที่จะรู้ประวัติและความเป็นมาของเจ้าต้น คริสต์มาส ทำไมต้องเป็นต้นคริสต์มาส เราแต่งต้นคริสต์มาสให้สวยงามไปเพื่ออะไร ทำแล้วได้ประโยชน์อย่างไร วันนี้เราจึงนำเรื่องราว อีกหลายๆ อย่างที่ควรรู้เกี่ยวกับต้นคริสต์มาสมาฝากกัน
ความเชื่อของชาวคริสต์กับต้นคริสต์มาส
ต้นคริสต์มาสในความหมายของชาวคริสต์ คือ ต้นไม้ในสวนสวรรค์ เชื่อกันว่าเป็นต้นไม้ที่อาดัมกับเอวาหยิบผลมากิน ซึ่งถือ เป็นการทำบาปที่ไม่เชื่อฟังพระเจ้า ในศตวรรษที่ 11 ชาวคริสต์มักจะแสดงละครหน้าวัดที่เกี่ยวกับต้นคริสต์มาส โดยนำ ต้นไม้ต้นหนึ่งไว้ตรงกลาง เพื่อประกอบฉาก เป็นการแสดงถึงบาปกำเนิดของอาดัมและเอวาที่ได้ก่อไว้ ต้นไม้ที่ใช้ ประกอบ การแสดง (ใช้เป็นต้นคริสต์มาส) คือ ต้นสน เพราะเป็นต้นไม้ที่หาง่ายมากที่สุด การแสดงคริสต์มาสเหล่านี้ สืบทอดเป็นเวลา นาน จนเมื่อศตวรรษที่ 15 พระสังฆราชจากหลายแห่งได้ห้ามแสดง เนื่องจากการแสดงนั้น กลายเป็นการ เล่นเหมือนลิเก ล้อชาวบ้าน ผู้ปกครองบ้านเมือง และศาสนา ซึ่งไม่ตรงกับบรรยากาศของการฉลองทำให้ชาวบ้านหมดโอกาสสนุกสนาน จากการดูละคร พวกเขาจึงหันมาสร้างความสุขไว้ที่บ้านของตนเองด้วยการเอาต้นไม้มาประดับตกแต่ง หลังจากนั้นจึงเริ่ม มีการแขวนลูกแอปเปิ้ล ขนมและของขวัญมากมายอย่างที่เราเห็นมาจนถึงปัจจุบัน นอกจากนี้ชาวคริสต์ ในสมัยนี้ยังเชื่อว่า ต้นคริสต์มาสหมายถึงพระเยซู ผู้เปรียบเสมือนต้นไม้แห่งชีวิตที่เขียวสดเสมอในทุกฤดูกาล รวมทั้ง นิรันดรภาพของพระเยซู เจ้า และสื่อถึงความสว่างของพระองค์เปรียบเสมือนแสงเทียนที่ส่องในความมืด พร้อมทั้งชื่นชม ยินดีในความสามัคคีที่ พระเยซูเจ้าประทานให้ โดยถือว่าต้นคริสต์มาสนั้นเป็นจุดรวมของครอบครัวในเทศกาล
|
ประวัติและความเป็นมาของต้น Poinsettia หรือต้นคริสต์มาส
นอกจากต้นสนที่เป็นสัญญลักษณ์ของเทศกาลแล้ว ยังมีต้นไม้อีกชนิดหนึ่งที่นิยมในการนำมาประดับบ้านในช่วงเทศกาลนี้ โดยต้นไม้ชนิดนี้ มีชื่อว่า POINSETTIA หรือบ้านเรามักเรียกว่าต้นคริสต์มาส ซึ่งลักษณะเป็นไม้พุ่มเตี้ย แต่จะมีใบคล้าย รูปไข่ ปลายแหลมออกเป็นช่อและมีสีแดงสดสวยงามในช่วงเทศกาลคริสต์มาส ต้น POINSETTIA นี้มีประวัติความเป็นมา ไม่น้อยหน้าต้นสนคริสต์มาสเช่นกัน โดยมีเรื่องเล่ากันว่า...
วันที่ 25 ธันวาคม เป็นวันประสูติของพระเยซู ศาสดาแห่งศาสนาคริสต์ พระองค์ประสูติที่เมืองเบ็ธเลเฮ็ม และเติบโตที่ เมืองนาซาเรท ซึ่งปัจจุบันคือประเทศอิสราเอล ขณะเดียวกันในวันประสูติพระเยซู มีเด็กหญิงตัวเล็กๆ นามว่า PEPITA ชาวเม็กซิโกคนหนึ่งต้องการมอบของขวัญชิ้นพิเศษให้กับพระเยซู ด้วยความที่เธอเป็นคนยากจนจึงไม่มีของขวัญใดแม้ เพียงสักชิ้นเดียว แต่ด้วยใจที่เปี่ยมล้นด้วยศรัทธา เธอจึงก้มลงเก็บวัชพืชริมทางเพื่อนำไปมอบให้แด่พระเยซู ด้วยแรงศรัทธา อันยิ่งใหญ่ของเธอ วัชพืชนั้นกลับงอกงาม กลายเป็นช่อดอกไม้สีแดงสดสวยงาม หลังจากนั้นมาจากตำนานที่ กล่าวมา วัชพืชของเด็กหญิง PEPITA จึงได้ชื่อว่า Flores de Noche Buena หรือ Flowers of the Holy Night ตามภาษาเม็กซิกัน ภายหลังต่อมาเมื่อปี ค . ศ .1820 ต้น Flowers of the Holy Night ก็ได้เป็นที่รู้จักในชื่อ POINSETTIA สาเหตุเนื่องจาก JOEL ROBERTS POINSETT เอกอัคราชฑูตสหรัฐฯ คนแรกประจำประเทศเม็กซิกัน ได้เดินทางท่องเที่ยวไปตามชนบทเพื่อมองหา ไม้แปลกใหม่ที่ไม่เคยพบมาก่อน แล้วพบพุ่มไม้สวยพุ่มหนึ่งมีสีแดงสดใสขึ้นอยู่บริเวณริมถนน จึงได้นำไม้นั้นกลับไปปลูกที่ เรือนเพาะ เลี้ยงต้นไม้ของเขาที่ South Carolina หลังจากนั้นเขาก็กลายเป็นที่รู้จักและจดจำ ในฐานะของบุคคลที่นำ POINSETTIA เข้ามาให้เป็นที่รู้จักและเผยแพร่ในสหรัฐฯเป็นคนแรก ชื่อของต้นไม้นี้ก็ตั้งขึ้นเพื่อ เป็นเกียรติแก่เขานั่นเองและ ด้วยความนิยมเป็นอย่างมากแทบทั่วโลก รวมทั้งเมืองไทยด้วยเช่นกัน เมื่อถึงเทศกาล คริสต์มาส ทั้งห้างร้าน ออฟฟิศหรือแม้ กระทั่งบ้าน ก็มักนิยมประดับตกแต่งต้นคริสต์มาสเหมือนชาวคริสต์ด้วย แต่เนื่อง จากบ้านเราเป็นเมืองร้อนต้น POINSETTIA จึงหายากมาก กระนั้นทางภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือโดยเฉพาะ ที่อำเภอภูเรือ จังหวัดเลย ที่มีอากาศค่อนข้าง หนาวกว่าพื้นที่อื่นๆ ก็มีการเพาะปลูกต้น POINSETTIA และนำมาขายกัน เป็นล่ำเป็นสันในช่วงเดือนธันวาคมนี้ด้วย
|
การประดับตกแต่งต้นคริสต์มาส
สำหรับความเป็นมาของการประดับตกแต่งต้นคริสต์มาสนั้น เชื่อกันว่ามาจากประเพณีเกี่ยวกับเทศกาลคริสต์มาสของชาวเยอรมัน เนื่องจากในสมัยก่อนได้มีการจุดเทียนหลายเล่มเป็นรูปปิรามิดไว้ตลอดคืนคริสต์มาส โดยมี ดาวดาวิด ที่เป็นดาวหกแฉกประดับอยู่บนยอดปิรามิด ทั้งนี้เชื่อว่ามุมทั้งหกของดาวนั้นสื่อความหมายถึง ลักษณะ 6 ด้านของพระเจ้า ได้แก่ ฤิทธิ์เดช, สติปัญญา, ความสง่างาม, ความรัก, ความเมตตา และความยุติธรรม ต่อมาในศตวรรษที่ 16 ได้มีการนำประเพณี การตกแต่งต้นคริตส์มาสและการจุดเทียนมารวมกัน ทำให้กลายมาเป็นประเพณีวันคริสต์มาสในปัจจุบัน ที่มีการแขวนของ ขวัญ และตกแต่งไฟกะพริบไว้ที่ต้นคริสต์มาส โดยมีดาวดาวิดประดับอยู่บนยอดของต้นไม้ จากนั้นก็เริ่มมีวิวัฒนาการของ การตกแต่งมาเรื่อยๆ จนขยายการตกแต่งไปยังบริเวณรอบๆ บ้าน และเครื่องประดับตกแต่งสถานที่ที่กลายเป็นที่นิยมใน ปัจุจบันนั้น ได้แก่ ระฆัง กระดิ่ง เทียนไข ลูกกวาดไม้เท้า ถุงเท้ายาว พวงมาลัย พวงหรดคริสต์มาส เป็นต้น
|
สัญลักษณ์ในวันคริสต์มาสที่ชาวคริสต์นิยมนำมาประดับตกแต่งบ้านนอกเหนือจากต้นคริสต์มาส
นอกจากชาวคริสต์จะนิยมตกแต่งต้นคริสต์มาสและบริเวณบ้านให้ดูสวยงาม เพื่อเฉลิมฉลองและระลึกถึงวันประสูติของ พระเยซูคริสต์ รวมทั้งเพื่อความสุข สนุกสนานในปาร์ตี้คืนวันคริสต์มาสแล้ว ทั้งนี้การประดับและตกแต่งทั้งหลาย ยังรวม ถึงความเชื่อต่างๆ ของชาวคริสต์ไว้ด้วยกัน จนกลายมาเป็นสัญลักษณ์ที่สำคัญในวันคริสต์มาส เรามาดูกันว่าสัญลักษณ์ ต่างๆ นั้นมีอะไรกันบ้าง.....
นกพิราบคาบกิ่งมะกอก
มิสเซิลโท
พวงหรีดคริสต์มาส
ดาว
ถุงเท้า
ลูกกวาดไม้เท้า
เครื่องประดับและแอปเปิ้ล
รู้จักความเป็นมาและการประดับตกแต่งต้นคริสต์มาสกันแล้ว ใครที่กำลังต้อนรับเทศกาลแห่งความสุขส่งท้ายปีก็อย่าลืม จัดเต็ม หาข้อมูลและเตรียมอุปกรณ์กันให้เรียบร้อย ประดับประดาบ้านให้สวยงาม รื่นเริงและร่วมเฉลิมฉลองช่วงเทศกาลให้ เต็มที่ ขอให้ทุกคนมีความสุข สนุกสนาน ต้อนรับเทศกาลคริสต์มาสนี้ รวมถึงโชคดี มีชัย ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่กันทุกคน นะคะ สาธุ....
|