คุณค่าของความงามคือการสร้างสรรค์ มนุษย์เรามีความคิดที่ไม่เคยหยุดนิ่ง และคอยสร้างสีสันในการใช้ชีวิตให้ไม่น่าเบื่อจำเจ มักมีเทศกาลต่างๆเพื่อสร้างสีสันความบันเทิงให้กับชุมชนของตนเอง จนเกิดเป็นสิ่งที่ทำสืบต่อกันมากลายเป็นวัฒนธรรมที่มีความเด่นชัดเป็นเอกลักษณ์ และควรรักษาไว้จวบจนมาถึงปัจจุบัน
และที่เมืองเวนิสแห่งนี้ยังมีเทศกาลหน้ากากที่ถือเป็นอีกหนึ่งเอกลักษณ์ของเวนิส โดยมีการจัด เวนิส คาร์นิวัล (VENICE CARNIVAL) เทศกาลหน้ากากที่เก่าแก่และโด่งดังที่สุดของอิตาลี เปรียบเสมือนว่าเป็นเครื่องหมายแสดงให้เห็นถึงการแสดงออกอย่างเสรีภาพ ความเป็นอิสระทางการแสดงออก ในช่วงคาร์นิวาลเป็นช่วงเวลาที่เวนิส มีสีสัน และพลุกพล่านมากที่สุด จากเมืองที่ในเวลาปกติจะสงบเงียบ กลายเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยผู้คน ต่างแห่มาชมกันอย่างล้นหลามแทบจะไม่มีที่ยืนกันเลยล่ะค่ะ เพราะเทศกาลหน้ากากนี้จะจัดขึ้นเพียงปีละครั้ง ช่วงประมาณต้นเดือนกุมภาพันธ์ค่ะ
ประวัติเทศกาลหน้ากากเวนิสคาร์นิวัล
แต่หลังจากการยึดครองของกองทัพนโปเลียนในปี 1797 เมื่อเวนิสกลายเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรลอมบาร์ดี-เวเนเทีย ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป การยึดครองนำมาซึ่งการสั่งห้ามการจัดงานเฉลิมฉลองงานรื่นเริงเป็นเวลาหลายปี ผู้คนไม่ได้รับอนุญาต ให้ใช้หน้ากากเปเปอร์มาเช่เพื่อปกปิดหน้าตา และงานเต้นรำสวมหน้ากากก็ถูกห้าม จนกระทั่งทศวรรษที่ 1970 ประเพณีดั้งเดิมดังกล่าวถูกฟื้นขึ้นมาใหม่ เมื่อกลุ่มอดีตนักศึกษาของ Academy of Fine Art ได้รื้อฟื้นเทศกาลหน้ากากขึ้นมาใหม่ ได้เปิดร้านขายหน้ากากสมัยใหม่แห่งแรกของกรุงเวนิสขึ้นในปี 1978 ผู้คนจะสวมใส่เสื้อผ้าหลากสีที่สวยงามอลังการงานสร้าง ทุกคนจะออกมาเดินฉลองกันบนท้องถนน กิน ดื่ม ใช้ชีวิตแบบที่ไม่ต้องกลัวใครจำได้ จะเป็นประสบการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งหนึ่งในชีวิต ที่ทำให้ไม่มีวันลืมอย่างแน่นอน
แต่ปัจจุบันงานเวนิสคาร์นิวาลเรียกได้ว่า กลายเป็นธุรกิจการท่องเที่ยวอันดับหนึ่งของเวนิสไปแล้ว หน้ากากก็ไม่ได้มีไว้เพื่อปกปิดตัวเองอีกต่อไป แต่มีไว้เพื่อความสวยงามเสียมากว่า ในสมัยก่อนหน้ากากมักจะเป็นสีขาวธรรมดาในส่วนของผู้ชายหน้ากากจะออกแนวเรียบๆ ส่วนของผู้หญิงก็จะมีของตกแต่งที่เยอะกว่า แต่ปัจจุบันหน้ากากมีหลายดีไซน์ หลากสี ลวดลายแปลกตาไม่ซ้ำกัน มีความอลังการไม่แพ้กันทั้งผู้ชายและผู้หญิง จุดหลักของงานคาร์นิวาล จะอยู่ที่ ลานหน้า Basilica San Marco และบริเวณโดยรอบ เป็นจุดประชันความอลังการเลยก็ว่าได้ โดยจะเป็นศูนย์รวมของพวกนักแต่งชุดมืออาชีพที่มาในชุด Custume แปลกๆ สีสันสดใสเต็มยศรวมไปถึงหน้ากากที่ขาดไม่ได้
นอกจากนี้ในปัจจุบันยังมีร้านค้าอำนวยความสะดวกให้กับผู้ที่มาท่องเที่ยว ที่ไม่สะดวกจะใส่หน้ากากเต็มยศแต่ใช้วิธีการเพ้นท์หน้าแทน และยังมีร้านค้าบางร้านเปิดขายเฉพาะช่วงคาร์นิวาลเท่านั้น จบเทศกาลเจ้าของก็ปิดร้าน ไปทำธุรกิจที่ในฝั่งแผ่นดิน ปีหน้ามีงานฉลองก็กลับมาใหม่ กลายเป็นช่องทำมาหากินอย่างเต็มตัวภายในเทศกาลหน้ากากนี้
ประเภทของหน้ากากที่สวมในคาร์นิวัลของเวนิส
2. หน้ากากแฟนตาซี ประดิษฐ์ขึ้นตามจินตนาการของช่างทำหน้ากาก ซึ่งส่วนใหญ่จะได้รับแรงบันดาลใจมาจากการศิลปะการออกแบบในประวัติศาสตร์
3.หน้ากากแบบดั้งเดิมของชาวเวนิส เช่น หน้ากากสีขาวธรรมดา, หน้ากากขาวปลายแหลมคล้ายปากนก ซึ่งเป็นหน้ากากที่พวกหมอเคยใช้ในสมัยที่กาฬโรคระบาดครั้งใหญ่ช่วงศตวรรษที่ 14 และจะใส่สมุนไพรเอาไว้ที่ปลายแหลม เพื่อฆ่าเชื้อในอากาศที่สูดเข้าไป
เรียกได้ว่าหน้ากากที่มีความสวยงามเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวอยู่แล้ว เมื่อนำมาตกแต่งภายในบ้านสามารถทำให้ผนังโล่งๆนั้นดูมีเสน่ห์ไปอีกแบบค่ะ หรือบางท่านที่ชอบสะสมหน้ากากประเภทต่างๆก็สามารถใช้ผนังบ้านเป็นที่แขวนเก็บหน้ากากได้ แถมยังเป็นการตกแต่งผนังไปในตัวอีกด้วย
การทำเป็นภาพติดผนังที่ทำให้คนมองเหมือนถูกต้องมนต์ในเสน่ห์ของหน้ากาก
ไอเดียการใช้หน้ากากประดับตกแต่งของใช้ภายในบ้าน
การใช้หน้ากากเป็นส่วนหนึ่งในงานแฟชั่นโชว์ (MGPIN Make-up Styling 2012 of China Fashion Week )
ถึงแม้ว่าเทศกาลหน้ากากแห่งเวนิสจะมีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบไปตามกาลเวลา แต่ก็ยังคงมีมนต์เสน่ห์ในแบบฉบับของตัวเองและรักษาความเป็นเอกลักษณ์เอาไว้ได้อย่างดี จนกลายเป็นอีกแหล่งท่องเที่ยวที่ผู้คนมากมายแห่กันอยากไปให้ได้สักครั้งในชีวิต สำหรับผู้ที่ได้อ่านบทความนี้แล้วก็คงอยากจะหาโอกาสไปเที่ยวกันสักครั้งใช่ไหมคะ แต่ถ้ายังไม่มีเวลาไปไกลถึงอิตาลีก็แวะเที่ยวเมืองไทยบ้านเราก่อนก็ได้นะคะ มีแหล่งท่องเที่ยวสวยงามมากมายไม่แพ้ชาติอื่นๆเลยล่ะค่ะ สำหรับเดือนนี้ สวัสดีค่ะ
www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9480000101036 |